เบื้องหลัง “จิ้งจอก” สตาร์ทหรู

ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ชายตาไปที่หัวตาราง พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อผ่านพ้น 4 นัดก่อนเบรกโปรแกรม ฟีฟา เดย์ มีอันต้องสะดุดกับชื่อของ “จิ้งจอก” เลสเตอร์ ซิตี สโมสรที่มีเจ้าของเป็นคนไทย

ทั้งที่ก่อนเปิดฤดูกาลมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งกุนซือไล่ ไนเจล เพียร์สัน คนที่พาทีมชนะ 7 จาก 10 นัดหลังสุดจนรอดตกชั้นแบบปาฎิหาริย์เมื่อปีที่แล้ว

ส่วนผลงานตอนนี้เกาะที่ 3 ชนะ 2 เสมอ 2 นัดยังไม่แพ้ใคร ภายใต้การคุมทัพของ เคลาดิโอ รานิเอรี ผู้มากประสบการณ์เคยกุมบังเหียน เชลซี ระหว่างปี 2000-2004 และอีกนับไม่ถ้วนทั้งในอิตาลี, สเปน และฝรั่งเศส

ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาแทบไม่ค่อยมีใครพูดถึง เลสเตอร์ ขณะที่หลายสโมสรเสริมทัพกันขาขวิดจนกระทั่งวันสุดท้ายเมื่อ 1 กันยายน แต่ รานิเอรี เหมือนว่าตลาดของตนเองนั้นปิดไปก่อนหน้านั้นแล้ว โดยพึงพอใจขุมกำลังที่มีในมือ รายสุดท้ายที่เข้ามามีเพียง นาธาน ดายเออร์ มิดฟิลด์ที่ยืมจาก สวอนซี ซิตี

คนที่เล่นโดดเด่นก็คือ ริยาด มาห์เรซ กองกลางทีมชาติแอลจีเรีย กดไปแล้ว 4 ประตู เจมี วาร์ดี กองหน้าที่ก้าวไปติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ด้วยวัย 28 ปี รวมถึง ชินจิ โอกาซากิ ดาวยิงที่ซื้อมาจาก ไมนซ์ 05 ซัมเมอร์ที่ผ่านมาค่าตัว 7 ล้านปอนด์ (ประมาณ 385 ล้านบาท) ยิงไปได้แล้ว 1 ลูก นอกจากนี้ยังมีเตะตาอีกหลายคนรวมถึง มาร์ค อัลไบรจ์ตัน อดีตตัวรุก แอสตัน วิลลา

ที่สำคัญส่วนใหญ่ราคาไม่แพง วาร์ดี ถูกซื้อจาก ฟลีตวูด สโมสรนอกลีก 1 ล้านปอนด์ (ประมาณ 55 ล้านบาท) เมื่อปี 2012 มาห์เรซ จาก เลอ อาฟร์ 350,000 ปอนด์ (ประมาณ 19.2 ล้านบาท) ต้นปี 2014 คนนี้เพิ่งมีข่าวร้อนๆ ว่า บาร์เซโลนา สนใจ ส่วน โอกาซากิ นั้นมาก่อนที่ เพียร์สัน จะโดนตะเพิด

ทั้ง 3 คนมาจากผลงานแมวมอง เลสเตอร์ ที่นำโดย สตีฟ วอลช์ ผู้ช่วยของ เพียร์สัน คนนี้ไม่ธรรมดาเคยทำงานกับ เชลซี ถึง 16 ปีและ โชเซ มูรินโญ กุนซือชาวโปรตุกีสที่ตอนนี้เข้ามาคุมถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ คำรบ 2 เคยแต่งตั้งให้ทำหน้าที่หานักเตะโซนยุโรป ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด สมัยที่ แซม อัลลาไดซ์ เป็นนายใหญ่ จากนั้นล่าสุดจึงมาอยู่กับ เลสเตอร์

วอลช์ ทำงานกับ เดวิด มิลล์ส หัวหน้าแมวมอง เลสเตอร์ ได้รับข้อมูลผู้เล่นจาก “Wyscout” บริษัทที่รวบรวมคลิปแมตช์จากทั่วทุกมุมโลก รวมถึงมีเอเยนต์ที่เชื่อถือได้คอยแนะนำ ก็แค่สโมสรระบุตำแหน่งที่ต้องการ สไตล์การเล่นนักเตะ รวมถึงงบประมาณที่จะซื้อ จากนั้นก็จะจัดสรรมาให้เลือก

ไมนซ์ 05 แห่งศึก บุนเดสลีกา เยอรมนี รู้กันดีว่าเป็นสโมสรที่ขายนักเตะเพื่อทำเงินเป็นหลัก โอกาซากิ ก็สถิติไม่ธรรมดายิงให้ ญี่ปุ่น 43 ประตูจาก 93 นัด แถมเคยเล่นให้ สตุ๊ตการ์ท มาแล้ว

รายของ โอกาซากิ ไม่น่าแปลกใจเท่า มาห์เรซ ที่เล่นอยู่ใน ดิวิชัน 2 ของฝรั่งเศส โดย วอลช์ จับตาดูอยู่ถึง 18 เดือนก่อนตัดสินใจเซ็นสัญญา ถือว่ามีทักษะรวมถึงความเร็วที่สำคัญอายุยังน้อยแค่ 24 ปีแถมไปลุย เวิลด์ คัพ 2014 มาแล้วด้วยที่ แอลจีเรีย เข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย

ส่วน วาร์ดี เสี่ยงมากกว่าอีก เพราะถูก เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ ปล่อยสมัยเป็นแข้งวัยทีน แถมไม่เคยเล่นฟุตบอลลีก ตอนนั้นก็มีทีมอย่าง คริสตัล พาเลซ รวมถึง เวสต์ บรอมวิช อัลเบียน ที่สนใจ

แต่สัจธรรมลูกหนังคือการซื้อก็ใช่ว่าจะประสบความสำเร็จทุกครั้ง ดูอย่าง อังเดร ครามาริช กองหน้าชาวโครแอต จาก เรเยกา ค่าตัว 9 ล้านปอนด์ (ประมาณ 495 ล้านบาท) มาเมื่อกลางฤดูกาลที่แล้ว 13 นัดใน พรีเมียร์ ลีก ยิงไปแค่ 2 ประตูปัจจุบันวัย 24 ปี

เทอร์รี โรบินสัน อดีตผู้อำนวยการด้านฟุตบอล เข้ามาดำเนินการดูแลเรื่องต่างๆ หลังหมดยุค สเวน โกรัน อิริคส์สัน เป็นหนึ่งในคนที่คว้า มาห์เรซ ก่อนถูกไล่ออก ตอนนี้เป็น จอน รัดกิน ถูกดันขึ้นมาแทนจากอะคาเดมีเมื่อเดือนพฤศจิกายน ซึ่งก็จัดการคว้า โอกาซากิ การมาของ รานิเอรี ก็ดึงแข้งมาอีกอย่าง โยฮัน เบนาลูยาน กองหลังจาก อตาลันตา, ก็อคคาน อินแลร์ กองกลางจาก นาโปลี และ เอ็นโกโล คานเต กองกลางฝรั่งเศส

ทั้งหมดถือว่าน่าตื่นเต้นไม่น้อย แต่ต้องดูกันยาวๆ เมื่อจบฤดูกาลนี้จะเป็นตัววัด ที่สำคัญถือว่าออกสตาร์ทดีแล้ว แต่อย่าให้ตรงกันข้ามกับปีที่แล้วที่ออกตัวแย่ก่อนรอดตกชั้นแล้วกัน

เรื่อง สรเดช เพชรแสงใสกุล

* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *