โชเซ มูรินโญ ผู้จัดการทีม เชลซี ปฏิเสธยอมรับความพ่ายแพ้หลังบุกไปโดน แมนเชสเตอร์ ซิตี ยัดเยียดความปราชัย 0-3 ศึก พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ คืนวันที่ 16 สิงหาคม ที่ผ่านมา อ้างเป็นแค่ผลแหกตาคนดู และคิดว่าทีมของตนเล่นได้ดีกว่าโดยเฉพาะครึ่งหลัง
“สิงห์บลูส์” บุกรัง เอติฮัด สเตเดียม โดนเจ้าบ้านยิงเละเทะไล่ตั้งแต่ เซร์คิโอ อกูเอโร นาที 31, แวงซองต์ กอมปานี โหม่ง นาที 79 และ แฟร์นานดินโญ ยิงปิดกล่อง นาที 85 ส่งให้แชมป์เก่า สตาร์ท 2 นัด เสมอ 1 แพ้ 1 มีแค่ 1 แต้มเท่านั้น ส่วน ซิตี มี 6 แต้ม ขึ้นจ่าฝูง
แต่หลังเกม มูรินโญ แน่นอนว่าไม่ยอมรับผลที่เกิดขึ้นเพราะคิดว่าทีมของตัวเองเล่นดีกว่ามากโดยเฉพาะครึ่งหลัง “ทีมที่ดีที่สุดในครึ่งแรกเป็นผู้ชนะในเกมนี้ แต่ทีมที่ดีที่สุดในครึ่งหลังเป็น เชลซี อย่างไม่ต้องสงสัย ครึ่งแรกเราเล่นกันอย่างยากลำบาก สร้างสรรค์จังหวะได้ไม่มาก และผู้รักษาประตูของเราก็เซฟจังหวะสำคัญได้หมด”
“แต่พอมาถึงครึ่งหลัง ทุกอย่างมันเปลี่ยนไป ถ้าผล 1-0 เป็นเรื่องที่น่ากังขาตอนนาที 70 สกอร์ 3-0 ก็เป็นผลแหกตา เพราะตอนที่สกอร์ 1-0 เชลซี เป็นทีมที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย พวกเขาเริ่มเปลี่ยนแผนเพราะนำแค่ลูกเดียวยังอันตรายเกินไป และเราก็เสียลูกที่สอง ถ้าผลเป็น 1-1 เรื่องคงเปลี่ยน และทีมพวกเขานั่นแหละที่จะมีปัญหา” กุนซือชาวโปรตุกีส กล่าว
ส่วนเหตุผลที่เปลี่ยนตัว จอห์น เทอร์รี กัปตันทีมออกในครึ่งหลังแบบชวนสงสัย “เดอะ สเปเชียล วัน” ตอบเรื่องนี้ว่า “จอห์น ไม่ได้มีอาการบราดเจ็บ มันเป็นแท็กติกของผม ผมรู้ว่า เคิร์ท ซูมา เป็นกองหลังที่มีความเร็วจึงส่งเขาลงไป จอห์น เป็นผู้เล่นที่ผมเชื่อมั่น เขาไม่เคยถูกผมเปลี่ยนตัวออก บางครั้งการตัดสินใจก็มีทั้งผิดและถูก แต่สำหรับผม เราคอนโทรลเกมและสวนกลับได้ดี ดังนั้น ผมจึงคิดว่าตัดสินใจถูกแล้ว”
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!***