ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เตรียมกลับมาเปิดฉากฟาดแข้งให้แฟนบอลได้ลุ้นเชียร์กันแล้วในช่วงสุดสัปดาห์นี้ (8 - 9 สิงหาคม 2558) ทว่า ลองมาดูกันหน่อยว่าตลอดซีซันนี้จะมีเรื่องราวไหนที่น่าสนใจชวนให้ติดตามบ้าง
แผงกลางสุดแกร่งของ “ผีแดง”
ฤดูกาลนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เสริมทัพได้น่าดูชม โดยเฉพาะแผงกลางกับแนวรุกอัดแน่นไปด้วยแข้งคุณภาพ เช่น บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, มอร์แกน ชไนเดอร์ลิน, เมมฟิส เดปาย ผนึกกำลังกับที่มีอยู่อย่าง ฆวน มาตา, มารูยาน เฟลไลนี แค่นี้ก็ทำให้ทีมคู่แข่งถึงขั้นหวาดผวาได้แล้ว เพราะรับรองได้จ่ายให้กองหน้าอย่าง เวย์น รูนีย์ ยิงกระจายแน่ แต่มาถึงปุ๊ปจะจูนกันติดเลยหรือไม่รอติดตาม
นักเตะบิ๊กเนมและค่าตัวสถิติใหม่
ถึงเปิดฤดูกาลแล้วแต่ตลาดซื้อขายช่วงซัมเมอร์ก็ใช่ว่าจะปิดตัวลง เพราะยังมีเวลาให้ทีมขาช็อปทั้งหลายได้จับจ่ายใช้สอยอีกเกือบ 1 เดือน โดยปีนี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี คว้า ราฮีม สเตอร์ลิง ปีกความเร็วของ ลิเวอร์พูล ไปพร้อมสร้างเป็นนักเตะอังกฤษค่าตัวแพงสุดไปแล้ว 49 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,548 ล้านบาท) ส่วนหลังจากนี้คงมีอีกแน่ เพราะทั้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือกระทั่ง อาร์เซนอล ยังมองถึงการทุ่มทุนสร้างซื้อนักเตะใหม่อยู่ และน่าจะทำสถิติใหม่การย้ายทีมบนเกาะอังกฤษให้บังเกิดได้อีก
วัดดวง “กุนซือ” ใครจะไปก่อน?
อีกหนึ่งความน่าสนใจคือ บรรดากุนซือทีมระดับรองทั้งหลาย ที่ไม่รู้ว่าจะเกาะเก้าอี้คุมทีมไปได้นานจนจบฤดูกาลหรือเปล่า โดยเฉพาะ ดิค แอตโวคาต ของ ซันเดอร์แลนด์ ปีที่แล้วรอดตัวหวุดหวิด แต่ปีนี้ชวนน่าสงสัย เช่นเดียวกับ เคลาดิโอ รานิเอรี ยอดกุนซือจอมคิดมาก ไปคุม เลสเตอร์ ซิตี้ จะไปได้สักกี่น้ำ รวมถึง เบรนแดน ร็อดเจอร์ส นายใหญ่ ลิเวอร์พูล หากปีนี้ชวดท็อป 4 ตั้งแต่ไม่พ้นครึ่งซีซันเห็นทีบอร์ดบริหารคงไม่ให้ไปต่อ
“น้องใหม่” ทีมไหนจะรอดตาย
เป็นเรื่องปกติที่จะต้องมีทีมน้องใหม่จาก เดอะ แชมเปียนชิป เลื่อนชั้นขึ้นมาสู่เวทีใหญ่สุด ซึ่งหนนี้มี บอร์นมัธ, วัตฟอร์ด และ นอริช ซิตี แต่ละทีมห่างหายจากการขึ้นมาเล่นลีกสูงสุดนานพอดู โดยเฉพาะ บอร์นมัธ เปิดซิงเล่น พรีเมียร์ ลีก ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรอีกต่างหาก นับเป็นความท้าทายยิ่งของ เอ็ดดี ฮาวว์ ผู้จัดการทีม ที่เหลือชื่อชั้นก็ด้อยกว่าทีมอื่นพอสมควร ดังนั้น ต้องดูว่าจบซีซันนี้จะทิ้งผู้รอดชีวิตเหลือไว้เหมือนที่ เบิร์นลีย์ เคยทำไว้ปีก่อนหรือไม่ หรือจะกอดคอกันกลับบ้านเก่าหมด
“เคน - ฟัลเกา” พิสูจน์คุณค่า
ปีที่แล้ว แฮร์รี เคน กองหน้า ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ โดดเด่นเหลือเกินภายใต้การดูแลของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน ผู้จัดการทีม ดาวยิงวัย 22 ปี ระเบิดฟอร์มยิงเป็นว่าเล่น ปิดจ๊อบซัด 21 ประตูในลีก พาต้นสังกัดไปเล่น ยูโรป้า ลีก แถมถูกเรียกไปติดทีมชาติอังกฤษอีกด้วย ทว่า การแจ้งเกิดครั้งนั้นจะเป็นของจริงหรือ “ฟลุก” ต้องดูปีนี้ ส่วน ราดาเมล ฟัลเกา อดีตเครื่องจักรสังหารประตู ฟอร์มกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด น่าผิดหวัง แต่ยังได้รับโอกาสเล่นในเวทีนี้ต่อหลัง เชลซี ติดต่อไปที่ โมนาโก ขอเซ้งยืมต่อ คราวนี้ต้องพิสูจน์ตัวเองแล้วไม่เช่นนั้นคงเหลือแต่ชื่อ
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!***
แผงกลางสุดแกร่งของ “ผีแดง”
ฤดูกาลนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เสริมทัพได้น่าดูชม โดยเฉพาะแผงกลางกับแนวรุกอัดแน่นไปด้วยแข้งคุณภาพ เช่น บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, มอร์แกน ชไนเดอร์ลิน, เมมฟิส เดปาย ผนึกกำลังกับที่มีอยู่อย่าง ฆวน มาตา, มารูยาน เฟลไลนี แค่นี้ก็ทำให้ทีมคู่แข่งถึงขั้นหวาดผวาได้แล้ว เพราะรับรองได้จ่ายให้กองหน้าอย่าง เวย์น รูนีย์ ยิงกระจายแน่ แต่มาถึงปุ๊ปจะจูนกันติดเลยหรือไม่รอติดตาม
นักเตะบิ๊กเนมและค่าตัวสถิติใหม่
ถึงเปิดฤดูกาลแล้วแต่ตลาดซื้อขายช่วงซัมเมอร์ก็ใช่ว่าจะปิดตัวลง เพราะยังมีเวลาให้ทีมขาช็อปทั้งหลายได้จับจ่ายใช้สอยอีกเกือบ 1 เดือน โดยปีนี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี คว้า ราฮีม สเตอร์ลิง ปีกความเร็วของ ลิเวอร์พูล ไปพร้อมสร้างเป็นนักเตะอังกฤษค่าตัวแพงสุดไปแล้ว 49 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,548 ล้านบาท) ส่วนหลังจากนี้คงมีอีกแน่ เพราะทั้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือกระทั่ง อาร์เซนอล ยังมองถึงการทุ่มทุนสร้างซื้อนักเตะใหม่อยู่ และน่าจะทำสถิติใหม่การย้ายทีมบนเกาะอังกฤษให้บังเกิดได้อีก
วัดดวง “กุนซือ” ใครจะไปก่อน?
อีกหนึ่งความน่าสนใจคือ บรรดากุนซือทีมระดับรองทั้งหลาย ที่ไม่รู้ว่าจะเกาะเก้าอี้คุมทีมไปได้นานจนจบฤดูกาลหรือเปล่า โดยเฉพาะ ดิค แอตโวคาต ของ ซันเดอร์แลนด์ ปีที่แล้วรอดตัวหวุดหวิด แต่ปีนี้ชวนน่าสงสัย เช่นเดียวกับ เคลาดิโอ รานิเอรี ยอดกุนซือจอมคิดมาก ไปคุม เลสเตอร์ ซิตี้ จะไปได้สักกี่น้ำ รวมถึง เบรนแดน ร็อดเจอร์ส นายใหญ่ ลิเวอร์พูล หากปีนี้ชวดท็อป 4 ตั้งแต่ไม่พ้นครึ่งซีซันเห็นทีบอร์ดบริหารคงไม่ให้ไปต่อ
“น้องใหม่” ทีมไหนจะรอดตาย
เป็นเรื่องปกติที่จะต้องมีทีมน้องใหม่จาก เดอะ แชมเปียนชิป เลื่อนชั้นขึ้นมาสู่เวทีใหญ่สุด ซึ่งหนนี้มี บอร์นมัธ, วัตฟอร์ด และ นอริช ซิตี แต่ละทีมห่างหายจากการขึ้นมาเล่นลีกสูงสุดนานพอดู โดยเฉพาะ บอร์นมัธ เปิดซิงเล่น พรีเมียร์ ลีก ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรอีกต่างหาก นับเป็นความท้าทายยิ่งของ เอ็ดดี ฮาวว์ ผู้จัดการทีม ที่เหลือชื่อชั้นก็ด้อยกว่าทีมอื่นพอสมควร ดังนั้น ต้องดูว่าจบซีซันนี้จะทิ้งผู้รอดชีวิตเหลือไว้เหมือนที่ เบิร์นลีย์ เคยทำไว้ปีก่อนหรือไม่ หรือจะกอดคอกันกลับบ้านเก่าหมด
“เคน - ฟัลเกา” พิสูจน์คุณค่า
ปีที่แล้ว แฮร์รี เคน กองหน้า ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ โดดเด่นเหลือเกินภายใต้การดูแลของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน ผู้จัดการทีม ดาวยิงวัย 22 ปี ระเบิดฟอร์มยิงเป็นว่าเล่น ปิดจ๊อบซัด 21 ประตูในลีก พาต้นสังกัดไปเล่น ยูโรป้า ลีก แถมถูกเรียกไปติดทีมชาติอังกฤษอีกด้วย ทว่า การแจ้งเกิดครั้งนั้นจะเป็นของจริงหรือ “ฟลุก” ต้องดูปีนี้ ส่วน ราดาเมล ฟัลเกา อดีตเครื่องจักรสังหารประตู ฟอร์มกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด น่าผิดหวัง แต่ยังได้รับโอกาสเล่นในเวทีนี้ต่อหลัง เชลซี ติดต่อไปที่ โมนาโก ขอเซ้งยืมต่อ คราวนี้ต้องพิสูจน์ตัวเองแล้วไม่เช่นนั้นคงเหลือแต่ชื่อ
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!***