ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ก่อนอื่นบอกเลยว่า “ผมไม่ใช่หมอ” แต่ทันทีที่เห็นภาพ รอรีย์ แม็คอิลรอย ก้านเหล็กมือ 1 ของโลกจากไอร์แลนด์เหนือ ยืนโดยต้องอาศัยไม้ค้ำยัน พร้อมขาซ้ายที่ใส่เฝือกป้องกันข้อเท้า ก็ฟันธงได้เลยว่าไม่ควรลงแข่ง เมเจอร์ “ดิ โอเพน” ชิงเงินรางวัลรวม 6.3 ล้านปอนด์ (ประมาณ 340 ล้านบาท) ณ สนาม เซนต์ แอนดรูว์ส สกอตแลนด์ ระหว่างวันที่ 16-19 กรกฎาคมนี้
รอรีย์ โพสต์ภาพแจ้งข่าวร้ายนี้เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมาทาง “อินสตาแกรม” สังคมออนไลน์สุดฮิต โดยเหตุผลที่ได้รับบาดเจ็บเอ็นคือพลาดตอนเตะฟุตบอล พร้อมทิ้งความหวังให้กับแฟนคลับว่ากำลังพยายามเรียกความฟิตกลับมาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ตอนนั้นเหลืออีก 10 วันก่อนที่ “ดิ โอเพน” จะเปิดฉาก ซึ่งโปรวัย 25 ปีมีภารกิจจะต้องลงป้องกันแชมป์เสียด้วย
แหล่งข่าวเผยว่า “รอรีย์ อยู่ที่บ้านใน ฮอลลีวูด เขาเล่นฟุตบอลกับเพื่อนที่เคยเรียนโรงเรียนเดียวกันแบ่งเป็นข้างละ 5 คนก่อนจะได้รับบาดเจ็บข้อเท้า เบื้องต้นเหมือนจะแค่บิดเล็กน้อย แต่ไปๆ มาๆ ค่อนข้างน่าเป็นห่วง”
ดังนั้นไม่คุ้มที่ รอรีย์ จะเสี่ยงใช้งานข้อเท้าตลอดทั้ง 4 วันแถมวงสวิงแต่ละครั้งต้องทิ้งน้ำหนักไปที่เท้าซ้าย หากฝืนอาจจะส่งผลต่อเส้นทางนักกอล์ฟอาชีพในระยะยาว จึงควรรอให้ฟิตร้อยเปอร์เซนต์ก่อนถึงค่อยกลับมาลงสนาม เพราะก็ยังมีเวลาเยียวยาให้ทัน เมเจอร์ สุดท้ายของปี 2015 คือ “พีจีเอ แชมเปียนชิป” ระหว่างวันที่ 13-16 สิงหาคมนี้ ซึ่งก็เป็นแชมป์เก่าเช่นเดียวกัน
หากใครได้ติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด รอรีย์ ถือเป็นแฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตัวยง จึงไม่แปลกที่จะอาศัยเวลาว่างเล่นฟุตบอลที่ถือว่าเป็นกิจกรรมปกติของผู้ชายส่วนใหญ่ก็ว่าได้
ที่ผ่านมาก็มีนักกอล์ฟที่โชคร้ายได้รับบาดเจ็บแปลกๆ มากมายไม่ว่าจะเป็น สตีฟ โจนส์ (สหรัฐอเมริกา) แชมป์ ยูเอส โอเพน ปี 1996 เจ็บมือเพราะดันไปขับรถโมโตครอสในทะเลทราย, เลน แมททริซ (สหรัฐอเมริกา) แพ้เพลย์ออฟ ไมค์ เวียร์ (แคนาดา) เดอะ มาสเตอร์ส ปี 2003 เพราะเข่ามีปัญหาทั้งสองข้างเกิดจากเล่นสกี, ฟิล มิคเคลสัน (สหรัฐอเมริกา) เคยเจ็บเพราะสกีช่วงต้นอาชีพ, ไมค์ รีด (สหรัฐอเมริกา) เจ็บเพราะเล่นปิงปองในโรงรถ และ แบรนด์ท โจเบ (สหรัฐอเมริกา) ปลายนิ้วเป็นแผลขณะกวาดโรงรถและดันด้ามไม้ที่เป็นพลาสติกหักมาโดน
อาการแบบ รอรีย์ ปกติต้องใช้เวลาอย่างน้อย 12 สัปดาห์ แต่นักวิเคราะห์มองว่ามีโอกาสที่จะเล่น “ดิ โอเพน” 10 เปอร์เซนต์ แม้ภาพจะดูเหมือนเจ็บหนัก ทว่าไม่ได้เล่นรุนแรงแบบนักฟุตบอลอาชีพ น่าจะพอฟื้นฟูได้ทัน เหนืออื่นใดกว่าจะซ้อมได้ต้องรอให้ข้อเท้าลดอาการบวมหรืออาจฉีดยาช่วย แต่ก็จะเป็นการฝืนธรรมชาติจนเกินไป
สำหรับ เซนต์ แอนดรูว์ส ถือเป็นสนามที่โปรดปรานของ รอรีย์ ดังนั้นเจ้าตัวย่อมอยากลงเล่น อีกทั้งผลงาน 2 เมเจอร์แรกของปีนี้คือ เดอะ มาสเตอร์ส จบที่ 4 ตามด้วย ยูเอส โอเพน จบที่ 9 ล่าสุดก็ถอนตัวจากศึก สกอตติช โอเพน อีกทั้งยังถูก จอร์แดน สปีธ โปรรุ่นน้องชาวอเมริกัน ที่ตอนนี้ฟอร์มสุดแรกกวาดแชมป์ใหญ่ 2 รายการแรกปีไปแล้วจนไล่ตำแหน่งมือ 1 ของโลกห่างแค่ 1.84 แต้ม แถมมีลุ้นที่จะกลายเป็นคนแรกที่ประวัติศาสตร์ที่ทำ “สแลม ออฟ กอล์ฟ” ภายในปีเดียวด้วย
สปีธ กล่าวว่า "สำหรับผมมองว่าเป็นความท้าทายอย่างหนึ่ง เพราะรายการเมเจอร์มีผู้เล่นยอดฝีมือมากมาย และผมก็อวยพรให้ รอรีย์ กลับมาแข่งได้โดยเร็ว เพราะโดยธรรมชาติคุณย่อมต้องการให้แชมป์เก่าลงแข่ง อย่างน้อยก็มีผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลกในอีเวนต์นี้ด้วย การสูญเสียผู้เล่นมือ 1 โลกในทัวร์นาเมนต์นี้เป็นอะไรที่อึดอัดน่าดู”
นอกจากนี้ที่ เซนต์ แอนดรูว์ส มีเงินรางวัลสำหรับผู้ชนะ 1,150,000 ปอนด์ (ประมาณ 62.1 ล้านบาท) ซึ่งหาก รอรีย์ วืดลงสนาม 3 เดือนจากนี้ยังมีอีก 2 ศึกใหญ่คือ เวิลด์ กอล์ฟ แชมเปียนชิปส์-บริดจ์สโตน อินวิเตชันแนล และ พีจีเอ แชมเปียนส์ ลีก อาจจะทำให้สูญเสียเงินมหาศาลถึง 4.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 243 ล้านบาท) เลยทีเดียว
แง่ของสปอนเซอร์แม้ รอรีย์ จะไม่สูญเสียเงิน แต่แบรนด์อย่าง Nike, Omega และ Bose ที่เซ็นสัญญากันเอาไว้ย่อมผิดหวังไม่น้อย เพราะของแบบนี้สร้างความเสียหายแก่โอกาสที่จะไปโฆษณาตัวสินค้าบนทัวร์นาเมนต์ระดับโลกของวงการกอล์ฟ
ดังนั้นอาการบาดเจ็บครั้งนี้จะเป็นบทเรียนสำคัญให้ รอรีย์ ดีกรี 4 แชมป์เมเจอร์ต้องระมัดระวังมากกว่านี้ เพราะเป็นช่วงระหว่างฤดูกาลที่มีเรื่องผลประโยชน์และชื่อเสียงเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ใช่แค่กอล์ฟรวมถึงนักกีฬาจากทุกประเภทด้วยซ้ำ
เรื่อง สรเดช เพชรแสงใสกุล
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!***