ASTV ผู้จัดการรายวัน – ทัพฟุตบอลทีมชาติไทย ภายใต้การคุมบังเหียนของ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ได้รับเสียงชื่นชมมากมาย จากสไตล์การเล่นที่เปี่ยมด้วยทีมเวิร์ก และระบบดังกล่าวยังต่อยอดไปถึงชุด ยู-23 คัดเลือกโอลิมปิกเกมส์ ด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงเป็นคำถามว่า ทีมชาติไทย ชุด ยู-16 กับ ยู-19 ที่มีการแต่งตั้งทีมงานชุดใหม่เข้ามาดูแล จะสามารถสานต่อตามแนวทางเดียวกับที่ทีมชุดใหญ่วางรากฐานไว้แล้วได้หรือไม่
ก่อนหน้านี้ สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย มีนโยบายให้ “ซิโก้” เป็นผู้วางแนวทางดูแลทีมชาติไทย ทุกชุด ไล่ตั้งแต่ทีมเยาวชน ถึงทีมชุดใหญ่ ทว่าเมื่อถึงวันจริงมีการเปลี่ยนแปลง คือ ยู-16 ให้ ดร.จินติยา จินารัตน์ เป็นผู้จัดการทีม พร้อมดึง พยงค์ ขุนเณร เทรนเนอร์มือเก๋านั่งแท่นเฮดโค้ช และ ยู-19 ตั้ง ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ดูแล โดยดึง “โค้ชจุ่น” อนุรักษ์ ศรีเกิด มาเป็นกุนซือ ซึ่งทั้งสองทีมมีคิวลงเล่น ศึก เยาวชน ชิงแชมป์เอเชีย 2015 วันที่ 17 กรกฎาคม - 9 สิงหาคม ที่กัมพูชา และ 22 สิงหาคม - 4 กันยายน ที่ลาว ตามลำดับ นอกจากนี้ทั้งคู่ยังมีคิวลงเล่นรายการ เยาวชน ชิงแชมป์เอเชีย 2016 รอบคัดเลือก ช่วงเดือนกันยายนนี้
เมื่อเป็นเช่นนี้จึงเกิดคำถามขึ้นในใจของแฟนบอลไทย เกี่ยวกับการจัดการทีมของทั้งสองชุดว่าจะเป็นไปในรูปแบบเดียวกับทีมชาติชุดใหญ่ที่ผลงานกำลังติดลมบนหรือไม่ โดย พยงค์ ขุนเณร กุนซือ กล่าวว่าทีมชุด ยู-16 จะถูกวางรากฐานให้เป็นไปในทิศทางเดียวกับรุ่นพี่แน่นอน “ตัวผมกับซิโก้มีโอกาสได้พูดคุยกันบ่อยครั้ง และพูดถึงเรื่องการทำทีมด้วยเช่นกัน เมื่อได้โอกาสมาทำ ยู-16 จึงต้องการที่จะให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพราะเด็กชุดนี้จะเป็นรากฐานของทีมชุดใหญ่ในอนาคต และเป็นชุดแรกที่จะก้าวสู่ระดับชิงแชมป์โลกอย่างเป็นทางการ”
“โดยสิ่งแรกที่จะต้องเน้นคือความมีวินัย ความอดทนในเกม นอกจากนั้นเป็นเรื่องของแทคติกต่างๆ พยายามสอนให้เรียนรู้หลายแบบ เช่น กองหลังแบ็คโฟร์ต้องยืนตำแหน่งอย่างไรได้บ้าง มิดฟิลด์ 2 คน หรือ 1 คน จะเล่นกันอย่างไร รวมถึงให้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ในเกมระดับชาติให้มากที่สุด ส่วนเรื่องความแข็งแกร่งของร่างกายคงไม่เน้นมากนัก เพราะเด็กวัยนี้เน้นเรื่องพละกำลังมากไปจะไม่ดี” เทรนเนอร์ผู้เคยปลุกปั้นสตาร์ดังอย่าง สารัช อยู่เย็น, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ และ ชนินทร์ แซ่เอียะ คว้าแชมป์ ยู-17 ชิงแชมป์อาเซียน ปี 2007 กล่าว
เช่นเดียวกับทีมชุด ยู-19 ซึ่งถือเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อในการก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ ด้าน “โค้ชจุ่น” อนุรักษ์ ศรีเกิด เฮดโค้ชเผยว่าตนได้วางแผนเรื่องนี้ไว้แล้ว “เราได้ศึกษาการเล่นและโครงสร้างของทีมชุดใหญ่อย่างละเอียด เพื่อให้เป็นไปในรูปแบบเดียวกัน โดยจะใช้แผนเดียวกัน และคัดหาเด็กที่มีบุคลิกใกล้เคียงกันในแต่ละตำแหน่งเข้าสู่ทีม เช่น กองหน้าต้องมีรูปร่างสูงใหญ่ พักบอลดี กองกลางต้องมีความสามารถเรื่องการครอบครองและไปกับบอล หรือปีกทั้งองข้างต้องมีความเร็ว เพราะเด็กพวกนี้จะก้าวขึ้นสู่ระดับ ซีเกมส์ ใน 2-4 ปีข้างหน้า”
“ส่วนเรื่องตัวผู้เล่นนั้น เรามีแกนหลักจากอะคาเดมีของทีมในโตโยต้า ไทย พรีเมียร์ ลีก อยู่ราว 25 คน ซึ่งบางคนเคยได้โอกาสลงเล่นในลีกสูงสุดมาแล้ว รวมถึงนักเตะจากฟุตบอลนักเรียนกรมพลศึกษา รุ่น 18 ปี ก. ที่ทำผลงานได้ดีด้วยเช่นกัน จากนั้นจึงจะเปิดคัดตัวเพิ่มให่ครบ 50 คน ก่อนจะตัดเหลือ 23 คนก่อนแข่ง” กุนซือผู้พา บางกอกกล๊าส เอฟซี คว้าแชมป์มูลนิธิไทยคม เอฟเอ คัพ 2014 ระบุ
อย่างไรก็ตามตลอดเวลาที่ผ่านมาการเลือกนักเตะติดทีมในชุดเยาวชน มักเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากแฟนบอลว่าบางรายดูแล้วไม่เหมาะสม ซึ่งเรื่องนี้ ผู้จัดการทีมทั้งสองชุดยืนยันด้วยตัวเองว่าจะไม่มี “เด็กเส้น” แน่นอน โดย ดร.จินติยา รองประธานสโมสรอุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด จากลีก ภูมิภาค(ดิวิชัน2) ในฐานะผู้จัดการทีม ยู-16 ยืนยันว่าไม่มีแน่นอน “เป็นเรื่องปกติที่จะมีคนคิดเรื่องนี้ แต่เราตั้งใจเข้ามาทำเพื่อชาติ ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดเข้าสู่ทีม ดังนั้นยืนยันว่าจะไม่มีเรื่องเด็กเส้นแน่นอน ที่สำคัญเราตั้งใจว่าจะต้องทำให้เกิดเป็นรูปแบบ ไทยแลนด์ บล็อก ให้ได้ คือทุกรุ่นต้องมีพื้นฐานเดียวกัน เราจึงไม่ได้มองแค่ทีมชุดนี้แต่มองถึงการส่งต่อนักเตะไปสู่รุ่น ยู-19 ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ตัวดิฉันเองยังมีประสบการณ์ทำทีมในดิวิชัน 2 ได้ใกล้ชิดกับเด็กในพื้นที่ๆเริ่มมาจากเยาวชน รวมถึงเคยทำงานด้านการศึกษา จึงสามารถที่จะปูพื้นฐานเรื่องกายภาพ จิตวิญญาณ และวินัยให้รู้หน้าที่แก่เด็กได้”
ด้าน “บิ๊กตั้น” ณัฏฐพล ประธานสโมสรบางกอก เอฟซี จากยามาฮ่า ลีก วัน(ดิวิชัน 1) ในฐานะผู้จัดการทีม ยู-19 ยืนยันเช่นกันว่า “เป็นธรรมดาหากมีนักเตะที่ไม่ผ่านการคัดตัวจะไม่มีความสุข แต่เรายืนยันว่าทีมชุดนี้ฝีมือต้องมาก่อน ซึ่งนอกจากคัดตัวแล้ว เราจะส่งทีมงานไปติดตามการฝึกซ้อมของนักเตะในแต่ละสโมสรทั้งไทยลีกและดิวิชัน 1 ที่สำคัญเรามองไปถึงการผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย และผ่านไปเล่นฟุตบอลโลก รวมทั้งต่อยอดนักเตะไปถึงทีมชุดใหญ่ด้วยเช่นกัน จึงต้องเลือกผู้เล่นที่ดีที่สุดมาสู่ทีม”
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *