“สิ้นคิด!”….อาหารหลักนักกอล์ฟ

“ข้าวราดกะเพราไก่ไข่ดาวจานนึงจร้า!” หนึ่งในก๊วนของเราตะโกนสั่ง “เอาด้วยๆๆ” อีกหลายเสียงตะโกนแข่ง…สรุปแล้วมื้อนี้ กะเพราไข่ดาวยกก๊วน!

เหตุผลที่ข้าวราดกะเพรากลายมาเป็นอาหารหลักของนักกอล์ฟผู้หิวโหย และรีบไปออกรอบคงเป็นเพราะรสชาติที่ถูกปากและเป็นอาหารที่สั่งง่าย ทำง่าย ได้เร็ว ไม่ต้องรอนาน ด้วยเหตุนี้กระมัง ข้าวราดกะเพราจึงได้ชื่อว่าเป็นเมนู “สิ้นคิด” คิดอะไรไม่ออกก็ “กะเพราจานนึง” แต่ทราบไหมว่า กะเพรามีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าที่คิดเสียอีก

สรรพคุณสำคัญของใบกะเพราที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้กัน ทั้งที่ใช้บริโภคกันอยู่ในชีวิตประจำวันก็คือ สรรพคุณขับไขมันและน้ำตาลส่วนเกินออกจากร่างกาย

มีงานวิจัยหลายชิ้นจากหลายสำนักที่กล่าวถึงสรรพคุณอื่นหลากหลายของใบกะเพรา

ฤทธิ์ลดไขมัน : มีการใช้ใบกะเพราในกระต่ายทดลอง โดยผสมใบกะเพราสดในอาหารเพียง 1-2กรัม/กก./วัน เป็นเวลาติดต่อกัน 4 สัปดาห์ เมื่อตรวจเลือดกระต่ายทดลองพบว่า ระดับคอเลสเตอรอลโดยรวม ไตรกลีเซอไรด์ ฟอสโฟไลปิด ลดลงอย่างฮวบฮาบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คอเลสเตอรอลตัวเลว (LDL) ลดลง แต่คอเลสเตอรอลตัวดี (HDL) กลับเพิ่มขึ้น

ฤทธิ์ลดน้ำตาล : จากการศึกษาในหนูทดลอง โดยให้ผงใบกะเพราขนาด 200 มิลลิกรัม/กก./วัน ในหนู 3 ประเภท หนูปกติ หนูที่มีภาวะน้ำตาลสูง(จากการให้กลูโคส) และหนูที่ทำให้เป็นเบาหวาน (โดยการทำลายตับอ่อน) พบว่า กะเพราสามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดของหนูทดลองทั้ง 3 ประเภท นอกจากนี้น้ำมันหอมระเหยจากใบกะเพรา (Basil Essential oil) ยังช่วยให้กลไกการควบคุมน้ำตาลในเลือดเป็นปกติด้วย แน่นอนเมื่อใบกะเพรามีฤทธิ์ลดไขมัน และน้ำตาลอย่างมีประสิทธิภาพ ก็ย่อมมีผลทำให้มวลร่างกายลดลงอย่างเห็นหน้าเห็นหลัง โดยเฉพาะน้ำตาลซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคอ้วนได้มากกว่าไขมันเสียอีก

อย่างไรก็ตาม การบริโภคใบกะเพราให้ได้ผลในการลดความอ้วนจะต้องบริโภคทุกวันให้ถูกวิธี ดังนี้

1. ใบกะเพราต้องสด เพราะใบสดจะมีน้ำมันหอมระเหยมากกว่า หรือถ้าใช้ผงกะเพราก็จะต้องได้จากกระบวนการอบระเหยคือ เอาเฉพาะน้ำออกไปเท่านั้น น้ำมันหอมระเหยจึงยังคงอยู่

2. ขนาดของการบริโภค ในคนก็ใช้อัตราส่วนเท่ากับในสัตว์ทดลอง คือ ใบกะเพราสด 2 กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ต่อวัน คือถ้าน้ำหนักตัว 70 กิโลกรัม ก็ต้องบริโภคใบกะเพราสดวันละประมาณ 140-150 กรัม

ซึ่งถ้าสามารถบริโภคได้ตามนี้ก็รับรองว่า นอกจากสามารถลดน้ำหนักได้แล้วยังจะมีสุขภาพดีด้วย เพราะจะช่วยลดโรคอันเป็นผลพวงของโรคอ้วน เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ความเสี่ยงต่อภาวะหลอดเลือดตีบตันในสมองและหัวใจ อันเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตเฉียบพลันได้ “สิ้นคิดก็สิ้นคิดซิว๊ะ!....เอามาเบิ้ลอีกจานซิ๊!”

* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!***