คุณ สาว ๆ คนไหนที่ปรารถนาจะมีหุ่นเพรียวสวยได้สัดส่วน ก็มักจะเลือกทานผลไม้เป็นของว่าง หรือบางรายก็ทานผลไม้แทนอาหารหลักบางมื้อเลยทีเดียว เพื่อที่ตัวเลขบนเครื่องชั่งน้ำหนักจะได้ลดลงสมใจ ว่า แต่...จะเลือกทานผลไม้อะไรดีล่ะ ถึงจะช่วยลดความอ้วนได้แบบสบาย ๆ แถมยังอิ่มท้อง วันนี้ เราก็มีผลไม้ 8 ชนิด ที่จะช่วยให้คุณสาว ๆ ลดความอ้วนได้ไม่ยากมาบอกกัน
แอปเปิ้ล
ผลไม้สีแดง ๆ เขียว ๆ นี้ สามารถช่วยคุณสาว ๆ ลดความอ้วนได้อย่างสบาย ๆ เลยล่ะ เพราะแอปเปิ้ลได้ชื่อว่าเป็นราชาของผลไม้ลดน้ำหนัก เนื่องจากแอปเปิ้ลมีเส้นใยอาหาร หรือไฟเบอร์มากมาย เมื่อทานเข้าไปแล้ว จะช่วยให้เรารู้สึกอิ่มท้องนาน เพราะน้ำตาลฟรักโทสในแอปเปิ้ลจะเปลี่ยนรูปเป็นพลังงานอย่างช้า ๆ ช่วยให้ร่างกายไม่รู้สึกหิว
นอกจากนั้นแล้ว แอปเปิ้ลยังให้พลังงานเพียงแค่ 59 แคลอรี จึงไม่ทำให้อ้วน แถมยังมีวิตามิน แร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกมากมาย โดยเฉพาะ "เพคติน" ที่มีคุณสมบัติพองตัวได้มาก มันจึงไปเพิ่มกากใยในอาหาร ทำให้ระบบขับถ่ายเป็นไปอย่างปกติ จึงช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ ช่วยจับคอเลสตอรอล และช่วยกำจัดสารพิษในร่างกายได้ด้วย
ฝรั่ง
สุดยอดผลไม้ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยวิตามินซีชนิดนี้ ช่วยให้คุณลดความอ้วนได้ไม่ยาก เพราะฝรั่งเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานต่ำ แถมยังเคี้ยวเพลินอีกต่างหาก จึงเหมาะกับสาว ๆ ที่อยากกินจุบกินจิบเรื่อย ๆ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดความอ้วนได้แล้ว วิตามินซีในฝรั่งยังช่วยสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวพรรณเต่งตึง ไร้ริ้วรอยอีกด้วย
เพราะฉะนั้น หิวครั้งหน้า ก็อย่าลืมคว้าฝรั่งมาทานแทนขนมกรุบกรอบนะคะ อ๊ะ...คำเตือนก็คือ ทานแต่ฝรั่งเปล่า ๆ เท่านั้นนะ อย่าเผลอจิ้มพริกเกลือ พริกน้ำตาล เด็ดขาด เพราะจะทำให้อ้วนได้นะเออ
แตงโม
แตงโมลูกโต ๆ รสหวาน ๆ ไม่ได้ทำให้คุณอ้วนแต่ประการใด เพราะแตงโม 1 ถ้วย ให้พลังงานเพียง 50 แคลอรีเท่านั้น แถมยังให้ไขมันน้อยนิด และยังชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำถึง 93% ของส่วนประกอบทั้งหมด ทำให้เรารู้สึกอิ่มเร็ว เพราะฉะนั้น ไม่ต้องกลัวเลยว่า แตงโม จะทำให้คุณสาว ๆ อ้วนได้ ตรงกันข้าม หากรับประทานแตงโมแทนอาหารมื้อเย็นหนัก ๆ ก็ช่วยลดความอ้วนได้ด้วย แต่ควรทานอย่างพอดี ไม่มากไปนะจ๊ะ ไม่เช่นนั้นท้องไส้จะปั่นป่วนเอาได้ แถมยังต้องเข้าห้องน้ำปัสสาวะบ่อย ๆ ด้วย
ส้ม
สาว ๆ หลายคนมักแกะกากส้มออกจนหมด เพื่อให้ทานได้ง่าย ๆ แต่รู้ไหมว่า คุณกำลังทิ้งของดีไปเสียแล้ว เพราะกากใยของส้มนั่นแหละคือสิ่งที่จะช่วยควบคุมน้ำหนักตัวให้สาว ๆ ได้ โดยกากใยจะช่วยทำให้รู้สึกอิ่มท้องเร็ว และช่วยทำให้ระบายท้องได้ดี อย่างไรก็ตาม ส้ม เป็นผลไม้ที่ให้พลังงานค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับผลไม้ลดความอ้วนชนิดอื่น ๆ ดังนั้น ควรรับประทานแต่พอดีแล้วกันนะ
มะละกอ
มะละกอ เป็นผลไม้ที่ช่วยขับสารพิษของเสียออกจากร่างกาย แถมยังช่วยกำจัดไขมันต่าง ๆ ภายในร่างกายได้ด้วย โดยมะละกอมีเอนไซน์ปาเปน ที่จะช่วยย่อยโปรตีน และย่อยอาหาร จึงช่วยลดน้ำหนักได้อีกทางด้วย ส่วนใครที่อยากมีผิวพรรณสวย มะละกอ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสน เพราะมะละกอมีวิตามินซี และเบตาแคโรทีนสูง จึงช่วยบำรุงผิวพรรณได้
แก้วมังกร
แก้วมังกรเป็นผลไม้ที่ช่วยให้คุณอิ่มท้องได้ง่าย ๆ ไม่แพ้ผลไม้ชนิดอื่น เพราะแก้วมังกรมีกากใยสูงและแคลอรีต่ำ แถมยังมีรสหวานอร่อย หลาย ๆ คน จึงเลือกรับประทานแก้วมังกรเป็นอาหารเย็น หรือทานรวมกับผักสลัดอื่น ๆ เพื่อช่วยลดน้ำหนัก โดยไม่ต้องห่วงว่าจะความหวานจะไปเป็นไขมันสะสมในภายหลัง
และนอกจากลดน้ำหนักแล้ว ผลพลอยได้จากแก้วมังกรที่คุณสาว ๆ ไม่ควรพลาดอีกเช่นกันก็คือ แก้วมังกรเป็นผลไม้อีกหนึ่งชนิดที่มีวิตามินซีสูงมาก ดังนั้น จึงช่วยบำรุงผิวพรรณไปในตัว แถมยังช่วยกระตุ้นต่อมน้ำนมดีต่อคุณแม่ที่เพิ่งคลอดบุตรด้วย
กีวี
อีกหนึ่งผลไม้ยอดนิยมของสาว ๆ ที่ปรารถนาจะลดน้ำหนักเลยล่ะ เพราะกีวีเป็นผลไม้ที่มีกากใยมากกว่าแอปเปิ้ลและส้มถึง 25% ทำให้รู้สึกอิ่มเร็วและนาน แถมยังมีวิตามินซี และวิตามินอีสูง ซึ่งจะช่วยให้ผิวพรรณสดใส ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดคอเลสเตอรอลในเลือด บำรุงเซลล์เม็ดเลือดแดงให้แข็งแรง และช่วยสลายไขมันในเลือดด้วย ใครที่ชอบทานกีวีจึงได้ประโยชน์จากกีวีแบบหลายเด้งเลย
เกรปฟรุต
สุดยอดผลไม้ไดเอตที่กำลังเป็นที่นิยม เพราะเมื่อไม่นานมานี้ นักวิจัยในสหรัฐอเมริกาพบว่า การกิน "เกรปฟรุต" ครึ่งลูกก่อนมื้ออาหารจะช่วยให้น้ำหนักลดลงได้อย่างเหลือเชื่อ โดยสามารถลดปริมาณแคลอรีได้ถึง 150 แคลอรีต่อวันเชียวนะ แถมเกรปฟรุตครึ่งลูกก็มีแคลอรีเพียงแค่ 39 แคลอรีเท่านั้นเอง
อยากผอม อยากสวย คุณสาว ๆ ต้องไม่พลาดที่จะลิ้มลองผลไม้ลดน้ำหนัก 8 ชนิดที่เรานำมาฝากกันนะคะ
------------
สุดยอดผลไม้ที่กินแล้วไม่อ้วน
ผล ไม้ 10 ชนิดต่อไปนี้ จัดเป็นผลไม้ที่อุดมด้วยวิตามินและเกลือแร่ และ กินได้บ่อยๆ แบบไม่ต้องกลัวอ้วน ทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์และเพิ่มภูมิคุ้ม กันอีกด้วย ผลไม้ทั้ง 10 ชนิดนี้มีปริมาณคาร์โบไฮเดรตเฉลี่ย 1.9 10 กรัมต่อน้ำหนัก 100 กรัม โดยอะโวกาโดมีคาร์โบไฮเดรตต่ำสุด แอปเปิลมีคาร์โบไฮเดรตสูงสุด
ผลไม้
กีวี -มีสารแอกทินิดีน ที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันทำให้หัวใจแข็งแรง
มะเขือเทศ -ช่วยลดความเสียงจากมะเร็งและโรคหัวใจ
มะละกอ ช่วยย่อยอาหารและโปรตีน
อะโวกาโด ช่วยยับยั้งสารก่อมะเร็งชนิดต่างๆ ได้ถึง 30 ชนิด
สับปะรด ช่วยต้านเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย
ผลไม้จำพวกเบอร์รี่ เช่น สตอเบอร์รี่ แบลคเบอร์รี่ ผลไม้กลุ่มนี้ดีต่อระบบไหลเวียนโลหิต
แครนเบอร์รี่ ช่วยป้องกันนิ่วในไต ต้านเชื้อไวรัส
ผลไม้ตระกูลส้ม ช่วยลดคอเลสเตอรอล และไขมันในเส้นเลือด
ผลไม้กลุ่มแตง มีสรรพคุณสูงสุดในการล้างพิษให้กับร่างกาย
แอปเปิ้ล ช่วยทำความสะอาดระบบย่อยอาหาร
------------------------
กินอาหารลดความอ้วน ด้วยเมนูอาหารที่ให้พลังงานต่ำ
เทศกาลต้อนรับปีใหม่ ปี 2552 หลายคนคงหลีกเลี่ยงงานสังสรรค์ได้ยาก เพราะช่วงเวลานี้เป็นเวลาที่ได้มาพบปะกันพร้อมหน้าพร้อมตา โดยเฉพาะคนในครอบครัว ญาติ พี่น้อง เพื่อน ๆ คุยไปกินไปยิ่งทำให้เจริญอาหารทานมากกว่าปกติ แต่อาหารต่อไปนี้เป็นเมนูอาหารที่ให้พลังงานต่ำ ที่คุณสามารถเลือกรับประทานได้ในงานเลี้ยงค่ะ
1. อาหารประเภทต้ม
ให้พลังงานไม่เกิน 200 กิโลแคลอรี่ เช่น ต้มยำกุ้งน้ำใส ตำยำปลาช่อนน้ำใส แกงเหลืองปักษ์ใต้ แกงจืดตำลึงวุ้นเส้น แกงจืดลูกรอก แกงจืดมะระยัดไส้ ไก่ต้มฟักมะนาวดอง สุกี้ เป็นต้น
ให้พลังงานไม่เกิน 300 กิโลแคลอรี่ เช่น กระเพาะปลา ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นน้ำใส วุ้นเส้นต้มยำ ก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่อง เกาเหลาเลือดหมู (ไม่ใส่เครื่องใน) ก๋วยเตี๋ยวเป็ดตุ๋นน้ำ ขนมจีนน้ำเงี้ยว
2. อาหารประเภทยำ
ให้พลังงานไม่เกิน 200 กิโลแคลอรี่ เช่น ส้มตำไทย ยำตะไคร้ ยำมะระ ยำผักหวาน ยำสมุนไพร ลาบไก่ พล่ากุ้ง
3. อาหารประเภทนึ่ง
ให้พลังงานไม่เกิน 300 กิโลแคลอรี่ เช่น เต้าหู้นึ่งทรงเครื่อง ปลานึ่งสมุนไพร ปลากะพงนึ่งมะนาว ปลาช่อนนึ่งจิ้มแจ่ว ปลาทับทิมนึ่งซีอิ้ว ปลากะพงนึ่งบ๊วย
4. อาหารประเภทน้ำพริก
ให้พลังงานไม่เกิน 200 กิโลแคลอรี่ เช่น น้ำพริกปลาร้า น้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกกุ้งสด น้ำพริกมะขาม น้ำพริกตะไคร้ น้ำพริกปลาทู น้ำพริกลงเรือ น้ำพริกกุ้งเสียบ
5. อาหารประเภทอื่น ๆ
ให้พลังงานไม่เกิน 200 กิโลแคลอรี่ เช่น ปลากะพงลวกจิ้ม ปลาสำลีเผาไก่ตุ๋นมะนาวดอง ไข่ตุ๋นฟักทอง เมี่ยงปลาทู เมี่ยงคะน้า
ที่ สำคัญอย่าคิดเข้าข้างตัวเอง ว่าไม่เป็นไรหรอกกินวันนี้เยอะเดี๋ยวค่อยไปลดวันอื่นก็ได้ เพราะพอเอาเข้าจริง ๆ คุณอาจมีงานเลี้ยงหรือของกินอร่อย ๆ ในวันอื่นอีก จำไว้ว่าถ้าคุณกินมากเกินไป อย่ากิน 2 มื้อในวันนั้น ๆ เมื่อรู้ตัวว่ากินเยอะมาแล้วในมื้อที่ผ่านมา มื้อต่อไปควรลดปริมาณข้างลงหรือไม่กินข้าว แล้วเลือกกินเฉพาะกับข้าวที่มีผัก ถ้าปล่อยไปทั้งวัน น้ำหนักขึ้นแน่ ๆ
บทความจาก: นสพ. เดลินิวส์
--------------
ผลไม้ที่กินแล้วนอนหลับดี
ของดีใกล้ตัว..มัวเมินอยู่ไย....ประโยชน์ของพืช ผัก ผลไม้ต่างๆที่ควรรู้จัก....
-หน่อไม้ - หน่อไม้สด ควรกินคู่กับใบหญ้านาง (เป็นการล้างพิษของหน่อไม้ออก) ช่วยขยายหลอดเลือด
- หน่อไม้ดอง บำรุงไต ล้างยา ล้างพิษ
- หัวไช้เท้า ล้างยา ล้างพิษ ฉะนั้นคนป่วยกินยาไม่ควรกิน
- ใบโหระพาและสับปะรด ปั่นน้ำ ช่วยเพิ่มเม็ดเลือด (ใบโหระพาเป็นยาอายุวัฒนะ)
- เหงือกปลาหมอ กับพริกไทย กับน้ำผึ้ง เป็นยาอายุวัฒนะ
- ใบกระเพรา ต้นน้ำดื่ม ช่วยขับลม อาจเติมกูลโครสให้เด็กอยากดื่มก็ได้
- ใบเตย กับ ใบมะนาว ช่วยเพิ่มเม็ดเลือด
- ใบเตย กับ แก่นขนุน ช่วยเพิ่มเม็ดเลือด
- ผักชี กับสับปะรด ช่วยเพิ่มเม็ดเลือด
- ใบยอ นึ่ง คั้นน้ำ หรือปั่น กินแก้ปวดข้อ ไม่ควรกินสดเพราะมีสารพิษ
- ใบยอ ปั่นกับสับปะรด เพิ่มเม็ดเลือด ใบยอเผา ปิ้ง ยำ หรือใส่ในห่อหมก แก้ไอ คัดจมูก
- เนื้อลูกยอ กินหน้าหนาว เช่นส้มตำลูกยอดิบ ล้างพิษได้ กินฤดูอื่น ช่วยขับพยาธิ ควรได้กินปีละครั้ง
- ลูกยอสุก เอาเม็ดออก ผสมยาสระผมสมุนไพร แก้เหา แก้คันจากไรฝุ่น ใช้ขับประจำเดือนอย่างแรง (ระวังอาจแท้งได้) ลูกยอมีฮอร์โมนเอสโตรเจน และตัวเบื่อเมา ใช้สับปะรดใส่ช่วยดับกลิ่นลูกยอได้
- ขี้เหล็ก ช่วยขับถ่ายดี เพิ่มเม็ดเลือด นอนหลับดี ไม่ควรกินสด เพราะมีสารพิษ
- สะเดา ถ้ากินน้อย กินสดไม่เป็นไร ถ้ากินมาก ควรทำให้สุกก่อน
- สะเดาสด ลวก ช่วยระบบท้องดี เพิ่มน้ำย่อย ลดไข้ ล้างไขมัน อย่าทานทุกวัน จะปวดเมื่อยตัว
- โรคเก๊าท์ รักษาโดยการกินลูกเดือยแทนข้าว 80 % ของอาหาร 3 มื้อใน 7 วันจะหายได้
- เห็ดหูหนูดำ เม็ดบัว งาดำ กินบำรุงไต
- เห็ดหูหนูขาว บำรุงปอด
- เห็ดมีโปรตีนที่ดูดซึมได้ดีกว่าเนื้อสัตว์ ถั่ว มีกรดอมิโน สลายสารและต้านอนุมูลอิสระ
- ขนุน บำรุงหัวใจ
- กลอย เป็นอาหารแป้ง ช่วยอุ้มไขมันไปทิ้ง เหมือน มันเทศ บุก กรอบภูเขา ฮ่วยซัว
- มันเทศ กินแก้อ่อนเพลีย แก้ม้ามชื้น ซึ่งทำให้อ้วนง่าย กินแล้วผอม
- มันสำปะหลัง กินแล้วอ้วน กินตอน 9.00 น เพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกาย
- ใบมะยม กินสดหรือต้มน้ำ (ต้มทั้งก้าน) แก้เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ลดปวดหัว บำรุงตับอ่อน ช่วยปรับระดับน้ำตาลในสมดุล ช่วยระบาย บำรุงกำลัง แก้อ่อนเพลีย ทำให้เจริญอาหาร ช่วยย่อย หรือใช้สูตรต้มกับหมูสับหรือเต้าหู้กินบำรุงกำลังดี กากใยของใบมะยมยังช่วยขับไขมันได้ดีด้วย จึงควรปลูกมะยมไว้ประจำบ้าน ปลูกในกระถางก็ได้ การหักให้หักทั้งกิ่งที่ยอดเพื่อให้มันแตกกิ่งเพิ่ม
- รากเตย ต้มน้ำ ดื่มแก้เบาหวาน ดีกับตับอ่อน
- ใบขลู่ (ไม่แน่ใจว่าสะกดคำถูงต้องหรือไม่) ช่วยลดไขมันในเลือดได้ดี โดยเอาใบขลู่ต้มกับกระเจี๊ยบ-พุทราจีน หรือนำมาผัดหมู่สับ ใส่ขึ้นฉ่าย และเกี้ยมบ๊วย แก้ริดสีดวงทวาร ลดเบาหวาน
- ใบขลู่ ปั่นกับสับปะรด เพิ่มเม็ดเลือด หรือตากแห้ง นำมาชงดื่มแบบชาก็ดี
- ใบเตยดีกับหัวใจ - หัวต้นหอมดีกับปอด หางกินแล้วเย็น
- กระชาย จักรพรรดิแห่งสมุนไพร (โสมไทย) ดีกว่าโสมเพราะไม่มีสารที่เป็นพิษ มี 3 สีคือ กระชายเหลือง มีโอสถสารสูงสุด หาง่าย กระชายแดง หายาก กระชายดำ ประโยชน์ แก้ความดันสูง เลือดเป็นลิ่ม ฟื้นฟูตับ ต่อมไร้ท่อ ไต หัวใจ เพศ ทำให้ผมดำ เพิ่ม ฮอร์โมนเอสโตรเจน แคลเซียม เพิ่มสเปิร์ม แก้กระดูกเสื่อม บำรุงสมอง แก้ปวดข้อ ปวดกระดูก ปวดแข้ง ปวดขา ขับลม ให้กำลัง ทำให้ไข่พยาธิฝ่อ กินพร้อมเปลือก กินได้ทั้งต้น ไม่มีพิษ วิธีทำ ใช้กระชาย ½ กิโล คั้นน้ำ 2 ลิตร แยกกาก เก็บในตู้เย็นไว้ดื่ม ตำก็ได้ ผสมน้ำผลไม้ก็ได้ กากไม่ควรกิน เพราะจะดูดโอสถสารกลับ กากใช้ผสมเหล้ากับน้ำตาลทราย พอกเข่าแก้ปวดได้ ใช้เลี้ยงกุ้ง โตเร็ว ไม่ขี้โรค ใช้ฆ่าเชื้อโรคได้ ปลอดภัย ล้างผัก ผลไม้ดีที่สุด ไม่มีสารตกค้างที่ร่างกายไม่ต้องการ การคั้นน้ำได้โอสถสารมากที่สุด การต้มจะเหลือแค่การขับลม การดองเหล้าก็ได้ กินแล้ว คึกทางเพศ กระชาย ที่ใส่ฟอร์มารีนให้แช่ด้วยน้ำเกลือ ล้างออกได้ - น้ำใบบัวบก บำรุงสมอง - เม็ดบัว ต้มให้เปื่อย ใส่น้ำตาลกรวด ช่วยฟื้นไข้ ฟื้นกำลัง เพิ่มสเปิร์ม เพิ่มโอกาสตั้งครรห์ - แปะก๊วย กับใบบัวบก กับใบพู่ระหง บำรุงผม - แปะก๊วยมีประโยชน์เหมือนลูกบัว แต่น้อยกว่า และแพงกว่า
- ถั่ว 5 สี (กะยาคู) เป็นยาอายุวัฒนะ ถั่วขาว บำรุงปอด ถั่วแดง บำรุงหัวใจ ถั่วดำ บำรุงไต ถั่วเหลือง บำรุงม้าม ถั่วเขียว บำรุงตับ ใส่เพิ่มลูกเดือย มันเทศก็ได้
- ขมิ้นชัน มีวิตามิน เอ ซี อี บี รวม เบต้าแครอทีน สังกะสี สารสีเหลือง Curcumin ที่ไม่มีในอย่างอื่น ช่วยล้างไขมันในตับ แต่ไม่ล้างพิษ ป้องกันมะเร็ง กินก่อนนอน กินมากไม่มีผลเสีย ช่วยให้ผิวสวย ต้านหวัด ขจัดเซลล์ร้าย เซลล์มะเร็ง (การทำคีโมขจัดเซลล์ทุกอย่าง) ต้านอนุมูลอิสระ แบบผงละลายน้ำดื่มแก้ท้องผูก เปลือกขมิ้นชันกินไม่ได้ มีพิษ กินขมิ้นชันตอนตี 3 บำรุงปอด ผิว ตี 5 บำรุงลำไส้ใหญ่ ฟื้นปลายประสาท ไม่เป็นริดสีดวง 7 น บำรุงกระเพาะ ทำให้เนื้อแน่น 9 น แก้น้ำเหลืองเสีย เก๊า เบาหวาน ลดความอ้วน 11 น เป็นต้นไป บำรุงตับ ผิว ถ้าทานแล้วท้องเสีย ร่างการกำลังขับพิษ ให้หยุดแล้วเริ่มทานแต่น้อย กิน 10 – 20 แคปซูล ตอนเช้าแก้ท้องผูกได้
- น้ำมะพร้าวอ่อน ช่วยเพิ่มฮอร์โมน เอสโตรเจน สำหรับเพศหญิง บำรุงผม เนื้อมะพร้าว ถ้าอ่อนเป็นวุ้น มีฮอร์โมนเอสโตรเจน ถ้าเนื้อขาวแข็งมีฮอร์โมนเทสโทสเตอโลน
- กะทิ สด ละลายในน้ำได้ดี (ไม่เหมือนไขมัน) ช่วยล้างหลอดเลือด ขับพญาธิ ฆ่าฤทธิ์ ช่วยระบาย
- ลูกไข่เน่า ผลไม้สีดำ คล้ายพุทรา เม็ดลีบ กลืนได้ ช่วยระบบขับถ่าย กินแล้วหัวดี กินสดหรือดองน้ำเกลือ บำรุงไต กระดูก แก้กระดูกผุ บำรุงระบบเพศ สมอง ต่อมไร้ท่อ เหมือนกระชาย มีแคลเซียมสูง
- ใบหญ้าหวาน (สเตอเวีย) เป็นน้ำตาลธรรมชาติที่มีประโยชน์ มีความหวานเป็น 40 เท่า ต้นน้ำดื่ม บำรุงตับอ่อน ธาตุ แก้ เบาหวาน เพิ่มกำลังวังชา สมานแผลทั้งภายในและภายนอก กินใหม่ๆน้ำตาลจะเพิ่ม แต่ไม่อ่อนเพลีย กินต่อไปน้ำตาลในเลือดจะลด ช่วยให้เลือดไปเลี้ยงสมอง
- น้ำหญ้าหวาน (บำรุงม้าม ธาตุ) ต้มกับเห็ดหูหนูดำ (บำรุงไต) กับน้ำตาลกรวด (บำรุงปอด) ดื่มเพิ่มพลัง แก้อ่อนเพลีย แต่ดื่มแล้วเย็นใน
- เปลือกมังคุด ต้มน้ำกินช่วยสมานแผล
- ว่านรางจืด ช่วยล้างพิษจากน้ำตาลในเลือด
- ว่านหางจระเข้ ปอกเปลือก เอาเมือกเหลืองๆออก เอาวุ้นใสๆทาแก้แพ้ ผื่นแดงที่เกิดจากน้ำไม่สะอาด
- ลูกเดือย บำรุงเส้นเอ็น บำรุงกระดูก แก้กระดูกแตก
- ลูกเดือยต้มกับถั่วขาว ถั่วขาว 1 ส่วน ลูกเดือย 2 ส่วน ต้มน้ำ 20 เท่า กินแต่น้ำ บำรุงตับ - ลูกมะหวด มีวิตามินเอ ซี อีสูง และ ฮอร์โมนเอสโตรเจน มาก ต้านอนุมูลอิสระ ฟอกเลือด ใบใช้บ่มมะม่วงให้สุก -
ฟ้าทะลายโจร เป็นยาเย็น เหมือนมะระ ถ้ากลัวเย็นไปให้กินตามด้วยน้ำขิง
- เอาน้ำขิงชงชาก็ดื่มดี การชงชาไม่ควรทิ้งชาแช่ในน้ำนานเกิน 5 นาที เพราะสารแทนนิน จะออกทำให้ท้องผูกและนอนไม่หลับ
- กกเตย ช่วยฟื้นฟูตับอ่อน
- แกงบอน ช่วยลดความชื้นในร่างกาย ปอดชื้น ไตชื้น ม้ามชื้น
- ฟักข้าว ช่วยขับพยาธิ บำรุงธาตุ ขับไรฝุ่น เอาเปลือกออกกินทั้งเนื้อทั้งเม็ด ต้มยำปลากระป๋อง
- เนยใส (เนยกี) ใช้หยอดหู แก้อาการน้ำในหูไม่สมดุลหรือหยอดจมูก แก้อาการคัดจมูก
- น้ำปัสสาวะ เป็นน้ำที่ได้จากการกลั่นเอาอาหารที่กินเข้าไป เหลือแยกออกมา ฉะนั้นโดยความเป็นจริง แล้วน้ำปัสสาวะสะอาด (ไม่เหมือนอุจระที่จะสกปรก) และมีสารอาหาร เกลือแร่ เลือด ที่เหลือ จากการดูดซึมเข้าร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาร อินเตอร์เฟอรอล ที่สามารถล้างพิษได้ น้ำ ปัสสาวะสามารถใช้ดื่มเพื่อล้างระบบต่างๆในร่างกายที่มีปัญหา เพียงแต่รองใส่ภาชนะเวลาถ่าย แล้วดื่มได้เลย
- กุยฉ่าย ช่วยลดความดัน ฟอกเลือด
- กระเจี๊ยบแดงต้มกับพุทราจีน ช่วยหัวใจ ลดโคเลสเตอรอล ลดความดัน ลดไตกีเซอไรย์ ปรับเส้นเลือดให้ยึดหยุ่น แข็ง แรง ขยาย-ล้างหลอดเลือด แก้เส้นเลือดปูด ตีบ ขอด ในหัวใจโต ริดสีดวงทวาร ขยายเส้นเลือดในไต ไตแข็งแรงขึ้น ป้องกันเลือดกำเดาไหล กระเจี๊ยบแดงกินเดี่ยวทำให้ไตเสื่อม โลหิตจาง
- กระเจี๊ยบเขียว ต้มกิน ช่วยแก้ท้องผูกสำหรับผู้ป่วยที่นอนนาน
- กระเจี๊ยบเขียว กินแก้พยาธิตัวจี๊ด
- ลูกสำลอง กับหญ้าหวาน กับดอกคำฝอย กับเก๊กฮวย ช่วยลดโคเลสเตอรอลดี ลูกสำลองมีประโยชน์เหมือนรังนก บำรุงปอด รังนกแท้หายาก ของปลอมทำจากรากไม้ลูกหูกวางกินแล้วแล้วขาไม่มีแรง
- องุ่นสีม่วง ช่วยฟอกเลือด บำรุงหัวใจ มีโปรแตสเซี่ยมสูง (กินมากไม่ดีต่อตับ) กินสดจะได้วิตามิน เอ ซี อี สูง ถ้ากวน จะมีวิตามินน้อยลง แต่ได้เอสโตรเจนเพิ่ม - ลูกเกดแห้ง บำรุงถุงนำดี ตับ ไต
- - ดอกคำฝอย ถ้ากินเดี่ยวๆ จะลดโคเลสเตอรอลได้มาก อาจทำให้ซึมได้ - เก๊กฮวย กินแล้วทำให้สดชื่น - ดอกคำฝอย กับเก๊กฮวย ช่วยจับโคเลสเตอรอล แล้วลูกสำลองจะช่วยขับออก
- สาหร่ายทะเล ช่วยฟอกเลือด ปรับสมดุล ลดอาการบวม นำมาอบหรือคั่ว จิ้มซีอิ้วกินอร่อย - จับฉ่าย ควรใส่หัวใช้เท้า ช่วยล้างพิษ สารตกค้าง
- กล้วยน้ำว้า ช่วยปรับสมดุลระหว่างช่วงความแตกต่างของอาหาร เช่น อาหารไทย – เทศอาหารเจ – คาว ช่วงอด – ไม่อด กินก่อนการเปลี่ยนอาหาร
- น้ำเต้าก็ใช้แทนกล้วยน้ำว้าได้
- พริกปาปริกา ช่วยการไหลเวียนของเลือด
- ดอกแค ดอกกาสะลอง (ดอกปีบ)ช่วยบำรุงปอด ตากแห้ง ชงน้ำดื่ม
- บอระเพ็ด ยาว 1 เกียก ต้นน้ำดื่มช่วยล้างระบบดูดซึมได้ ทำให้เลือดเลี้ยงสมองส่วนหน้าดี
- มะขามเทศมีโซเดียมและแคลเซียมสูง เปลือกใช้ทำยาย้อมผม และยาสระผม
- มะเขือเทศ บำรุงเลือด หัวใจ แก้โรคซึมเศร้า คนที่หัวใจโต ไตไม่ดีไม่ควรกิน
- อินทผารัม บำรุงไต ระบบเพศ
- ดอกชุมเห็ด ทำให้ถ่ายอย่างแรง เพราะมีพิษ ควรลวกแล้วราดด้วยกะทิล้างพิษ ไม่ควรกินเกิน 3 ดอก
- เห็ดหูหนูดำ ต้มกับหญ้าหวาน ใส่น้ำตาลกรวด ช่วยบำรุงกำลัง บำรุงสมอง ดีต่อปอด ไต ม้าม แต่อย่ากินตอนเย็น เพราะจะเย็นเกินไป
- น้ำตาลกรวดย่อยง่ายกว่า ดูดซึมดีกว่า น้ำตาลทราย
- ลำไยสด บำรุงกำลัง หัวใจ เปลือกมีสารทำให้ร้อนใน แก้โดยให้แช่น้ำเกลือก่อนแกะ หรือดื่มน้ำเกลือตาม เม็ดลำไยตากแห้งบด นำมาโรยแผลช่วยให้น้ำเหลืองแห้ง
- ข้าวเหนียว 2 ส่วน ต้มกับลำไยแห้ง 1 ส่วน ใส่น้ำมากๆ กินบำรุง ปอด หัวใจ ตับ - ขิง หอม กระเทียม น้ำผึ้งมะนาว กินแก้หอบหืด ลดไขมัน
- น้ำฟักทอง บำรุงไต
- ของดอง ผักดอง หนำเลี้ยบ หน่อไม้ดอง บำรุงไต
- หมึกในปลาหมึก ช่วยแก้ร้อนใน ปากเป็นแผล บำรุงไต ล้างระบบดูดซึม ลดโคเลสเตอรอลในปลาหมึก
- กุหลาบ บำรุงหัวใจ ทำให้หายใจโล่ง รู้สึกกระปี้กระเปล่า (สีแดงในพริกด้วย) - มะละกินคู่กับ ผักดอง
- ขึ้นฉ่ายคู่กับ เกี้ยมบ๊วย
- ฝัก คู่กับมะนาวดอง
- เม็ดแมงลัก เป็นตัวเก็บไขมันไปทิ้ง แต่กินตอนเย็นจะย่อยยาก ทำให้ท้องอืด
- ดอกอันชัน - ทานสดได้ บีบมะนาวจะเป็นสีชมพู บำรุงไต ช่วยย่อย ทำให้น้ำเหลืองแห้ง
- ยอดมะลุม มีเบต้า แครอลทีน ทำให้ผิวดี แก้ตกกระ มีสารเพ็กติน นิ่มๆ ฆ่าพยาธิได้ มีธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส สร้างภูมิคุ้มกัน ต้านอนุมูลอิสระ ใบต้านเบาหวาน ทำให้ขับถ่ายดี ป้องกันไมเกรน
- กระท่อม ใช้แก้ท้องเสีย (เป็นสารเสพติด) ทำให้ทนแดด ทนฝน ทนงานหนัก แต่กลัวฝนจนตัวสั่น ไข่
- ควรกินไข่สุก หรือสุกขนาดเป็นมะตูมก็ได้ ไข่ดิบย่อยยาก ดูดซึมยาก
- ไข่แดงเป็นโคเลสเตอรอลดี ช่วยในการดูดซึมของสารอาหารต่างๆ
v
- ไข่เยี่ยวม้า มีสารอาหารน้อยลง แต่มีโซเดียม ฟอสเฟตสูง ช่วยบำรุงไต
- ไข่เค็ม ยังมีสารอาหารครบ - ใบสัปปะรดสับ ต้มน้ำดื่ม ช่วยขับปัสสาวะ