คอลัมน์ BUZZER BEAT โดย MVP
แฟน แอลเอ เลเกอร์ส เพียงบางส่วน อยากจะเห็นการจับคู่ระหว่าง โคบี ไบรอันท์ กับ ดเวย์น เหว็ด มาจับคู่กันลุยศึกบาสเก็ตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ฤดูกาล 2015-16 แม้ทั้งคู่จะเป็นมือปิดสกอร์ชั้นเยี่ยม แต่สภาพร่างกาย และสังขารเปรียบดั่งไม้ใกล้ฝั่ง คอยบั่นทอนศักยภาพ แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่า 2 ซูเปอร์สตาร์ดาวค้างฟ้า จะมาผนึกกำลังกัน หลังเปิดตลาดฟรีเอเจนต์ ซัมเมอร์นี้
เลเกอร์ส มีงบประมาณสร้างทีมคืนสู่ความเกรียงไกร 35 ล้านเหรียญสหรัฐ (1.05 พันล้านบาท) บางทีน่าจะดีเสียกว่า หากลงทุนกับผู้เล่นวัยหนุ่ม ที่ไม่มีประวัติการบาดเจ็บยาวเหยียดเป็นหางว่าวอย่าง “ดีขเหว็ด” และเหลืออ็อปชัน 16.1 ล้านเหรียญ (483 ล้านบาท) ซีซันหน้า
ฮีต พยายามเก็บ “แฟรนไชส์ เพลเยอร์” ของตัวเอง ด้วยการเสนอสัญญาเพียง 3 ปี 36 ล้านเหรียญสหรัฐ (1.08 พันล้านบาท) สวนทางกับความต้องการของ เหวด ที่เรียกร้องขอรายได้เฉลี่ย 20 ล้านเหรียญ (600 ล้านบาท) ต่อปี ฟังอยู่อาจเป็นสัญญาที่สมน้ำสมเนื้อแล้ว สำหรับผู้เล่นที่อายุ 33 ปี แต่ลองเทียบกับ คริส บอช ฟอร์เวิร์ดคู่หูแล้ว แตกต่างกันราวฟ้ากับเหว
ตั้งแต่ เลอบรอน เจมส์ ย้ายกลับ คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส ปี 2014 “อวตาร” กลายเป็นคนที่ฟันแจ็คพ็อตเต็มๆ รับสัญญาเต็มมูลค่า 5 ปี 118 ล้านเหรียญสหรัฐ (3.54 พันล้านบาท) เฉลี่ยปีละ 23.6 ล้านเหรียญ (708 ล้านบาท) ทว่า เหว็ด กลับถูกหักรายได้จาก 18 ล้านเหรียญ (540 ล้านบาท) ปี 2013-14 เหลือ 15 ล้านเหรียญ (450 ล้านบาท)
น่าเจ็บปวดเหลือเกิน สำหรับ เหว็ด ที่จงรักภักดีต่อ ฮีต มาตั้งแต่ถูกดราฟต์อันดับ 5 ปี 2003 และครั้งหนึ่งก็มีสิทธิ์ย้ายทีมยุคตกต่ำ แสวงหาความสำเร็จ หลังจากคว้าแชมป์ครั้งแรกในประวัติศาสตร์แฟรนไชส์ ฤดูกาล 2005-06 ก่อนจะได้ “คิงเจมส์” กับ บอช มาร่วมงาน หยิบโทรฟี “แลร์รี โอ ไบรอัน” ด้วยกันอีก 2 สมัย ไม่น่าแปลกใจ หาก เจ้าตัว จะเก็บความน้อยใจ ลาถิ่น อเมริกัน แอร์ไลน์ส อารีนา ที่อยู่มานาน 12 ปี
แม้จะพลาดการลงเล่น 20 เกม ตลอดซีซันที่ผ่านมา เหว็ด ก็ใช่ว่าจะหมดเขี้ยวเล็บเสียทีเดียว ซัดเฉลี่ย 21.5 แต้ม 3.5 รีบาวน์ด 4.8 แอสซิสต์ ชู้ตฟิลด์โกลเข้าเป้า 47 เปอร์เซ็นต์ ไม่แตกต่างจาก สตีเฟน เคอร์รี MVP ฤดูกาลปกติ , เบลก กริฟฟิน และ เลอบรอน กอปรกับการคุยสัญญาใหม่กับ ฮีต ที่ยังไม่ลงตัว จึงเกิดข่าวลือจาก “อีเอสพีเอ็น” สื่อดังแห่งแดนมะกัน ว่า เลเกอร์ส สนใจอยากจะคว้าไปร่วมทีม
เหว็ด สามารถปรับมาเล่น พอยน์ท การ์ด ซึ่งเป็นบทบาทเดียวกับสมัยเป็นรุกกี และน่าจะติด 5 ตัวจริงเคียงข้างกับ โคบี ได้อย่างไร้ปัญหา หากทั้งคู่สามารถย้อนเวลากลับไปในช่วงพีก ก็ย่อมเป็นคู่หูที่น่าเกรงขามคู่หนึ่งของ NBA
ก่อนเจอปัญหาการบาดเจ็บรบกวน โคบี ก็ยังโดดเด่น ฤดูกาล 2012-13 ค่าเฉลี่ย 27.3 แต้ม ยิงฟิลด์โกล 46.3 เปอร์เซ็นต์ 6.0 แอสซิสต์ 5.6 รีบาวน์ด นับตั้งแต่ฤดูกาล 2000-01 มีเพียง 5 คน ที่ทำผลงานขั้นต่ำ 27 แต้ม 6 แอสซิสต์ และ 5.5 รีบาวน์ด ได้แก่ เหว็ด , เจมส์ , รัสเซลล์ เวสต์บรูก และ เจมส์ ฮาร์เดน
หากดีลเกิดขึ้นจริง นอกเหนือจากทีมที่น่าจะแกร่งขึ้น หาก 2 ว่าที่ตำนาน ฟิตสมบูรณ์ตลอดซีซันหน้า บรรดาดาวรุ่งอย่าง จอร์แดน คลาร์กสัน, จูเลียส แรนเดิล และ ดราฟต์เบอร์ 2 ที่กำลังจะตามมา วันศุกร์ที่ 26 มิถุนายนนี้ ตามวัน-เวลาประเทศไทย ก็จะเรียนรู้ประสบการณ์จากรุ่นพี่ที่เคยมีแหวนแชมป์สวมนิ้วมาแล้ว คอยประคับประคอง แม้จะเป็นการจับมือกันระยะสั้นๆ แต่ก็อาจส่งผลต่อเนื่องระยะยาวเช่นกัน
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
แฟน แอลเอ เลเกอร์ส เพียงบางส่วน อยากจะเห็นการจับคู่ระหว่าง โคบี ไบรอันท์ กับ ดเวย์น เหว็ด มาจับคู่กันลุยศึกบาสเก็ตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ฤดูกาล 2015-16 แม้ทั้งคู่จะเป็นมือปิดสกอร์ชั้นเยี่ยม แต่สภาพร่างกาย และสังขารเปรียบดั่งไม้ใกล้ฝั่ง คอยบั่นทอนศักยภาพ แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่า 2 ซูเปอร์สตาร์ดาวค้างฟ้า จะมาผนึกกำลังกัน หลังเปิดตลาดฟรีเอเจนต์ ซัมเมอร์นี้
เลเกอร์ส มีงบประมาณสร้างทีมคืนสู่ความเกรียงไกร 35 ล้านเหรียญสหรัฐ (1.05 พันล้านบาท) บางทีน่าจะดีเสียกว่า หากลงทุนกับผู้เล่นวัยหนุ่ม ที่ไม่มีประวัติการบาดเจ็บยาวเหยียดเป็นหางว่าวอย่าง “ดีขเหว็ด” และเหลืออ็อปชัน 16.1 ล้านเหรียญ (483 ล้านบาท) ซีซันหน้า
ฮีต พยายามเก็บ “แฟรนไชส์ เพลเยอร์” ของตัวเอง ด้วยการเสนอสัญญาเพียง 3 ปี 36 ล้านเหรียญสหรัฐ (1.08 พันล้านบาท) สวนทางกับความต้องการของ เหวด ที่เรียกร้องขอรายได้เฉลี่ย 20 ล้านเหรียญ (600 ล้านบาท) ต่อปี ฟังอยู่อาจเป็นสัญญาที่สมน้ำสมเนื้อแล้ว สำหรับผู้เล่นที่อายุ 33 ปี แต่ลองเทียบกับ คริส บอช ฟอร์เวิร์ดคู่หูแล้ว แตกต่างกันราวฟ้ากับเหว
ตั้งแต่ เลอบรอน เจมส์ ย้ายกลับ คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส ปี 2014 “อวตาร” กลายเป็นคนที่ฟันแจ็คพ็อตเต็มๆ รับสัญญาเต็มมูลค่า 5 ปี 118 ล้านเหรียญสหรัฐ (3.54 พันล้านบาท) เฉลี่ยปีละ 23.6 ล้านเหรียญ (708 ล้านบาท) ทว่า เหว็ด กลับถูกหักรายได้จาก 18 ล้านเหรียญ (540 ล้านบาท) ปี 2013-14 เหลือ 15 ล้านเหรียญ (450 ล้านบาท)
น่าเจ็บปวดเหลือเกิน สำหรับ เหว็ด ที่จงรักภักดีต่อ ฮีต มาตั้งแต่ถูกดราฟต์อันดับ 5 ปี 2003 และครั้งหนึ่งก็มีสิทธิ์ย้ายทีมยุคตกต่ำ แสวงหาความสำเร็จ หลังจากคว้าแชมป์ครั้งแรกในประวัติศาสตร์แฟรนไชส์ ฤดูกาล 2005-06 ก่อนจะได้ “คิงเจมส์” กับ บอช มาร่วมงาน หยิบโทรฟี “แลร์รี โอ ไบรอัน” ด้วยกันอีก 2 สมัย ไม่น่าแปลกใจ หาก เจ้าตัว จะเก็บความน้อยใจ ลาถิ่น อเมริกัน แอร์ไลน์ส อารีนา ที่อยู่มานาน 12 ปี
แม้จะพลาดการลงเล่น 20 เกม ตลอดซีซันที่ผ่านมา เหว็ด ก็ใช่ว่าจะหมดเขี้ยวเล็บเสียทีเดียว ซัดเฉลี่ย 21.5 แต้ม 3.5 รีบาวน์ด 4.8 แอสซิสต์ ชู้ตฟิลด์โกลเข้าเป้า 47 เปอร์เซ็นต์ ไม่แตกต่างจาก สตีเฟน เคอร์รี MVP ฤดูกาลปกติ , เบลก กริฟฟิน และ เลอบรอน กอปรกับการคุยสัญญาใหม่กับ ฮีต ที่ยังไม่ลงตัว จึงเกิดข่าวลือจาก “อีเอสพีเอ็น” สื่อดังแห่งแดนมะกัน ว่า เลเกอร์ส สนใจอยากจะคว้าไปร่วมทีม
เหว็ด สามารถปรับมาเล่น พอยน์ท การ์ด ซึ่งเป็นบทบาทเดียวกับสมัยเป็นรุกกี และน่าจะติด 5 ตัวจริงเคียงข้างกับ โคบี ได้อย่างไร้ปัญหา หากทั้งคู่สามารถย้อนเวลากลับไปในช่วงพีก ก็ย่อมเป็นคู่หูที่น่าเกรงขามคู่หนึ่งของ NBA
ก่อนเจอปัญหาการบาดเจ็บรบกวน โคบี ก็ยังโดดเด่น ฤดูกาล 2012-13 ค่าเฉลี่ย 27.3 แต้ม ยิงฟิลด์โกล 46.3 เปอร์เซ็นต์ 6.0 แอสซิสต์ 5.6 รีบาวน์ด นับตั้งแต่ฤดูกาล 2000-01 มีเพียง 5 คน ที่ทำผลงานขั้นต่ำ 27 แต้ม 6 แอสซิสต์ และ 5.5 รีบาวน์ด ได้แก่ เหว็ด , เจมส์ , รัสเซลล์ เวสต์บรูก และ เจมส์ ฮาร์เดน
หากดีลเกิดขึ้นจริง นอกเหนือจากทีมที่น่าจะแกร่งขึ้น หาก 2 ว่าที่ตำนาน ฟิตสมบูรณ์ตลอดซีซันหน้า บรรดาดาวรุ่งอย่าง จอร์แดน คลาร์กสัน, จูเลียส แรนเดิล และ ดราฟต์เบอร์ 2 ที่กำลังจะตามมา วันศุกร์ที่ 26 มิถุนายนนี้ ตามวัน-เวลาประเทศไทย ก็จะเรียนรู้ประสบการณ์จากรุ่นพี่ที่เคยมีแหวนแชมป์สวมนิ้วมาแล้ว คอยประคับประคอง แม้จะเป็นการจับมือกันระยะสั้นๆ แต่ก็อาจส่งผลต่อเนื่องระยะยาวเช่นกัน
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *