xs
xsm
sm
md
lg

ปัจจัยชี้แชมป์ NBA คู่ชิง “แคฟส์-นักรบ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“เคอร์รี-ธอมป์สัน” คู่หูมือปืนนักรบ
เอเยนซี - ศึกบาสเก็ตบอล เอ็นบีเอ (NBA) รอบชิงชนะเลิศ กำลังจะเปิดฉากเกมแรก วันศุกร์ที่ 5 มิถุนายน ตามวัน-เวลาประเทศไทย นับเป็น “ดรีม ไฟนัล” ของแฟนยัดห่วง เนื่องจากเป็นการดวลกันของ 2 ตัวเต็ง คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส ที่ได้ลุ้นแชมป์ครั้งที่ 2 ในประวัติศาสตร์แฟรนไชส์ กับ โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส ซึ่งรอเวลานี้มานานนับตั้งแต่ปี 1975 โดยผู้ชี้ขาดเกมนี้ คงหนีไม่พ้น เลอบรอน เจมส์ กับ สตีเฟน เคอร์รี แม่ทัพของทั้ง 2 ฝ่าย แต่ก็ไม่อาจมองข้ามผู้ปิดทองหลังพระอย่าง เจ.อาร์.สมิธ และ อังเดร อิกัวดาลา

1. ลูกยิง 3 แต้ม ปะทะ เกมรับ
สตีเฟน เคอร์รี และ เคลย์ ธอมป์สัน การ์ดคู่หู วอร์ริเออร์ส มีจุดเด่นด้านการชู้ตอันแม่นยำ หากทั้งคู่ขาดคนประกบก็แทบจะใส่สกอร์ทันที แม้เกมรับ คาวาเลียร์ส เคยจัดการ แอตแลนตา ฮอว์คส จนอยู่หมัดมาแล้ว แต่ก็มีโชคเข้าข้างเล็กน้อย “เหยี่ยว” ส่องไกลเข้าเป้าเพียง 5 จาก 32 ครั้ง เกม 4 ซึ่งแบ่งเป็นการชู้ตแบบไม่มีคนป้องกัน 30 ครั้ง แต่ลงห่วงเพียง 4 ครั้ง พิจารณาตัวเลขเหล่านี้ ลูกทีมของ สตีฟ เคอร์ คงจะลูบปาก เนื่องจาก เคอร์รี ครองสถิติยิง 3 แต้มสูงสุดรอบเพลย์ออฟ และประสิทธิภาพของ ธอมป์สัน ก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน รวมถึงกองหนุนที่ต่างมีทีเด็ดจากวงนอก อาทิ แฮร์ริสัน บาร์นส , เดรย์มอนด์ กรีน , เลอันโดร บาร์โบซา และ อังเดร อิกัวดาลา ซึ่งผู้เล่น “แคฟส์” จะต้องคอยระวังอย่าติดกับดักการสกรีนของ แอนดรูว์ โบกัต หรือ เฟสตุส เอเซลี

2. แผนนักรบดับซ่า “เลอบรอน”
จุดอ่อนของ เลอบรอน เจมส์ ชัดเจนสุด คือ การชู้ต ถึงแม้จะพัฒนาขึ้นอย่างยอดเยี่ยมตลอดหลายปี แต่ลูก จัมพ์ชู้ต ก็ยังกลับมาหลอกหลอนตัวเองอยู่เสมอ เกมโพสต์ซีซันฤดูกาลนี้ โดย ฟอร์เวิร์ดวัย 30 ปี ส่องฟิลด์โกลเข้าเป้า 42.8 เปอร์เซ็นต์ (แย่สุดอันดับ 2 ตลอดอาชีพ) และลูกยิง 3 คะแนน 17.6 เปอร์เซ็นต์จากความพยายาม 4.9 ครั้งต่อเกม ดังนั้นการเปลี่ยนสไตล์ “คิงเจมส์” ให้หันมาจัมพ์ชู้ต คือ กุญแจสู้ชัยชนะของ วอร์ริเออร์ส ซึ่ง สตีฟ เคอร์ อาจใช้บริการ แฮร์ริสัน บาร์นส ที่มีส่วนสูง 6 ฟุต 8 นิ้ว เท่ากัน และ แอนดรูว์ โบกัต กับ เฟสตุส เอเซลี 2 เซ็นเตอร์ คอยรองพื้นที่ใต้แป้น ป้องการการทะลุทะลวงของ เลอบรอนเหมือนกับ ซาน อันโตนิโอ สเปอร์ส ที่วาง คาไว เลียวนาร์ด และ ทิม ดันแคน รอบชิงฯ ปีที่แล้ว

3. สตีเฟน เคอร์รี VS คายรี เออร์วิง
การเผชิญหน้าระหว่าง MVP ฤดูกาลปกติ กับ MVP ออล-สตาร์ ย่อมการันตีความดุเดือด ทว่าน่าเสียดาย สภาพร่างกายของทั้งคู่ยังเป็นปัญหา เริ่มจาก สตีเฟน เคอร์รี เจอ เทรเวอร์ อริซา ฟอร์เวิร์ด ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์ หนุนจนล้มลงกระแทกพื้น ร่างกายซีกขวาน่าจะช้ำอยู่บ้างเห็นได้ชัดจากการสวมปลอกแขนยาว สถิติการชู้ตลดฮวบ ฟิลด์โกล 7 จาก 21 ครั้ง และ 3 คะแนน 3 จาก 11 ครั้ง เช่นเดียวกับ คายรี เออร์วิง ฝืนการเอ็นเข่าอักเสบมาหลายสัปดาห์ แต่ก็มีลุ้นฟื้นตัวเต็มที่ เมื่อถึงเกม 1

เคอร์รี ไม่ใช่การ์ดที่พึ่งพาการเล่นแบบ “พิค แอนด์ โรลล์” เท่ากับว่า เออร์วิง ต้องคอยกีดกัน การ์ดวัย 27 ปี พื้นที่ยิง 3 คะแนนทั้งตอนครองบอล หรือไม่มีบอล ส่วน รุกกี ออฟ เดอะ เยียร์ ปี 2011 อันตราย ขณะเลี้ยงบอล หรืออาศัยการทำฉาก (สกรีน) แม้การชู้ตจะเป็นรอง แน่นอนว่าการดวลกันของทั้งคู่ เปรียบเสมือนการเล่นวิ่งไล่จับ

4. ตัวสำรองพลิกเกม
เจ.อาร์.สมิธ การ์ด คาวาเลียร์ส จัดเป็นผู้เล่นเกมรุกดีสุดคนหนึ่ง หากมองข้าม เลอบรอน เจมส์ , คายรี เออร์วิง หรือ เควิน เลิฟ ไม่เพียงแค่การชู้ตอันแม่นยำ แต่ยังครบเครื่องทั้งแอสซิสต์ ,รีบาวน์ด หรือเกมรับ หาก อดีตผู้เล่น นิวยอร์ก นิกส์ และ เดนเวอร์ นักเก็ตส์ เกิดเข้าฝัก ย่อมเป็นตัวช่วยของ “คิงเจมส์” กับ เออร์วิง เสริมเขี้ยวเล็บของ “แคฟส์” อย่างดี แต่ถ้าเล่นไม่ออก วอร์ริเออร์ส ก็สามารถมุ่งเน้นกับการป้องกัน 2 สตาร์ โดยไม่ต้องพะวงคนอื่นๆ

อังเดร อิกัวดาลา บทบาทดูจะแตกต่างกับ การ์ดวัย 29 ปี แต่จะลงมาเพื่อคุมจังหวะ สร้างเกมรุกมากกว่าการทำคะแนน คอยติดตาม เลอบรอน เจ้าของรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) 4 สมัย เหมือนเงาตามตัว หรือยิง 3 คะแนน เมื่อถึงคราวจำเป็น ตลอดจนการตะลุยขึ้นดังค์ชนิดไม่เกรงกลัวการตั้งรับ

ตามสายตาของแฟนๆ ส่วนใหญ่อาจจับจ้องบิ๊กเนม อาทิ เลอบรอน , คายรี เออร์วิง , สตีเฟน เคอร์รี หรือ เคลย์ ธอมป์สัน แต่ผู้เล่นอย่าง สมิธ และ อิกัวดาลา อาจไม่มีส่วนร่วมกับเกมมากนัก แต่ก็อาจสร้างเพลย์พลิกโฉมหน้าของเกมได้

* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *


“เลอบรอน” มีปัญหาเรื่องจัมพ์ชูต
“เออร์วิง” สภาพดูไม่เต็มร้อย
“สมิธ” จอมแม่นที่อย่ามองข้าม
“อิกัวดาลา” ลูกพี่ใหญ่ประจำทีม
กำลังโหลดความคิดเห็น