คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน
หลังจาก โชเซ้ฟ บลั๊ทเท่อร์ (Joseph Blatter) ถูกสอยร่วงจากเก้าอี้ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า สืบเนื่องจากปัญหาทุจริตในองค์กรเมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา การเลือกตั้งผู้นำสืบทอดอำนาจแทนถูกกำหนดเอาไว้ประมาณช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า หลายคนเริ่มประกาศตัวลงชิงตำแหน่ง ซึ่งรายล่าสุดก็คือ ดิเอโก มาราโดนา (Diego Maradona) อดีตนักเตะทีมชาติอารเกนตีนา จากปากของ บิ๊กตอร อูโก โมราเล้ส (Victor Hugo Morales) พิธีกรคู่หู่ชาวอูรูกวัยในรายการโทรทัศน์ที่ เบเนซูเอลา เมื่อครั้งฟุตบอลโลก 2014
อดีตนักเตะสโมสรนาโปลี วัย 54 ปี รายนี้เกิดความคิดขึ้นมาก็เพราะ นิโกล้าส มาดูโร (Nicolas Maduro) ประธานาธิบดี เบเนซูเอลา เพื่อนซี้จากพรรคสังคมนิยมที่หมอนี่ออกแรงสนับสนุนอย่างเต็มตัวมาตลอดได้รีบโทรศัพท์มาชักชวนให้ลงชิงตำแหน่งหลังทราบข่าวการประกาศลาออกของ เซ็พ
ลูอิ๊ช ฟิโก (Luis Figo) ตำนานนักเตะชาวปอรตูเกา และ มีเชล ปลาตีนี (Michel Platini) อดีตยอดนักเตะชาวฝรั่งเศส ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานสหสมาคมฟุตบอลทวีปยุโรป หรือ ยูเอ๊ฟฟ่า ที่เคยประกาศตนขอเป็น ประธาน ฟีฟ่า อาจเป็นแบบอย่างให้ มาราโดน่า คิดว่าชื่อเสียงในฐานะนักเตะจะเป็นที่มาของคะแนนสนับสนุนอย่างดีเลย แต่หมอนี่คงลืมนึกไปว่า ร่องรอยความโสมมในประวัติของตนเองนั้นมันมากมายเหลือเกิน
เริ่มตั้งแต่โกงภาษี เมื่อครั้งเตะให้ นาโปลี ช่วงปี 1984-1991 ร่วม 10 กว่าล้าน ยูโร ซึ่งตอนปี 2009 มีการเปิดเผยว่า จากเงินจำนวนดังกล่าวรวมกับดอกเบี้ยทำให้พอกพูนบานเบอะไปถึง 37 ล้าน ยูโร ซึ่งจนถึงวันนี้หมอนี่ได้ชำระไปเพียง 42,000 ยูโร กับ นาฬิกาหรู 2 เรือนและ ตุ้มหูอีก 1 ชุด เท่านั้น แล้วเจ้าอ้วนซ่าจะเข้า อิตาลี หรือ ทวีปยุโรป ได้ไหมเนี่ยะ
เรื่องสมัย นาโปลี ยังมีอั้พยาอีก ในเดือนเมษายน 1991 ตรวจสารต้องห้ามไม่ผ่านเนื่องจากพบปริมาณ โคเคน ในร่างกาย ถูกแบนไป 15 เดือน ฟุตบอลโลก 1994 นัดที่เตะกับ ไนจีเรีย นี่ก็โดนจับสารกระตุ้น 5 ตัว โดนแบนอีก
เรื่องขี้โกงก็ใน ฟุตบอลโลก 1986 นำทีมชาติอารเกนตีนาไปถึงแช้มพ์โลกโดยผ่านเส้นทางมาด้วยการเอาชนะทีมชาติอังกฤษในรอบ 8 ทีมด้วยการใช้มือทำประตู แต่ดันเรียกการทำประตูดังกล่าวอย่างไม่อายว่า “หัตถ์ของพระเจ้า” (Hand of God)
ในปี 1994 นักเตะร่างเตี้ย 1.65 เมตร ใช้ปืนอัดลมยิงใส่ผู้สื่อข่าว อันนี้โดนตัดสินผิดจริงแต่ให้รอลงอาญา 2 ปี นอกจากนั้น ยังมีตบหน้าและด่าผู้สื่อข่าวหน้าโรงละครใน กรุงบูเอโน้ส อายเร้ส อีกด้วย
ข้อบังคับของคณะกรรมการการเลือกตั้งของ ฟีฟ่า ได้กำหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะเสนอตัวลงชิงตำแหน่งประธานองค์กรดังกล่าวคือ ต้องมีจดหมายยืนยันการให้การสนับสนุนจากสมาคมฟุตบอลของชาติสมาชิก 5 ชาติจากทั้งหมด 209 ชาติ ซึ่ง มาราโดนา คงได้รับการสนับสนุนจาก เบเนซูเอลา ที่มีเพื่อนซี้เป็นผู้นำอย่างแน่นอน รวมทั้ง กูบา อีกชาติหนึ่งเนื่องจากสนิทสนมเป็นพิเศษ เดินทางไปเยี่ยมเยียนกับบ่อยมากกับ ฟีเดล ก้าสโตร (Fidel Castro) อดีตประธานาธิบดี แต่สมาคมฟุตบอลอารเกนตีนาเองนั้น กลุ่มที่ทรงอิทธิพลยังเต็มไปด้วยฝ่ายตรงข้ามกับ เสือเตี้ย ดังนั้นก็ยากที่จะให้การสนับสนุน นอกจากนั้น คงเป็น สหรัฐอาหรับเอมิเรทส์ ที่หมอนี่ไปเป็นโค้ช สโมสรอัล วัสล์ (Al-Wasl) ให้ แต่ด้วยความสนิทกับผู้นำหลายประเทศ ถ้าเอาจริงๆหมอนี่คงได้จดหมายครบ
อย่างไรก็ตาม ข้อบังคับอีกประการหนึ่งคือ ผู้สมัครชิงตำแหน่ง ประธาน ฟีฟ่า ต้องเป็นผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารในองค์กรฟุตบอลในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 2 ปี ไม่ว่าจะเป็นระดับชาติหรือระดับนานาชาติก็ตาม แต่สำหรับ มาราโดนา นั้น ย้อนกลับไปพิจารณาเงื่อนไขนี้ จะพบว่าที่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับองค์กรฟุตบอลก็เพียงคุมทีมใน ยูเออี เพียงแค่ช่วง 2011-2012 มันไม่ครบตามเกณฑ์อย่างแน่นอน ยิ่งเคยประกาศตนเป็นฝั่งตรงข้ามกับ เซ็พ และวิพากษ์วิจารณ์อย่างเผ็ดร้อนด้วย โดมินิโก สกาลา (Domenico Scala) ร่างทรงที่ เซ็พ เอามาคุมการเลือกตั้งคงไม่ยอมให้ผ่านเรื่องคุณสมบัติไปได้หรอกครับ
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!***
หลังจาก โชเซ้ฟ บลั๊ทเท่อร์ (Joseph Blatter) ถูกสอยร่วงจากเก้าอี้ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า สืบเนื่องจากปัญหาทุจริตในองค์กรเมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา การเลือกตั้งผู้นำสืบทอดอำนาจแทนถูกกำหนดเอาไว้ประมาณช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า หลายคนเริ่มประกาศตัวลงชิงตำแหน่ง ซึ่งรายล่าสุดก็คือ ดิเอโก มาราโดนา (Diego Maradona) อดีตนักเตะทีมชาติอารเกนตีนา จากปากของ บิ๊กตอร อูโก โมราเล้ส (Victor Hugo Morales) พิธีกรคู่หู่ชาวอูรูกวัยในรายการโทรทัศน์ที่ เบเนซูเอลา เมื่อครั้งฟุตบอลโลก 2014
อดีตนักเตะสโมสรนาโปลี วัย 54 ปี รายนี้เกิดความคิดขึ้นมาก็เพราะ นิโกล้าส มาดูโร (Nicolas Maduro) ประธานาธิบดี เบเนซูเอลา เพื่อนซี้จากพรรคสังคมนิยมที่หมอนี่ออกแรงสนับสนุนอย่างเต็มตัวมาตลอดได้รีบโทรศัพท์มาชักชวนให้ลงชิงตำแหน่งหลังทราบข่าวการประกาศลาออกของ เซ็พ
ลูอิ๊ช ฟิโก (Luis Figo) ตำนานนักเตะชาวปอรตูเกา และ มีเชล ปลาตีนี (Michel Platini) อดีตยอดนักเตะชาวฝรั่งเศส ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานสหสมาคมฟุตบอลทวีปยุโรป หรือ ยูเอ๊ฟฟ่า ที่เคยประกาศตนขอเป็น ประธาน ฟีฟ่า อาจเป็นแบบอย่างให้ มาราโดน่า คิดว่าชื่อเสียงในฐานะนักเตะจะเป็นที่มาของคะแนนสนับสนุนอย่างดีเลย แต่หมอนี่คงลืมนึกไปว่า ร่องรอยความโสมมในประวัติของตนเองนั้นมันมากมายเหลือเกิน
เริ่มตั้งแต่โกงภาษี เมื่อครั้งเตะให้ นาโปลี ช่วงปี 1984-1991 ร่วม 10 กว่าล้าน ยูโร ซึ่งตอนปี 2009 มีการเปิดเผยว่า จากเงินจำนวนดังกล่าวรวมกับดอกเบี้ยทำให้พอกพูนบานเบอะไปถึง 37 ล้าน ยูโร ซึ่งจนถึงวันนี้หมอนี่ได้ชำระไปเพียง 42,000 ยูโร กับ นาฬิกาหรู 2 เรือนและ ตุ้มหูอีก 1 ชุด เท่านั้น แล้วเจ้าอ้วนซ่าจะเข้า อิตาลี หรือ ทวีปยุโรป ได้ไหมเนี่ยะ
เรื่องสมัย นาโปลี ยังมีอั้พยาอีก ในเดือนเมษายน 1991 ตรวจสารต้องห้ามไม่ผ่านเนื่องจากพบปริมาณ โคเคน ในร่างกาย ถูกแบนไป 15 เดือน ฟุตบอลโลก 1994 นัดที่เตะกับ ไนจีเรีย นี่ก็โดนจับสารกระตุ้น 5 ตัว โดนแบนอีก
เรื่องขี้โกงก็ใน ฟุตบอลโลก 1986 นำทีมชาติอารเกนตีนาไปถึงแช้มพ์โลกโดยผ่านเส้นทางมาด้วยการเอาชนะทีมชาติอังกฤษในรอบ 8 ทีมด้วยการใช้มือทำประตู แต่ดันเรียกการทำประตูดังกล่าวอย่างไม่อายว่า “หัตถ์ของพระเจ้า” (Hand of God)
ในปี 1994 นักเตะร่างเตี้ย 1.65 เมตร ใช้ปืนอัดลมยิงใส่ผู้สื่อข่าว อันนี้โดนตัดสินผิดจริงแต่ให้รอลงอาญา 2 ปี นอกจากนั้น ยังมีตบหน้าและด่าผู้สื่อข่าวหน้าโรงละครใน กรุงบูเอโน้ส อายเร้ส อีกด้วย
ข้อบังคับของคณะกรรมการการเลือกตั้งของ ฟีฟ่า ได้กำหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะเสนอตัวลงชิงตำแหน่งประธานองค์กรดังกล่าวคือ ต้องมีจดหมายยืนยันการให้การสนับสนุนจากสมาคมฟุตบอลของชาติสมาชิก 5 ชาติจากทั้งหมด 209 ชาติ ซึ่ง มาราโดนา คงได้รับการสนับสนุนจาก เบเนซูเอลา ที่มีเพื่อนซี้เป็นผู้นำอย่างแน่นอน รวมทั้ง กูบา อีกชาติหนึ่งเนื่องจากสนิทสนมเป็นพิเศษ เดินทางไปเยี่ยมเยียนกับบ่อยมากกับ ฟีเดล ก้าสโตร (Fidel Castro) อดีตประธานาธิบดี แต่สมาคมฟุตบอลอารเกนตีนาเองนั้น กลุ่มที่ทรงอิทธิพลยังเต็มไปด้วยฝ่ายตรงข้ามกับ เสือเตี้ย ดังนั้นก็ยากที่จะให้การสนับสนุน นอกจากนั้น คงเป็น สหรัฐอาหรับเอมิเรทส์ ที่หมอนี่ไปเป็นโค้ช สโมสรอัล วัสล์ (Al-Wasl) ให้ แต่ด้วยความสนิทกับผู้นำหลายประเทศ ถ้าเอาจริงๆหมอนี่คงได้จดหมายครบ
อย่างไรก็ตาม ข้อบังคับอีกประการหนึ่งคือ ผู้สมัครชิงตำแหน่ง ประธาน ฟีฟ่า ต้องเป็นผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารในองค์กรฟุตบอลในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 2 ปี ไม่ว่าจะเป็นระดับชาติหรือระดับนานาชาติก็ตาม แต่สำหรับ มาราโดนา นั้น ย้อนกลับไปพิจารณาเงื่อนไขนี้ จะพบว่าที่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับองค์กรฟุตบอลก็เพียงคุมทีมใน ยูเออี เพียงแค่ช่วง 2011-2012 มันไม่ครบตามเกณฑ์อย่างแน่นอน ยิ่งเคยประกาศตนเป็นฝั่งตรงข้ามกับ เซ็พ และวิพากษ์วิจารณ์อย่างเผ็ดร้อนด้วย โดมินิโก สกาลา (Domenico Scala) ร่างทรงที่ เซ็พ เอามาคุมการเลือกตั้งคงไม่ยอมให้ผ่านเรื่องคุณสมบัติไปได้หรอกครับ
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!***
