แจ๊ค วอร์เนอร์ อดีตรองประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟา) หนึ่งในผู้ต้องสงสัยทุจริตที่เขย่าวงการลูกหนังโลก โจมตี สหรัฐอเมริกา พยายามแก้แค้นกรณีวืดเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกปี 2022 ดังนั้นไม่มีอำนาจที่จะตัดสินคดีนี้เพื่อให้ออกมาบริสุทธิ์ยุติธรรมที่สุด
วอร์เนอร์ ถือเป็นหัวใจสำคัญของการคลี่คลายคดีคอร์รัปชันครั้งนี้ โดยเป็น 1 ใน 14 คนที่ถูกจับเมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ณ กรุงซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในจำนวนนี้ 7 คนเป็นบอร์ดบริหารของ ฟีฟา ซึ่งมีการรายงานว่าอดีตรองประธานนั้นรับเงิน 10 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 330 ล้านบาท) เพื่อผลักดันให้ แอฟริกาใต้ ได้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2010
อัยการสหรัฐอเมริกา ได้เดินเรื่องฟ้องร้อง วอร์เนอร์ ชาวตรินิแดด และ โตเบโก ข้อหาทุจริต พร้อมต้องการให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดน แต่เจ้าตัวปฎเสธทุกข้อกล่าวหา
พร้อมกันนี้ วอร์เนอร์ ได้กล่าวผ่านบทบรรณาธิการ "ซันไชส์" ฉบับสุดสัปดาห์เมื่อวันศุกร์ที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมาว่า สหรัฐอเมริกา ไม่มีอำนาจที่เหมาะสมเพื่อตัดสินเรื่องนี้อย่างเป็นธรรม เพราะพยายามแก้แค้นกรณีล็อบบี ฟีฟา ไม่สำเร็จเพื่อคว้าสิทธิ์จัดเจ้าภาพ เวิลด์ คัพ 2022 "หนึ่งสิ่งที่จะต้องระมัดระวังอย่างยิ่งคือ สหรัฐอเมริกา สามารถจัดการเรื่องนี้อย่างเป็นธรรมได้หรือไม่"
วอร์เนอร์ ยังพาดพิงว่า บารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เชิญ เซปป์ แบล็ตเตอร์ ที่ลงจากเก้าอี้ประธาน ฟีฟา ทั้งที่เพิ่งได้รับเลือกให้นั่งเป็นสมัยที่ 5 ติดต่อกัน ไปรับประทานอาหารที่ทำเนียบขาว "เป็นทางสหรัฐอเมริกาที่พยายามจะล็อบบีอย่างหนัก ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละกรณีคำตอบย่อมไม่เหมือนกัน ทว่าก็แสดงให้เห็นถึงการเลือกของสินบน เหนืออื่นใดตนไม่เคยเชื้อเชิญใครที่พยายามทำเรื่องนี้เพื่อแลกกับคะแนนโหวต"
ตอนนี้สหรัฐอเมริกาพยายามจะตรวจสอบหลักฐานย้อนไป 20 ปีเพื่อเอาผิดผู้ต้องหาทั้ง 14 คนที่มีรายงานว่ารับเงินรวมกัน 150 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 5,100 ล้านบาท)
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!***