เซ็ปป์ แบล็ตเตอร์ ชาวสวิสวัย 79 ปี ประกาศลงจากตำแหน่งประธาน สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟา) เมื่อวันอังคารที่ 2 มิถุนายน 2558 เนื่องจากถูกมรสุมทุจริตภายในองค์กรรุมเร้า
แบล็ตเตอร์ เพิ่งได้รับเลือกให้นั่งตำแหน่งประธาน ฟีฟา สมัยที่ 5 ติดต่อกันเมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยทำหน้าที่มาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 1998 อย่างไรก็ตามก่อนลงคะแนนโหวตครั้งล่าสุดได้มี 7 สมาชิกระดับอาวุโสภายในองค์กร ซึ่งอยู่ในกลุ่ม 14 คนที่ถูกจับต้องสงสัยคอร์รัปชันที่กรุงซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ทำให้ แบล็ตเตอร์ แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่งประธาน ฟีฟา สิ้นสุดระยะเวลา 17 ปีที่ครองอำนาจ ซึ่งจะมีการประชุมด่วนวันศุกร์ที่ 5 มิถุนายนนี้หาผู้สืบทอดต่อไปให้เร็วที่สุด
สำหรับบรรดาผู้ที่ถูกจับเพราะสงสัยว่าทุจริตนั้นตอนนี้อัยการสหรัฐอเมริกาได้เดินเรื่องฟ้องร้องแล้ว คาดพัวพันสินบนที่เป็นเงินสูงถึง 150 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 4,950 ล้านบาท)
ก่อนที่ แบล็ตเตอร์ จะประกาศลาออกนั้น ฟีฟา ได้แถลงการณ์ปฎิเสธรายงานที่ว่า เฌโรม วาล์คเก เลขานุการทั่วไป เป็นผู้รับผิดชอบโอนเงิน 10 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 330 ล้านบาท) ให้แก่ แจ๊ค วอร์เนอร์ อดีตรองประธาน ที่ถูกจับฐานะเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยข้อหาคอร์รัปชัน
สำนักข่าว "นิว ยอร์ก ไทม์ส" รวมถึงสื่ออื่นอีกหลายสำนักรายงานตรงกันว่าในคำฟ้องของอัยการสหรัฐอเมริกาปรากฎชื่อ วาล์คเก มีเอี่ยวทุจริตครั้งนี้ด้วย
แบล๊ตเตอร์ ไม่ได้เป็นหนึ่งในผู้ถูกกล่าวหา สั่งให้ออกแถลงการณ์ว่า วาล์คเก ไม่รู้เห็นรายงานที่ว่าโอนเงินก้อนโตให้ วอร์เนอร์ ที่ถือเป็นสินบนของ แอฟริกาใต้ ซึ่งได้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2010 โดยตอนนี้บัญชีดังกล่าวถูกอายัตไว้เรียบร้อย
รายงานระบุว่าสินบนดังกล่าวได้มีการสัญญาว่าจะให้ในปี 2004 ที่มีการพิจารณาเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ แต่ทว่าจากนั้น แอฟริกาใต้ ไม่มีความสามารถที่จะจ่ายให้ได้ ดังนั้นในปี 2008 ฟีฟ่า จึงโอนเงินสนับสนุนทัวร์นาเมนต์ไปให้กลุ่มที่ควบคุมโดย วอร์เนอร์ แทน
ล่าสุด แบล็ตเตอร์ ลาออกโดยอ้างว่า "ฟีฟา มีแต่ความฉาวโฉ่ ซึ่งตอนนี้ต้องการฟื้นฟูอย่างเร่งด่วน ส่วนการโหวตเลือกให้นั่งตำแหน่งประธานนั้นเหมือนไม่ได้รับการสนับสนุนจากทุกคนในโลกฟุตบอลอีกต่อไป รวมถึงคนในองค์กรด้วย"
อย่างไรก็ตามระหว่างนี้ แบล็ตเตอร์ อาจจะดำรงตำแหน่งชั่วคราว ส่วนการเลือกตั้งใหม่ยังไม่ชัดเจนว่าเมื่อไหร่ แต่สื่อคาดว่าอาจจะกินเวลาจนถึงเดือนธันวาคมถึงมีนาคมที่จะถึงนี้เลยทีเดียว
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!***
