เอเยนซี – สถานการณ์ชิงชัยรถสูตรหนึ่งชิงแชมป์โลก ปี 2015 ผ่านไปแล้ว 4 สนาม ลูอิส แฮมิลตัน แชมป์โลก 2 สมัยจาก เมอร์เซเดส เอเอ็มจี ยังยึดหัวหาดกริดแถวหน้าสุดและจ่าฝูงบนตารางนักขับไม่เปลี่ยนแปลง ทว่าภารกิจป้องกันแชมป์ปีนี้เริ่มดูไม่ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก เมื่อ เฟอร์รารี อดีตยักษ์ใหญ่ของวงการ อัพสปีดตัวเองขึ้นมาไล่กวดแบบหายใจรดต้นคอ ก่อนยกสถานะขึ้นมาเป็นผู้ท้าชิงที่แชมป์เก่าเริ่มหนาวๆร้อนๆ
นับตั้งแต่คว้าแชมป์โลกครั้งสุดท้าย ปี 2008 ประเภททีมผู้สร้าง อดีตทีมที่เคยยิ่งใหญ่สุดของวงการอย่าง “ม้าลำพอง” ก็ไม่เคยได้ขยับเข้าใกล้ความสำเร็จแบบเดิมอีกเลย โดยเป็น เรด บูลล์ และ เมอร์เซเดส ได้ปิดแพ็ดด็อกฉลองชัยชนะพร้อมโทรฟีแชมป์โลกประจำฤดูกาลแบบผูกมัดมาตลอด ทว่าปีนี้ผ่านไป 4 สนาม รถ SF15-T สีแดงสด แสดงแสนยานุภาพได้อย่างน่าตื่นตะลึงขึ้นโพเดียมทุกสนามไม่มีขาด จนตอนนี้ขึ้นมาอยู่ที่ 2 ฝั่งทีมผู้สร้าง ตามแชมป์เก่า 59 แต้ม
สาเหตุที่ เฟอร์รารี ออกตัวจากกริดได้อย่างสวยสดงดงามเช่นนี้ เริ่มต้นตั้งแต่การปรับเปลี่ยนโครงสร้างภายในทีมทั้งหมด ไล่ตั้งแต่หัวหน้าใหญ่อย่าง เซร์คิโอ มาคิโอเน มานั่งกุมบังเหียนแทน ลูกา ดิ มอนเตเซโมโล หัวหน้าเก่าที่วิสัยทัศน์การทำทีมเริ่มล้าหลังไปเรื่อยๆ พร้อมสร้างทีมงานใหม่ดูแลโดย เมาริซิโอ อาร์ริวาเบเน ทีมบอสประจำแพ็ดด็อก ก่อนช่วยกันสร้างและออกแบบรถใหม่ที่มีความสมบูรณ์ที่สุดออกมา
จากสถิติข้อมูลที่ปรากฏออกมา เครื่องยนต์ใหม่ที่ทีมงาน เฟอร์รารี ผลิตขึ้นมา รุ่น 059/4 สร้างความแตกต่างได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะตัวเลขความเร็วของเครื่องยนต์จากที่เคยตาม เมอร์เซเดส เอเอ็มจี ถึง 50 แรงม้า ตอนนี้กลายเป็นเท่ากันไปเรียบร้อย ขณะที่การทดสอบความเร็วในสนาม ปีที่แล้วตามหลัง “ซิลเวอร์ แอร์โรว์ส” นับเป็นค่าเฉลี่ยที่ 1.22 วินาที ตอนนี้ถูกกดเหลือแค่ 0.705 วินาทีเท่านั้น
ขณะเดียวกัน อาร์ริวาเบเน ยอมรับว่าได้มีการปรับแนวคิดคือดึงนักแข่งประจำทีมอย่าง คิมี ไรค์โคเนน เข้ามามีส่วนร่วมในการระดมสมองกับ ซิโมเน เรสตา และ รอรีย์ เบิร์น สองทีมงานฝ่ายดีไซน์ ตั้งแต่เดือนธันวาคมปีก่อนจนได้รถอย่างที่ต้องการของนักแข่ง แถมยังเป็นการช่วยยกระดับผลงานของ “ดิ ไอซ์แมน” ให้ดีขึ้นกว่าเดิมด้วยจากปีก่อนไร้โพเดียมจบอันดับ 12 บนตาราง ตอนนี้เปลี่ยนมาอยู่ที่ 4 และได้โพเดียมไปแล้วที่ บาห์เรน
ทั้งนี้ อีกหนึ่งฟันเฟืองสำคัญของการปลุกชีพจร “ม้าลำพอง” ครั้งนี้ คือ เจมส์ อัลลิสัน หัวหน้าฝ่ายเทคนิค เพราะนอกจากร่วมลงแรงปรับปรุงเครื่องยนต์ ยังช่วยออกไอเดียทำโครงสร้างตัวถังรถใหม่หมดเพื่อรถสามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ รวมถึงทำหม้อน้ำใหม่ให้มีการระบายความร้อนได้ดีกว่าเดิมดังนั้นแฟนๆ เฟอร์รารี จึงยังไม่เห็นปัญหารถพังติดไฟลุกหรือดับกลางทางระหว่างแข่งเหมือนปีที่แล้ว
“จากการทำงานอย่างหนักระหว่างทีมงานและนักแข่งช่วงปลายปี ผมอยากบอกว่าเรามีรถที่ดีที่สุดอยู่ในมือ ด้วยเครื่องยนต์ที่รีดความเร็วได้อย่างเต็มที่และออกแบบเข้ากับหลักพลศาสตร์ ขณะเดียวกันสถานการณ์ก็เปลี่ยนไปแล้วหากเทียบกับผลงานอันล้มเหลวในหลายปีก่อน แน่นอนว่าทุกอย่างน่าพอใจแต่การพัฒนาจะไม่หยุดเพียงเท่านี้” อัลลิสัน กล่าว
อีกสิ่งที่ขาดไม่ได้คือนักแข่งอย่าง เซบาสเตียน เวทเทล แชมป์โลก 4 สมัย ที่ย้ายจาก เรด บูลล์ มาจับคู่กับ ไรค์โคเนน ก่อนควบ “ม้าลำพอง” ทะยานไปข้างหน้าจนได้แชมป์มาเชยชมแล้วที่ มาเลเซีย ซึ่งแน่นอนว่าต่อให้เครื่องดีแค่ไหนแต่ถ้าคนขับควบคุมไม่อยู่ก็มีสิทธิ์พังพินาศเช่นกัน เรียกว่าตอนนี้ เฟอร์รารี เต็มไปด้วยอาวุธครบมือและพร้อมแสดงพิษสงให้ทีมคู่แข่งได้หวาดผวาเหมือนสมัยยุค 60-70 ที่รุ่งเรืองสุดขีดแล้ว และน่าจะช่วยให้การแย่งแชมป์โลกปีนี้ดูสนุกเข้มข้นยิ่งขึ้น ไม่ใช่ เมอร์เซเดส แย่งกันเองอีกต่อไป ส่วนจะจริงหรือไม่รอพิสูจน์ได้ที่สนาม คาตาลุนญา สุดสัปดาห์นี้
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *