xs
xsm
sm
md
lg

“หงส์” ตะเพิด “ร็อดเจอร์ส” ข้อดี-ข้อเสียบนความเสี่ยง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ร็อดเจอร์ส จะอยู่หรือไป
เอเยนซี - กลายเป็น “ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์” ของวงการลูกหนัง พรีเมียร์ ลีก ช่วงปลายฤดูกาล 2014-15 ที่บรรดาสื่ออังกฤษไปสอบถามความคิดเห็นของอดีตนักฟุตบอลรวมถึงคอมเมนเตเตอร์สำนักต่างๆ ประเด็นว่า “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ถึงเวลาต้องเปลี่ยนกุนซือแล้วหรือไม่? เพราะภายใต้การคุมทัพของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ล้มเหลวไม่เป็นท่า

ลิเวอร์พูล เพิ่งตกรอบรองชนะเลิศ เอฟเอ คัพ แพ้ แอสตัน วิลลา 1-2 ที่สนาม เวมบลีย์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา ทำให้ความหวังเดียวที่เหลืออยู่ของฤดูกาลนี้พังทลาย เพราะ พรีเมียร์ ลีก เกาะอันดับ 5 มี 57 แต้มจาก 32 นัดตาม แมนเชสเตอร์ ซิตี ที่ 4 ซึ่งจะได้ไปเล่น ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก 7 แต้ม แต่แข่งน้อยกว่า 1 นัด ด้วยตรรกะแล้วยังเป็นไปได้ แต่ฟอร์มและความมั่นใจของนักเตะ ทำให้สาวก “เดอะ ค็อป” ไม่เชื่อว่าจะเกิดขึ้น

ร็อดเจอร์ส ถูกดึงมาจาก สวอนซี ซิตี คุมถิ่น แอนฟิลด์ เข้าสู่ปีที่ 3 ปีแรกถือว่าลองผิดลองถูก ส่วนปีที่แล้วเกือบได้แชมป์ พรีเมียร์ ลีก แต่ได้กลับไปเล่น ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ซึ่งก็ถือว่าน่าพอใจ แต่เมื่อฤดูกาลนี้ไม่มีแชมป์ติดมือ ทำให้กลายเป็นนายใหญ่ ลิเวอร์พูล คนแรกนับตั้งแต่ปลายทศวรรษ 1950 ที่ไร้ถ้วยในการคุมทัพตลอด 3 ปีแรก แน่นอนเสียงส่วนใหญ่ย่อมอยากให้เปลี่ยนแปลง ทว่าคำถามก็คืออะไรต่อมิอะไรจะดีขึ้นจริง? หรือจะต้องไปนับหนึ่งใหม่อีกครั้งกับแนวทางที่แตกต่างไปของกุนซือคนต่อไป

แน่นอนการเปลี่ยนกุนซือถือว่าเสี่ยงย่อมมีทั้งข้อดีข้อเสีย ลิเวอร์พูล ก็ไม่เว้น หาก ร็อดเจอร์ส โบกมือลาไปในช่วงซัมเมอร์นี้ ผลดีคือ ราฮีม สเตอร์ลิง ปีกทีมชาติอังกฤษ อาจเปลี่ยนใจอยู่ค้าแข้งต่อไป ที่ผ่านมาแข้งวัย 20 ปี อ้างว่าไม่ต่อสัญญาแทนของเดิมที่ผูกพันถึงปี 2017 เพราะมองไม่เห็นความสำเร็จอันใกล้ โดยบอกปัดค่าเหนื่อย 100,000 ปอนด์ (ประมาณ 5 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์ หากได้นายใหญ่ที่มีบารมีเพียงพอก็อาจจะเมิน เชลซี, อาร์เซนอล หรือ แมนเชสเตอร์ ซิตี อยู่ลุ้นต่อไปอีกปี

นอกจากนี้ถ้าได้กุนซือใหม่ก็จะเป็นยาชั้นดีกระตุ้นแข้งที่เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา ร็อดเจอร์ส คว้ามาถึง 8 ราย ใช้เงินไป 117 ล้านปอนด์ (ประมาณ 5,850 ล้านบาท) ซึ่งก็มาจากการขาย หลุยส์ ซัวเรซ หอกทีมชาติอุรุกวัยให้ บาร์เซโลนา 75 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,750 ล้านบาท) แต่ละคนที่เข้ามาอย่าง อดัม ลัลลานา, เอ็มเร ชาน, ลาซาร์ มาร์โควิช และ อัลแบร์โต โมเรโน ก็ดูมีน้ำมีนวลน่าจะปั้นได้หากร่วมงานกับนายใหญ่ป้ายแดงเหมือนเป็นการปลุกให้มีฮึดอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นกลยุทธ์กับแท็กติกการฝึกซ้อมใหม่ๆ รวมถึงระบบที่แตกต่างออกไป

ข้อดีสุดท้ายคือ ลิเวอร์พูล มีมาตรฐานใหม่ เพราะ ร็อดเจอร์ส ไร้แชมป์รอบ 3 ปีย่ำแย่ต่อจาก ฟิล เทย์เลอร์ ดังนั้นนายใหญ่คนใหม่ก็จะมีห้วงเวลามากขึ้นในการไขว่คว้าความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นถ้วยใหญ่อย่างแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษคือ พรีเมียร์ ลีก หรือ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก “เดอะ ค็อป” คงอดทนรอได้มากขึ้น

เหนืออื่นใดข้อเสียก็มีมากพอสมควร โดยเฉพาะเป้าหมายที่เล็งไว้ก็คือ เจอร์เกน คล็อปป์ นายใหญ่ที่ประกาศอำลา โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เรียบร้อยแล้วพร้อมพกโปรไฟล์แชมป์ บุนเดสลีกา 2 สมัยรวมถึงเข้ารอบชิงชนะเลิศ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ฤดูกาล 2012-13 แต่ก็ไม่การันตีว่าจะมาคุมถิ่น แอนฟิลด์ ที่ไร้มนต์ขลังรวมถึงนักเตะซูเปอร์สตาร์เหมือนครั้งอดีต

อีกทั้งนับตั้งแต่ปี 2010 ที่แยกทางกับ ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือชาวสแปนิชที่คว้าแชมป์ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก กับ เอฟเอ คัพ ซึ่งทำให้ ลิเวอร์พูล กลับไปเป็นทีมท็อปโฟร์อีกครั้ง จากนั้นทีมใช้นายใหญ่ 3 คน หากไล่ ร็อดเจอร์ส ก็หมายถึงการต้องกลับไปเริ่มตั้งใหม่ที่ไม่รู้ต้องใช้เวลากี่ปี ผิดกับทีมอย่าง เชลซี, แมนเชสเตอร์ ซิตี และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หากเจอสถานการณ์แบบนี้สามารถแก้ไขได้ทันท่วงทีสานต่อได้เลย อย่าง “ผีแดง” เต็มที่ก็ลองผิดลองถูกกับ เดวิด มอยส์ ปีเดียว ก็ต้องเร่งคว้าระดับ หลุยส์ ฟาน กัล เข้ามา

ปิดท้ายที่สโมสรระดับ ลิเวอร์พูล ที่มีประวัติยาวนานแถมมีฐานแฟนบอลเหนียวแน่น จำเป็นอย่างยิ่งที่บอร์ดบริหารจะต้องฟังเสียงของ “เดอะ ค็อป” แต่ว่า ร็อดเจอร์ส ทำลายวัฒนธรรมนี้ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่านำสิ่งนี้มาหากินไม่ได้แล้ว อะไรที่ย่ำแย่อยู่แล้วดูเหมือนว่าจะยิ่งเลวร้ายลงไปอีก เพราะพยายามจะสร้างทีมตามแบบฉบับของตนเองเน้นนักเตะเลือดใหม่จนนำมาสู่ความเสียหายในฤดูกาลนี้ ดังนั้นจากนี้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องยากแล้วที่จะหาใครสั่งคนเข้ามาหยุดกระบวนการเลวร้ายนี้

* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *


ลิเวอร์พูล ปีนี้ล้มเหลว
สเตอร์ลิง อนาคตไม่แน่นอน
แฟน “หงส์” อยากได้ คล็อปป์
กำลังโหลดความคิดเห็น