คอลัมน์ “สกอร์บอร์ด” โดย “แมวดำ”
จำได้ดีว่าเมื่อปีที่แล้ว หลังจาก “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา ได้โอกาสย้ายไปร่วมทีม อัลเมเรีย แห่งลาลีกา สเปน แม้จะเป็นทีมระดับท้ายๆ ตาราง หนีตายกันแทบทุกฤดูกาล แต่มันก็เป็นการบันทึกหน้าประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการฟุตบอลไทย ว่านี่คือผู้เล่นคนแรก และยังเป็นคนเดียวที่ได้โอกาสย้ายสู่ลีกแดนกระทิงดุ
ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่การประสบความสำเร็จ เมื่อไม่อาจแย่งตัวจริง แต่ก็ยังยิงประตูในฟุตบอลถ้วยได้ มาประดับเป็นหนึ่งในเกียรติยศชื่อเสียงของตนเอง ห้วงเวลานั้นพวกเราในกองบรรณาธิการข่าวกีฬายังนั่งคิดกันเล่นๆ ว่า ต่อจาก “มุ้ย” แล้วมีใครบ้างที่น่าจะมีโอกาส และฝีเท้าดีพอจะไปโลดแล่นในลีกต่างแดนอีก ซึ่งก็มีชื่อเดียวที่โดดเด้งผุดเข้ามาในความนึกคิดของแต่ละคน นั่นคือ “อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน แบ็คซ้ายจอมบุกของ “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แต่ความคิดดังกล่าวก็ค่อยๆ เลือนหายไปกับอาการถอดใจของหัวหอกเบอร์หนึ่งทีมชาติไทย ที่ฟอร์มการเล่นไม่อาจเอาชนะใจผู้จัดการทีมแห่งลาลีกา และลากลับเมืองไทย มายังต้นสังกัดเก่า เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เพื่อเริ่มต้นใหม่กับไทยพรีเมียร์ลีก 2015
ทว่าด้วยผลงานอันโดดเด่นของ “อุ้ม” ในฤดูกาลนี้กับสโมสรต้นสังกัดที่ได้ไปโลดแล่นกับศึกใหญ่ระดับเอเชีย อย่าง เอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก ร่วมกลุ่มในสาย เอฟ ร่วมกับสโมสรชั้นนำแห่งเอเชียอย่างไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่เลย แถมยังซัดประตูทีมดัง กัมบะ โอซากา แห่งเจลีก ด้วยลูกตั้งเตะทั้งเหย้า - เยือน ฟอร์มแบบนี้ไม่เรียกว่าแจ่มแจ๋วแล้วจะใช้คำว่าอะไรดี
เมื่อฟอร์มดีขึ้นเรื่อยๆ ในฐานะสื่อชอบมโนก็ส่งกระจอกข่าวพยายามจะถามคุณเนวิน ชิดชอบ นายใหญ่แห่งถิ่นเซราะกราว ว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนที่แบ็คซ้ายวัย 25 ปี จะได้ออกไปค้าแข้งยังลีกต่างแดนกับเขาบ้าง ผมนึกว่าจะได้คำตอบที่ว่าพร้อมส่งเสริมตัวนักเตะ และผลักดันไปสู่เป้าหมายที่ไกลกว่านี้ คำตอบของ “บอสเนวิน” คือ เมื่อ อุ้ม อยู่กับ บุรีรัมย์ เขามีทุกอย่างพร้อมสรรพอยู่แล้ว มาตรฐานของทีมเราก็ระดับเอเชียไปแล้ว จะให้ไปที่ไหนอีกหรือ? และเขาก็มีพ่อ (ทูนหัว) อยู่ที่บุรีรัมย์อยู่แล้ว
นั่นแหละครับ เป็นคำตอบที่ฉุดพวกสื่อจอมเพ้ออย่างผมให้กลับมาอยู่กับความเป็นจริงว่า ใช่แล้ว เขาจะไปที่ไหนอีก ในเมื่ออยู่กับ บุรีรัมย์ อุ้มก็ไม่ใช่นักเตะธรรมดา แต่เป็นซูเปอร์สตาร์ในแนวทางที่ดีอยู่แล้ว เขามีฐานเงินเดือนที่สูงในหลักหลายแสนบาท มีบ้านดีๆ มีรถหรูๆ อยู่กับสโมสรที่พร้อมต่อกรกับทุกทีมในระดับเอเชีย
ข้างฝ่ายเจ้าตัวเองก็บอกว่าเรื่องการไปค้าแข้งในลีกต่างแดนนั้นเป็นเรื่องของคุณเนวินตัดสินใจ ตัวเขานั้นไม่อาจมีคำตอบต่ออนาคตของตนได้ ทั้งหมดเป็นคำตอบที่ออกจากความในใจ ทั้งคุณเนวิน และจากหัวใจอุ้ม แล้ว เมื่อทั้งคู่ตัดสินใจ ก็ต้องเคารพการตัดสินใจ นึกอยู่เพียงอย่างเดียวว่า มันไม่ใช่เรื่องผิดเลย แค่อาจพลาดโอกาส เหมือนอย่างที่ “มุ้ย” เองได้ลองแล้ว แม้จะไม่สำเร็จก็ตาม
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
จำได้ดีว่าเมื่อปีที่แล้ว หลังจาก “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา ได้โอกาสย้ายไปร่วมทีม อัลเมเรีย แห่งลาลีกา สเปน แม้จะเป็นทีมระดับท้ายๆ ตาราง หนีตายกันแทบทุกฤดูกาล แต่มันก็เป็นการบันทึกหน้าประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการฟุตบอลไทย ว่านี่คือผู้เล่นคนแรก และยังเป็นคนเดียวที่ได้โอกาสย้ายสู่ลีกแดนกระทิงดุ
ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่การประสบความสำเร็จ เมื่อไม่อาจแย่งตัวจริง แต่ก็ยังยิงประตูในฟุตบอลถ้วยได้ มาประดับเป็นหนึ่งในเกียรติยศชื่อเสียงของตนเอง ห้วงเวลานั้นพวกเราในกองบรรณาธิการข่าวกีฬายังนั่งคิดกันเล่นๆ ว่า ต่อจาก “มุ้ย” แล้วมีใครบ้างที่น่าจะมีโอกาส และฝีเท้าดีพอจะไปโลดแล่นในลีกต่างแดนอีก ซึ่งก็มีชื่อเดียวที่โดดเด้งผุดเข้ามาในความนึกคิดของแต่ละคน นั่นคือ “อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน แบ็คซ้ายจอมบุกของ “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แต่ความคิดดังกล่าวก็ค่อยๆ เลือนหายไปกับอาการถอดใจของหัวหอกเบอร์หนึ่งทีมชาติไทย ที่ฟอร์มการเล่นไม่อาจเอาชนะใจผู้จัดการทีมแห่งลาลีกา และลากลับเมืองไทย มายังต้นสังกัดเก่า เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เพื่อเริ่มต้นใหม่กับไทยพรีเมียร์ลีก 2015
ทว่าด้วยผลงานอันโดดเด่นของ “อุ้ม” ในฤดูกาลนี้กับสโมสรต้นสังกัดที่ได้ไปโลดแล่นกับศึกใหญ่ระดับเอเชีย อย่าง เอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก ร่วมกลุ่มในสาย เอฟ ร่วมกับสโมสรชั้นนำแห่งเอเชียอย่างไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่เลย แถมยังซัดประตูทีมดัง กัมบะ โอซากา แห่งเจลีก ด้วยลูกตั้งเตะทั้งเหย้า - เยือน ฟอร์มแบบนี้ไม่เรียกว่าแจ่มแจ๋วแล้วจะใช้คำว่าอะไรดี
เมื่อฟอร์มดีขึ้นเรื่อยๆ ในฐานะสื่อชอบมโนก็ส่งกระจอกข่าวพยายามจะถามคุณเนวิน ชิดชอบ นายใหญ่แห่งถิ่นเซราะกราว ว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนที่แบ็คซ้ายวัย 25 ปี จะได้ออกไปค้าแข้งยังลีกต่างแดนกับเขาบ้าง ผมนึกว่าจะได้คำตอบที่ว่าพร้อมส่งเสริมตัวนักเตะ และผลักดันไปสู่เป้าหมายที่ไกลกว่านี้ คำตอบของ “บอสเนวิน” คือ เมื่อ อุ้ม อยู่กับ บุรีรัมย์ เขามีทุกอย่างพร้อมสรรพอยู่แล้ว มาตรฐานของทีมเราก็ระดับเอเชียไปแล้ว จะให้ไปที่ไหนอีกหรือ? และเขาก็มีพ่อ (ทูนหัว) อยู่ที่บุรีรัมย์อยู่แล้ว
นั่นแหละครับ เป็นคำตอบที่ฉุดพวกสื่อจอมเพ้ออย่างผมให้กลับมาอยู่กับความเป็นจริงว่า ใช่แล้ว เขาจะไปที่ไหนอีก ในเมื่ออยู่กับ บุรีรัมย์ อุ้มก็ไม่ใช่นักเตะธรรมดา แต่เป็นซูเปอร์สตาร์ในแนวทางที่ดีอยู่แล้ว เขามีฐานเงินเดือนที่สูงในหลักหลายแสนบาท มีบ้านดีๆ มีรถหรูๆ อยู่กับสโมสรที่พร้อมต่อกรกับทุกทีมในระดับเอเชีย
ข้างฝ่ายเจ้าตัวเองก็บอกว่าเรื่องการไปค้าแข้งในลีกต่างแดนนั้นเป็นเรื่องของคุณเนวินตัดสินใจ ตัวเขานั้นไม่อาจมีคำตอบต่ออนาคตของตนได้ ทั้งหมดเป็นคำตอบที่ออกจากความในใจ ทั้งคุณเนวิน และจากหัวใจอุ้ม แล้ว เมื่อทั้งคู่ตัดสินใจ ก็ต้องเคารพการตัดสินใจ นึกอยู่เพียงอย่างเดียวว่า มันไม่ใช่เรื่องผิดเลย แค่อาจพลาดโอกาส เหมือนอย่างที่ “มุ้ย” เองได้ลองแล้ว แม้จะไม่สำเร็จก็ตาม
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
