xs
xsm
sm
md
lg

ทัวร์ “คุก” ชมมวย / ชมณัฐ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ “TIMEOUT” โดย “ชมณัฐ”

“ไทม์เอาต์” ฉบับนี้ขอเว้นวรรคเรื่องลูกหนัง เนื่องจากตัวผมได้มีโอกาสไปสัมผัสประสบการณ์พิเศษก็คือการเข้าไปเหยียบเรือนจำ ดินแดนไร้อิสรภาพหลังม่านเหล็ก ที่ไม่มีผู้ใดอยากเยื้องกายเข้าไป จึงนำมาเล่าสู่กันฟัง

สืบเนื่องจากได้รับภารกิจให้ไปทำสกู๊ปสุดพิเศษ เจาะลึกเกี่ยวกับการฝึกชกมวยในเรือนจำ สถานที่ๆเต็มไปด้วยเหล่าชายฉกรรจ์ผู้ต้องคดี ว่าใช้ชีวิตกันอย่างไร ใยจึงผลิตนักมวยฝีมือดีออกมาสู่โลกภายนอกได้หลายต่อหลายราย ในชื่อ เจาะชีวิต “มวยคุก” แสงสว่างหลังลูกกรง (หาอ่านกันได้ที่เซคชันกีฬาเว็บไซต์ manager online)

แต่การที่จู่ๆจะตรงดิ่งเข้าไปได้เลยนั้นคงเป็นไปไม่ได้ ขั้นตอนแรกต้องต่อสายถึง กรมราชทัณฑ์หน่วยงานใหญ่ที่รับผิดชอบดูแลเรือนจำทั่วประเทศไทย เพื่อประสานกับเรือนจำที่จะเข้าไปสำรวจ ก่อนจะมุ่งเป้าไปที่ “เรือนจำพิเศษธนบุรี” ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นสถานที่รวบรวมนักโทษผู้มีฝีมือเชิงหมัดมวยมารวมตัวอยู่

เมื่อถึงวันนัด(รอ 3-4 วันหลังจากประสานจึงจะรู้ว่าสามารถเข้าไปได้วันไหน) ผมและทีมงานจึงรุดไปกันแต่เช้าตรู่ ซึ่งพี่ๆเจ้าหน้าที่ก็ยิ้มแย้ม ต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดี ขัดกับภาพที่มโนไว้ก่อนหน้านี้ว่าพี่ๆคงจะดุเพราะต้องรับมือกับนักโทษมากมายในแต่ละวัน หลังจากนั้นก่อนจะได้เข้าไปด้านใน ทุกคนจำต้องฝากของใช้ทุกอย่างไว้ที่ล็อกเกอร์ทั้ง กระเป๋าถือ กระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์มือถือ ฯลฯ เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเอง ซึ่งพวกเราได้รับอนุญาตให้นำ ปากกา กระดาษ กล้องภาพนิ่ง และเลนส์ เข้าไปเพื่อเก็บบรรยากาศเท่านั้น

หลังจากลิงโลดอยู่พักใหญ่เพราะพี่ๆเจ้าหน้าที่พยายามชวนคุยนู่นนี่นั่นสัพเพเหระจนผ่อนคลาย สุดท้ายก็ต้องตื่นจากภวังค์เมื่อประตูเหล็กด่านแรกตระหง่านอยู่ตรงหน้า ณ วินาทีนั้นยอมรับเลยว่าแอบใจหวิวมิใช่น้อย แต่เมื่อมาแล้วก็ต้องก้าวต่อไป เมื่อประตูเปิด เราจะพบทางเดินยาวไปจนสุดกำแพงฝั่งตรงข้าม ประดับด้วยสวนดอกไม้ตลอดริมสองฝั่ง ขณะที่ทิวทัศน์รอบข้างเป็นกำแพงสีขาวสูงมหึมา พร้อมป้ายกำกับแบ่งเป็นแดน 1-6

เราจึงมุ่งตรงไปที่เป้าหมายคือ แดน 4 เมื่อประตูเปิดออก พูดได้คำเดียวว่าใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มทันที เพราะภาพนักโทษหลายร้อยชีวิตที่นั่ง เดิน ยืน ทำกิจกรรมกันอยู่ภายในเนื้อที่ราว 1 ไร่นั้นไม่ใช่ภาพที่ชินตาแน่นอน หนำซ้ำแต่ละคนยังสลักลวดลายไว้ทั่วร่างกายและใบหน้า ที่สำคัญคือทุกคนพร้อมใจหันขวับจ้องมาทางเดียวกันและพุ่งกระแสจิตเป็นนัยถามว่า พวกเอ็งเป็นใคร! แต่ผ่านไปไม่นานสติก็กลับมาดังเดิม เพราะพี่ผู้คุมจะคอยอยู่เคียงข้างเราตลอดเวลา เพื่อเป็นการป้องกันและให้คำปรึกษาในเรื่องที่เราอยากรู้ไปในตัว

โดยภายใน แดน 4 แห่งนี้ ผู้ต้องขังจะถูกแบ่งเป็นกลุ่มๆเน้นเรื่องกีฬาเป็นหลัก บ้างฝึกชกมวย บ้างเตะฟุตซอล บ้างเล่นตะกร้อ และหลายคนที่นั่งทำงานฝีมือสานนู่นนี่ ในบรรยากาศสบายๆไม่ตึงเครียด เมื่อสอบถามได้ความว่าในทุกๆแดนจะเป็นลักษณะเดียวกันหมด แต่จะมีกิจกรรมต่างกันไป เช่น ฝึกช่างไม้ ช่างไฟ ฝึกศิลปะ หัตถกรรม ตลอดจนเปิดสอนหนังสือ ซึ่งมีผู้ต้องขังหลายคนที่ทำผลงานได้ดีและได้ออกไปโชว์ข้างนอก ขณะที่นักโทษส่วนใหญ่ของที่นี่จะเป็นจำพวกต้องโทษสถานเบา มีโทษตัดสินแล้วสุดไม่เกิน 6-7 ปี(โทษหนักกว่านี้จะส่งไปเรือนจำอื่น เช่น คลองเปรม หรือ บางขวาง) โดยร้อยละ 90 โดนคดีเกี่ยวกับยาเสพติด ส่วนนักโทษคดีอุกฉกรรจ์มีอยู่บ้างประปรายในแดน 2 ที่นี่จึงไม่มีนักโทษก่อเรื่องก่อราวร้ายแรงให้เห็น

เท่าที่สัมผัสและได้พูดคุยกับผู้ต้องขังบางส่วน พบข้อดีของการได้ฝึกกีฬาหรือฝึกวิชาชีพอื่นๆในเรือนจำก็คือ เมื่อเลือกแล้วก็ต้องทำให้สุด เพราะชิวิตแต่ละวันไม่มีสิ่งใดนอกเหนือจากนั้น ซึ่งหลายคนมีสายตามุ่งมั่น มองไปไกลถึงอนาคตหลังพ้นโทษ แต่ก็มีไม่น้อยที่ออกไปแล้วไม่เข็ดหลาบก่อคดีซ้ำจนถูกจับเข้ามาอีก แต่เหนือสิ่งอื่นใดตลอดเวลาที่ทำภารกิจจนได้ข้อมูลครบถ้วน มีบางสิ่งที่อธิบายเป็นคำพูดไม่ถูก ย้ำเตือนผมตลอดเวลาว่า แม้การทำข่าวในคุกครั้งนี้บรรยากาศจะดูสบายๆ แต่ถ้าเลือกได้ และไม่เกี่ยวกับหน้าที่การงาน ยังไงก็ไม่กลับเข้ามาอีกแน่นอน

* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *


กำลังโหลดความคิดเห็น