จิตวิญญาณรับใช้ชาติ กำจัดแข้งเลือดผสม?

เอเยนซี - ช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมีนาคมที่ผ่านมาเป็นโปรแกรม "ฟีฟา เดย์" ที่ฟุตบอลทีมชาติต้องลงโม่แข้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งศึก ยูโร 2016 รอบคัดเลือก รวมถึงแมตช์กระชับมิตร นอกจากนี้ยังมีระดับยู 22 ซึ่งถือเป็นบันไดก้าวแรกในการคว้าตั๋วไปลุย โอลิมปิก ที่ ริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล

ศึก ยูโร 2016 รอบคัดเลือก กลุ่ม เอช ที่ บัลแกเรีย เปิด วาซิล เลฟสกี เนชันแนล สเตเดียม ในเมืองโซเฟีย เสมอกับ อิตาลี 2-2 เมื่อวันเสาร์ที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ทางฝั่งอาคันตุกะได้ เอแดร์ กองหน้าจาก ซามพ์โดเรีย ลงมาเป็นตัวสำรอง สวมบทฮีโร่ซัดแบ่งแต้มก่อนหมดเวลา 6 นาที ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวอย่างสวยหรูในฐานะที่ติดธงครั้งแรก นอกจากนี้ที่ม้านั่งสำรองของทัพ "อัซซูรี" ยังมี ฟรังโก วาซเกวซ กองกลางจาก ปาแลร์โม อีกหนึ่งราย แต่ไม่ได้รับโอกาสวาดลวดลายในเกมนี้

ประเด็นคือ เอแดร์ เกิดที่บราซิล ส่วน วาซเกวซ เกิดที่อาร์เจนตินา ทั้งคู่มีพาสปอร์ตอิตาเลียนค้าแข้งเวที กัลโช เซเรีย อา ได้สบาย นอกจากนี้ยังรับใช้ทัพ อิตาลี ได้แบบไม่ผิดกฎ

วาซเกวซ มาจาก คอร์โดบา มีแม่เกิดใน อิตาลี ส่วน เอแดร์ เกิดที่แดนแซมบ้า แต่ย้อนไปรุ่นปู่-ย่าเคยมาตั้งรกรากอยู่ที่ อิตาลี ดังนั้นทั้งคู่จึงได้สัญชาติถูกต้อง แต่คำถามคือ "คู่ควรหรือไม่?" ซึ่งหนึ่งในผู้ที่ไม่เห็นด้วยคือ โรแบร์โต มันชินี อดีตกองหน้า "อัซซูรี" ปัจจุบันคุมทัพ อินเตอร์ มิลาน โดยกล่าวว่า "ผมคิดว่าการจะลงสนามเพื่อทีมชาติ คุณจำเป็นที่จะต้องเกิดที่นั่นเท่านั้น"

จึงถือเป็นเรื่องที่ต้องนำมาถกกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเคยเกิดกรณีเหมือนเมื่อปี 2014 ดิเอโก กอสตา เกิดที่ บราซิล แต่เล่นให้ สเปน นอกจากนี้ยังมี 3 แข้งทีมชาติสหรัฐอเมริกาอย่าง เจอร์เมน โจนส์, ฟาเบียน จอห์นสัน และ จอห์น บรู๊ก ล้วนลืมตาดูโลกบนแผ่นดินเยอรมนีทั้งสิ้น

กรณีของ กอสตา ค่อนข้างชัดเจนเกิดที่ บราซิล แถมสวมเสื้อทีมชาติชุดใหญ่ให้ "เซเลเซา" แล้วด้วย แต่ สหพันธ์ฟุตบอลสเปน ช่วยวิ่งเต้นทำเรื่องยื่นต่อ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟา) โดยอ้างว่าอดีตนักเตะ แอตเลติโก มาดริด ได้สัญชาติสเปนเรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางแซมบ้ามองว่าเมื่อคนไม่มีใจก็ไร้ความจำเป็นต้องรั้งไว้

นอกจากนี้ยังมี ติอาโก อัลคานทารา กองกลาง บาเยิร์น มิวนิค สามารถเล่นให้ อิตาลี เพราะ มาซินโญ พ่อที่มีดีกรีเป็นนักฟุตบอลบราซิลตอนนั้นค้าแข้งให้ เลชเช พอดี จากนั้นก็ย้ายออกมาทำให้ไปเติบโตที่ บาร์เซโลนา กับ ริโอ เดอ จาเนโร สุดท้ายก็เลือกรับใช้สเปน เนื่องจากเล่น บาร์ซา ก่อนหน้านี้ก็มี เมาโร คาโมราเนซี (อิตาลี / อาร์เจนตินา) เลือกเล่นให้ "อัซซูรี" เพราะลุยศึก กัลโช เซเรีย อา กับ ยูเวนตุส ปัจจุบันก็ อัดนัน ยานูไซจ์ (เบลเยียม / โคโซโว / อัลแบเนีย / อังกฤษ) ปีก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพิ่งเลือก "ปีศาจแดงแห่งยุโรป" ได้ไปลุยฟุตบอลโลก 2014 โดยเกิดที่ บรัสเซล

จึงเริ่มมีการพูดถึงเรื่องแก้ไขกฎระเบียบอย่างเช่นมีกำหนดชัดเจนว่าจะต้องอยู่ที่ประเทศนั้นนานกี่ปี รวมถึงขจัดเหตุผลส่วนตัวประมาณว่าถ้าเลือกเล่นให้ประเทศนี้โอกาสลงสนามน้อยกว่าจึงตัดสินเลือกอีกทางหนึ่งแทน เพราะหากเกิดขึ้นถึงแม้คุณเป็นนักฟุตบอลที่ฝีเท้าดีจริงก็จะเป็นการเบียดโควตาของแข้งท้องถิ่นปิดโอกาสไม่ให้แจ้งเกิดขึ้นมาประดับวงการ โดย สหรัฐอเมริกา ถือเป็นตัวอย่างที่แตกต่างอย่างชัดเจน เพราะแม้ว่าคุณเกิดในประเทศก็ไม่ได้รับสัญชาติโดยอัตโนมัติ

ฝรั่งเศส และ เยอรมนี จะประสบปัญหาอย่างแน่นอน เนื่องจากที่ผ่านมาพรมแดนติดกับประเทศอื่นจึงมีคนที่อพยพเข้ามาจำนวนมากไล่ตั้งแต่ระดับบรรพบุรุษ อาทิ นูริ ซาฮิน กับ ฮามิต อัลตินท็อป เลือกเล่นให้ ตุรกี แม้ว่าจะเกิดในเมืองเบียร์ ส่วน "ตราไก่" 4 ปีก่อนสมาคมลูกหนังได้คุยกันเรื่องกำหนดโควตาของนักเตะที่มีเชื่อแอฟริกันไล่ตั้งแต่ระดับอคาเดมี เนื่องจากพวกนี้ต้องรับค่าใช้จ่ายจากรัฐบาล เพราะไม่เช่นนั้นเมื่ออบรมแล้วไปเล่นให้ชาติอื่นก็ถือว่าเสียหายเช่น มุสซา โซว์ (เซเนกัล) เฟรเดอริก กานูเต (มาลี) เมห์ดี เบนาเตีย (โมร็อกโก) หรือ ฮาสซัน เย็บดา (แอลจีเรีย)

แน่นอนคุณไม่สามารถคาดหวังได้เลยว่านักเตะเยาวชนเหล่านี้จะตัดสินใจอนาคตอย่างไร เนื่องจากมีปัจจัยอื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้องมากมายไม่ว่าจะเป็นเชิงพาณิชย์รวมถึงชีวิตครอบครัวคู่ครอง เหล่านี้ไม่ได้ออกมาจาก "ความรู้สึก" ที่อยากเล่นเพื่อชาติที่ภาคภูมิใจมีธงหรือโลโก้แปะที่หน้าอก

ไม่ใช่ลักษณะเหมือนการ "ตรวจคนเข้าเมือง" คุณอยากเข้าประเทศนั้นๆ ก็ไปกางกฎระเบียบดูแล้วทำให้ถูกต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนเตรียมเอกสารยืนยันพร้อมก็เป็นอันจบ หากเป็นเช่นนั้นเรื่องของจิตวิญญาณก็จะหายไปสิ่งที่แสดงออกก็ไม่ได้สะท้อนความเป็นตัวตนของชาติที่อยู่ในสายเลือดออกมาได้เลย

* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *