คอลัมน์ “TIMEOUT” โดย “ชมณัฐ”
ผ่านไป 3 นัดแล้ว “เจ้ามุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา ศูนย์หน้าตัวเก่งของ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ยังเบิกสกอร์แรกของตัวเองในฤดูกาล 2015 ไม่ได้เลย หนำซ้ำโอกาสในการสับไกลุ้นประตูยังแทบจะน้อยนิดนับครั้งได้
ขณะที่ยังปั่นต้นฉบับอยู่นี้ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เจ้าของแชมป์ลีกสูงสุด 3 สมัย ลงเล่นในศึกโตโยต้า ไทย พรีเมียร์ ลีก 2015 ไปแล้ว 3 นัด โดยบุกชนะ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี 1-0 ต่อด้วยเปิดบานเสมอแชมป์เก่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 1-1 และบุกเจ๊า บางกอกกล๊าส เอฟซี 0-0 การเก็บได้ 5 แต้ม จาก 3 นัด ถือว่าไม่น่าเกลียด แต่ทั้งนี้สิ่งที่แฟนคลับหลายคนคาดหวังคือการโชว์ฟอร์มอันสุดยอดของ ธีรศิลป์ แดงดา ที่ไปสั่งสมประสบการณ์ใน ลา ลีกา สเปน ลีกเบอร์ 1 ของโลก กลับยังไม่มีออกมาให้เห็น
ธีรศิลป์ กลับจากการไปค้าแข้งกับ อัลเมเรีย ด้วยความคาดหวังจากสโมสรและแฟนบอลสูงมาก ในฐานะนักเตะไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ไปวาดลวดลายในลีกสูงสุดกระทิงดุ แต่ 3 นัดที่ผ่านมา “เจ้ามุ้ย” ยังไม่สามารถยิงประตูได้เลย ที่สำคัญโอกาสในการง้างเท้ายิงนั้นก็แทบจะไม่มีให้เห็น เกมแรกเยือน “สวาดแคท” แม้จะมีโอกาสได้ลองส่องหลายครั้ง แต่ดูเหมือนยังไม่ค่อยเข้าที่จึงหลุดกรอบเสียเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่สองเกมถัดมาที่เจอกับทีมระดับหัวตารางด้วยกันนั้น “เจ้ามุ้ย” แทบจะหายไปจากเกมเลยทีเดียว
ซึ่งการที่ กองหน้าวัย 26 ปี ยังเท้าบอดอยู่ในตอนนี้ ส่วนสำคัญมาจากแผนการเล่นของต้นสังกัดภายใต้การคุมบังเหียนของ ดราแกน ทาลายิช เพราะก่อนหน้านี้ที่ “เจ้ามุ้ย” ที่เคยระเบิดฟอร์มจนคว้าตำแหน่งดาวซัลโว 24 ประตูเมื่อฤดูกาล 2012 ต่อด้วย 15 ประตู ในฤดูกาล 2013 นั้น “กิเลนผยอง” ลงเล่นในระบบ 4-5-1 มีเจ้าตัวเป็นหัวหอกตัวเป้า ขนาบข้างด้วยปีกตัวจี๊ดอย่าง จักรพันธ์ พรใส เอกภูมิ โพธารุ่งโรจน์ อัตนัน บาราคัท หรือ มิลาน บูบาโล โดยมี มาริโอ ยูรอฟสกี กับ ดัสกร ทองเหลา เป็นหัวใจกลางสนาม
แต่ปัจจุบันการมาของ เคลย์ตัน ซิลวา ดาวยิงบราซิเลียน ทำให้ กุนซือชาวโครแอต ต้องรักพี่เสียดายน้อง ติดตั้งระบบ 4-4-2 ให้กับทีม และเลือกที่จะตัดผู้เล่นริมเส้นออกแล้วอัดแน่นด้วยมิดฟิลด์อย่าง มาริโอ ดัสกร ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ และ สารัช อยู่เย็น บอลส่วนใหญ่จึงถูกลำเลียงขึ้นจากกลางสนามเป็นหลัก หากออกข้างก็จะเป็น มุ้ย หรือ เคลย์ตัน ที่ถ่างออกมารับบอลไปเล่นเอง และด้วยสภาพอายุที่มากขึ้นของ “เจ้าโก้” และอาการบาดเจ็บของ ยูรอฟสกี จึงส่งให้ประสิทธิภาพลดลงไปอย่างเห็นได้ชัด บ่อยครั้งบอลไปไม่ถึงคู่ศูนย์หน้าเพราะถูกคู่แข่งบีบจนแน่น
ซึ่งในเรื่องนี้ผมได้มีโอกาสสนทนากับ พันจ่าอากาศประสิทธิ์ แดงดา บิดาของศูนย์หน้าทีมชาติไทยรายนี้ ก็เห็นพ้องไม่ต่างกัน โดย “จ่าสิทธิ์” ชี้ชัดว่าเป็นเพราะทีมไม่มีผู้เล่นตำแหน่งปีก ล่าสุดเพิ่งปล่อยตัว ศราวุฒิ มาสุข ออกไปอีก และตัวสำรองข้างสนามก็ไม่ใช่ ทำให้บอลส่วนใหญ่มาไม่ถึงลูกชายตัวเอง เพราะมุ้ยเป็นผู้เล่นที่เล่นลูกกลางอากาศได้ดี สามารถเบียดแย่งบอลกับกองหลังต่างชาติได้สบาย แต่เมื่อทีมไม่มีผู้เล่นริมเส้นการเจอกับทีมใหญ่ที่เน้นแพ็คกองกลางมาแน่นหนาการจะเจาะเข้าไปก็ยาก และหลายครั้งที่ต้องลงมาล้วงบอลจากแดนกลางไปเล่นเอง
อย่างไรก็ตามยังเป็นเพียงช่วงต้นซีซัน ยังมีเวลาอีกมากที่ ทาลายิช จะผสมกลมกล่อมให้เกมรุกและคู่หู ธีรศิลป์-เคลย์ตัน ประสานงานกันได้ลงตัวตามที่ใจต้องการ แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นงานง่ายเพราะอย่างลืมว่าเมื่อครั้งที่ทั้งสองคนยิงประตูถล่มทลายนั้น ทั้งคู่เล่นสไตล์ศูนย์หน้าตัวเป้ามาด้วยกันทั้งนั้น การจับมาจูนกันคงไม่ง่ายแน่นอน
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
ผ่านไป 3 นัดแล้ว “เจ้ามุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา ศูนย์หน้าตัวเก่งของ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ยังเบิกสกอร์แรกของตัวเองในฤดูกาล 2015 ไม่ได้เลย หนำซ้ำโอกาสในการสับไกลุ้นประตูยังแทบจะน้อยนิดนับครั้งได้
ขณะที่ยังปั่นต้นฉบับอยู่นี้ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เจ้าของแชมป์ลีกสูงสุด 3 สมัย ลงเล่นในศึกโตโยต้า ไทย พรีเมียร์ ลีก 2015 ไปแล้ว 3 นัด โดยบุกชนะ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี 1-0 ต่อด้วยเปิดบานเสมอแชมป์เก่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 1-1 และบุกเจ๊า บางกอกกล๊าส เอฟซี 0-0 การเก็บได้ 5 แต้ม จาก 3 นัด ถือว่าไม่น่าเกลียด แต่ทั้งนี้สิ่งที่แฟนคลับหลายคนคาดหวังคือการโชว์ฟอร์มอันสุดยอดของ ธีรศิลป์ แดงดา ที่ไปสั่งสมประสบการณ์ใน ลา ลีกา สเปน ลีกเบอร์ 1 ของโลก กลับยังไม่มีออกมาให้เห็น
ธีรศิลป์ กลับจากการไปค้าแข้งกับ อัลเมเรีย ด้วยความคาดหวังจากสโมสรและแฟนบอลสูงมาก ในฐานะนักเตะไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ไปวาดลวดลายในลีกสูงสุดกระทิงดุ แต่ 3 นัดที่ผ่านมา “เจ้ามุ้ย” ยังไม่สามารถยิงประตูได้เลย ที่สำคัญโอกาสในการง้างเท้ายิงนั้นก็แทบจะไม่มีให้เห็น เกมแรกเยือน “สวาดแคท” แม้จะมีโอกาสได้ลองส่องหลายครั้ง แต่ดูเหมือนยังไม่ค่อยเข้าที่จึงหลุดกรอบเสียเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่สองเกมถัดมาที่เจอกับทีมระดับหัวตารางด้วยกันนั้น “เจ้ามุ้ย” แทบจะหายไปจากเกมเลยทีเดียว
ซึ่งการที่ กองหน้าวัย 26 ปี ยังเท้าบอดอยู่ในตอนนี้ ส่วนสำคัญมาจากแผนการเล่นของต้นสังกัดภายใต้การคุมบังเหียนของ ดราแกน ทาลายิช เพราะก่อนหน้านี้ที่ “เจ้ามุ้ย” ที่เคยระเบิดฟอร์มจนคว้าตำแหน่งดาวซัลโว 24 ประตูเมื่อฤดูกาล 2012 ต่อด้วย 15 ประตู ในฤดูกาล 2013 นั้น “กิเลนผยอง” ลงเล่นในระบบ 4-5-1 มีเจ้าตัวเป็นหัวหอกตัวเป้า ขนาบข้างด้วยปีกตัวจี๊ดอย่าง จักรพันธ์ พรใส เอกภูมิ โพธารุ่งโรจน์ อัตนัน บาราคัท หรือ มิลาน บูบาโล โดยมี มาริโอ ยูรอฟสกี กับ ดัสกร ทองเหลา เป็นหัวใจกลางสนาม
แต่ปัจจุบันการมาของ เคลย์ตัน ซิลวา ดาวยิงบราซิเลียน ทำให้ กุนซือชาวโครแอต ต้องรักพี่เสียดายน้อง ติดตั้งระบบ 4-4-2 ให้กับทีม และเลือกที่จะตัดผู้เล่นริมเส้นออกแล้วอัดแน่นด้วยมิดฟิลด์อย่าง มาริโอ ดัสกร ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ และ สารัช อยู่เย็น บอลส่วนใหญ่จึงถูกลำเลียงขึ้นจากกลางสนามเป็นหลัก หากออกข้างก็จะเป็น มุ้ย หรือ เคลย์ตัน ที่ถ่างออกมารับบอลไปเล่นเอง และด้วยสภาพอายุที่มากขึ้นของ “เจ้าโก้” และอาการบาดเจ็บของ ยูรอฟสกี จึงส่งให้ประสิทธิภาพลดลงไปอย่างเห็นได้ชัด บ่อยครั้งบอลไปไม่ถึงคู่ศูนย์หน้าเพราะถูกคู่แข่งบีบจนแน่น
ซึ่งในเรื่องนี้ผมได้มีโอกาสสนทนากับ พันจ่าอากาศประสิทธิ์ แดงดา บิดาของศูนย์หน้าทีมชาติไทยรายนี้ ก็เห็นพ้องไม่ต่างกัน โดย “จ่าสิทธิ์” ชี้ชัดว่าเป็นเพราะทีมไม่มีผู้เล่นตำแหน่งปีก ล่าสุดเพิ่งปล่อยตัว ศราวุฒิ มาสุข ออกไปอีก และตัวสำรองข้างสนามก็ไม่ใช่ ทำให้บอลส่วนใหญ่มาไม่ถึงลูกชายตัวเอง เพราะมุ้ยเป็นผู้เล่นที่เล่นลูกกลางอากาศได้ดี สามารถเบียดแย่งบอลกับกองหลังต่างชาติได้สบาย แต่เมื่อทีมไม่มีผู้เล่นริมเส้นการเจอกับทีมใหญ่ที่เน้นแพ็คกองกลางมาแน่นหนาการจะเจาะเข้าไปก็ยาก และหลายครั้งที่ต้องลงมาล้วงบอลจากแดนกลางไปเล่นเอง
อย่างไรก็ตามยังเป็นเพียงช่วงต้นซีซัน ยังมีเวลาอีกมากที่ ทาลายิช จะผสมกลมกล่อมให้เกมรุกและคู่หู ธีรศิลป์-เคลย์ตัน ประสานงานกันได้ลงตัวตามที่ใจต้องการ แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นงานง่ายเพราะอย่างลืมว่าเมื่อครั้งที่ทั้งสองคนยิงประตูถล่มทลายนั้น ทั้งคู่เล่นสไตล์ศูนย์หน้าตัวเป้ามาด้วยกันทั้งนั้น การจับมาจูนกันคงไม่ง่ายแน่นอน
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *