พิชัย ชุณหวชิร ยังได้รับความไว้วางใจจากสโมสรสมาชิก ให้นั่งตำแหน่งนายกสมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทยต่อเป็นสมัยที่ 2 มั่นใจกำปั้นไทยผงาดคว้า 6 ทอง จากส่งแข่งทั้งหมด 10 ประเภท
เมื่อเวลา 10.00 น.วันอาทิตย์ที่ 22 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2558 ณ โรงแรมอเล็กซานเดอร์ เกี่ยวกับผลงานในรอบปีที่ผ่านมา ซึ่งทัพนักกีฬาได้สร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เพราะการส่งเสริมและพัฒนาที่ต่อเนื่องของสมาคมมวยสากลสมัครเล่นฯ และวาระสำคัญคือการเลือกตั้งนายกกำปั้นไทย เพื่อขึ้นมาทำหน้าที่แทน นายพิชัย ชุณหวชิร และคณะกรรมการบริหารที่หมดวาระการบริหารงานครบ 2 ปี โดยผลการเลือกตั้งจากสโมสรสมาชิกได้ลงคะแนน 59 เสียงเป็นเอกฉันท์เลือก “บิ๊กบางจาก” เข้าดำรงตำแหน่งนายกสมาคมมวยสากลสมัครเล่นฯ สมัยที่ 2 ติดต่อกัน
โดย นายพิชัย ชุณหวชิร เปิดเผยว่า “ขอบคุณทุกฝ่ายที่ไว้วางใจให้ผมเข้ามาทำงานตรงนี้ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผมดำเนินงานมา ได้รับความร่วมมือกับทุกฝ่ายจนทำให้มวยสากลฯ กลายเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยม และทำให้มีนักกีฬาระดับเยาวชนเพิ่มขึ้น และหลังจากนี้อีก 2 ปีจะพัฒนาให้สมาคมกีฬาก้าวไปสร้างชื่อในเวทีระดับโลก อย่างการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2016 ที่ประเทศบราซิล”
"ขณะที่ความพร้อมในการแข่งขันมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 28 ที่ประเทศสิงคโปร์ มีการแข่งขันทั้งสิ้น 11 รุ่น แบ่งเป็น ชาย 7 รุ่น และหญิง 4 รุ่น ซึ่งเจ้าภาพกำหนดให้แต่ละชาติส่งเข้าแข่งขันได้เพียง ชาย 6 รุ่น หญิง 4 รุ่น ซึ่งเราส่งไปครบ 10 คน โดยเลี่ยงรุ่น 49 กก. ซึ่งเป็นรุ่นของ "แก้ว พงษ์ประยูร" ที่เรายังหาคนมาแทนไม่ได้ แต่เชื่อมั่นว่ากำปั้นไทยจะคว้าเหรียญได้ไม่ต่ำกว่า 6 เหรียญทอง"
"ขณะที่เป้าหมายใหญ่คือการแข่งขันโอลิมปิก ที่ในปี 2016 เราตั้งเป้าว่านักกีฬาจะคว้าได้ไม่ต่ำกว่า 2 โควต้า เพราะในปีนี้มีการแบ่งสรรคโควต้าเอเชียไปยังหลายประเทศมากขึ้น ทำให้โอกาสน้อยลงไปด้วย แต่เราเตรียมหาโค้ชต่างชาติจาก คิวบา, รัสเซีย หรือ คาซัคฯ เข้ามาช่วยฝึกนักกีฬา เพราะถือเป็นชาติที่เข้าใจนักชกไทย และน่าจะพัฒนาได้ตรงจุด ทั้งนี้ได้เตรียมดึงนักมวยไทยที่มีแววเข้าสมาคมฯ และสร้างยุวชน เยาวชน เพื่อให้พร้อมใช้งานในศึกโอลิมปิก 2020 ที่ตั้งเป้าไว้ว่านักกีฬาไทยจะต้องคว้าได้ไม่ต่ำกว่า 4 โควต้า" ประมุขกำปั้นไทย กล่าว