"ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง รับพ่าย อุซเบกิสถาน 2-5 ถือเป็นสกอร์ที่ห่างที่สุดตั้งแต่ 2 ปีที่ผ่านมา หวั่นกระทบจิตใจลูกทีม พร้อมชมคู่แข่งจบสกอร์ได้คม เตรียมกลับไปปรับปรุงเกมรับ ก่อนชี้ชะตานัดสุดท้ายกับ เกาหลีใต้
ทัพ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย โดน อุซเบกิสถาน ถล่มยับ 5-2 โดยได้ ปกเกล้า อนันต์ เบิ้ลกู้หน้า ในศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 43 เมื่อค่ำวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ส่งให้ตกไปอยู่ อันดับ 3 มี 3 แต้ม ผลต่างประตูได้-เสีย ลบ 1 โดยผู้นำเป็น เกาหลีใต้ มี 6 แต้ม(บวก 3) ตามด้วย อุซเบกิสถาน มี 3 แต้ม(บวก 2) และ ฮอนดูรัส รั้งท้าย มี 0 แต้ม(ลบ 4)
หลังจบเกม "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือช้างศึก กล่าวว่า "ก่อนอื่นต้องขอชื่นชมอุซเบฯที่เล่นเกมรับแล้วโต้กลับเร็วได้ดี รูปเกมจริงๆไม่หนีกันมาก แต่เมื่อเราโดนนำจึงสั่งให้ลูกทีมเพรสซิงแดนบนสูงขึ้น ดังนั้นจึงมีโอกาสที่จะเสียประตู และเขาก็บังเอิญจบได้คมกว่า โดยจากนี้ก็ต้องกลับไปดูว่าเกมรับที่โดนไปถึง 5 ลูกนั้นผิดพลาดตรงไหน และสิ่งที่สำคัญคือจิตใจของน้องๆ ผมเป็นห่วงมากเพราะที่ผ่านมาตลอด 2 ปีมีแต่กระแสคำชมมาตลอด ไม่เคยแพ้ด้วยสกอร์ขนาดนี้ ดังนั้นผมจึงต้องคอยปรอบและประคับประคองให้ผ่านไปให้ได้"
พร้อมกันนี้ กุนซือแชมป์อาเซียน กล่าวต่อถึงเกมสุดท้ายที่ต้องเอาชนะ เกาหลีใต้ ให้ได้สถานเดียวว่า "เกาหลีใต้เป็นทีมที่แข็งแกร่ง เป็นทีมที่ผ่านเอเชียนเกมส์มาด้วยกัน ดังนั้นการเจอกันก็น่าจะเป็นการวัดได้ดี ขั้นต้นเราต้องชนะให้ได้ก่อน แม้ไม่ใช่งานง่าย แต่ถ้ามีประตูแรกเร็วก็อาจจะมีลูกอื่นๆตามมา"
ขณะที่ มักซูดอฟ ชูคีรัท เฮดโค้ชอุซเบกิสถาน กล่าวว่า "ดีใจที่เก็บชัยชนะได้ในเกมนี้ ซึ่งทีมไทยเล่นอย่างเต็มที่แล้ว โดยเกมสุดท้ายเราก็หวังที่จะชนะ ส่วนเกมระหว่างไทยกับเกาหลีใต้มองว่าทั้งคู่เป็นทีมที่มีความสามารถสูสีกัน ยังไม่อยากพูดถึงในตอนนี้"
โดยเกมต่อไปนัดสุดท้าย "ช้างศึก" จะพบกับ เกาหลีใต้ วันที่ 7 กุมภาพันธ์ นี้ เวลา 19.00 น. ซึ่งต้องชนะสถานเดียว พร้อมลุ้นผลคู่ระหว่าง อุซเบกิสถาน พบ ฮอนดูรัส ที่แข่งวันเดียวกัน เวลา 16.00 น. ซึ่งหากแต้มเท่ากันจะนับผลต่างประตูได้-เสีย ซึ่งหากยังเท่ากันอีกจะครองแชมป์ร่วมทันที
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
