“หงส์” ได้สองโทษพลาดเจ๊า “จิ้งจอก” 2-2 , ปืนพ่าย

สตีเวน เจอร์ราร์ด ยิงสองจุดโทษให้ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ขึ้นนำไปก่อนแต่สุดท้ายเจอ ทีเด็ดของ เลสเตอร์ ซิตี ไล่ตีเสมอมาเป็น 2-2 แบ่งกันไปคนละหนึ่งแต้ม ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันที่ 1 มกราคม 2558

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

ลิเวอร์พูล 2 - 2 เลสเตอร์ ซิตี

ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่ที่น่าสนใจ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เปิดสนาม แอนฟิลด์ รับการมาเยือนของ “จิ้งจอกสีน้ำเงิน” เลสเตอร์ ซิตี เกมนี้ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือเจ้าบ้าน ใช้งาน ราฮีม สเตอร์ลิง ลงมาเป็นกองหน้าตัวเป้า

เพียงนาทีแรกเท่านั้น ริยาด มาห์เรซ ปั่นฟรีคิกเอาแฟนหงส์เสียวทั้งสนาม เมื่อปั่นบอลไปชนเสาแล้วบอลเด้งออกมา เลสเตอร์ บุกมาเป็นชุด นาทีที่ 12 เจฟฟรีย์ ชลุปป์ หลุดมาด้านซ้ายให้ มาห์เรซ ยิงจ่อๆ ออกหลังไป

นาทีที่ 15 สเตอร์ลิง วิ่งเข้าไปในชุดโทษพร้อมตวัดบอลเข้ากลางไปโดนหน้า เวส มอร์แกน ชัดเจน แต่ผู้ตัดสินกลับเป่าเป็นจุดโทษให้กับ ลิเวอร์พูล เฉย และ สตีเวน เจอร์ราร์ด รับหน้าที่สังหารไม่พลาด “หงส์แดง” นำ 1-0

นาทีที่ 30 อดัม ลัลลานา ได้บอลจาก โมเรนโน บริเวณ หัวกะโหลก หลอกหนึ่งจังหวะก่อนซัดด้วยขวา ปั่นบอลโค้งออกหลังไปแบบได้ลุ้น ถัดมา 9 นาที คูตินโญ เปิดบอลไปติดมือของ

ซิมป์สัน ไมค์ โจนส์ เป่าเป็นจุดโทษครั้งที่ 2 และ “สตีวีจี” ก็ยิงเข้าไปอีกครั้งพาทีมนำห่าง 2-0 ลูกจุดโทษลูกนี้ทำให้ ทีมจากแอนฟิลด์ ได้จุดโทษครบ 100 ลูกในเกมลีก เยอะสุดในประวัติศาสตร์

ช่วงทดเวลาเจ็บครึ่งแรก นาทีที่ 45+1 สตีเวน เจอร์ราร์ด เปิดลูกเตะมุมจากด้านขวา บอลย้อนไปที่เสาสองเข้าเท้าของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน วอลเลย์สวนมาทางหน้าประตูเต็มตีน แต่บอลหลุดกรอบออกหลังไปอีกหมดครึ่งแรก ลิเวอร์พูล นำ 2-0

สู้กันใหม่ครึ่งหลัง ผ่านมานาทีที่ 53 ลิเวอร์พูล ต้องเปลี่ยน อดัม ลัลลานา ออกเนื่องจากปัญหาอาการบาดเจ็บ และต้องให้ ฟาบิโอ บอรินี ลงมาเล่นแทน นาทีที่ 58 วาร์ดี พักอกให้ เดวิด นูเจนท์ ตัวสำรองกระโดกังฟูคิกยิงเข้าประตูไป เลสเตอร์ ไล่มา 1-2

ถัดมาอีกเพียงนาทีเดียว ริยาด มาห์เรซ แต้งบอลเข้ากลาง ก่อนไหลให้ เจฟฟรีย์ ชลุปป์ วางเท้าสับไกยิงเข้าไปอย่างสวยงาม เลสเตอร์ ไล่มา 2-2 นาทีที่ 66 “จิ้งจอกสยาม” ส่งไม้ตายเอา เอสเตบัน คัมบิอัสโซ ลงมากะจะสังหาร ลิเวอร์พูล ให้จงได้

ลิเวอร์พูล เกือบได้ประตูขึ้นนำ นาทีที่ 76 เฮนเดอร์สัน วิ่งขึ้นมาทางขวา เปิดบอลให้ บอรินี แต่ยิงไปติดบล็อกของ ลาซาร์ มาร์โควิช เพื่อนร่วมทีมที่เพิ่งลงมาเป็นตัวสำรอง ช่วงท้ายเกมทั้งสองฝ่ายไม่สามารถทำประตูกันเพิ่มได้ สุดท้ายเสมอกันไป 2-2 “หงส์แดง” เก็บได้เพียง 1 แต้มเท่านั้น

สำหรับผลอีกสองคู่ที่น่าสนใจ อาร์เซนอล บุกไปแพ้ เซาธ์แฮมตัน 2-0 โดยเจ้าบ้านได้ประตูจาก ซาดิโอ มาเน และ ดูซาน ทาดิช ส่วน แมนเชสเตอร์ ซิตี เฉือนชนะ ซันเดอร์แลนด์ สุดมันส์ 3-2

รายชื่อผู้เล่น 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล : ซิมง มินโญเลต์ (ผู้รักษาประตู) , โคโล ตูเร , มามาดู ซาโก , เอ็มเร คาน , สตีเวน เจอร์ราร์ด , จอร์แดน เฮนเดอร์สัน , อัลเบอร์โต โมเรโน , ลูคัส เลวา , ฟิลิปเป คูตินโญ , อดัม ลัลลานา , ราฮีม สเตอร์ลิง

เลสเตอร์ ซิตี : เบน ฮาเมอร์ (ผู้รักษาประตู) , เวส มอร์แกน , เจฟฟรีย์ ชลุปป์ , แดนนี ซิมป์สัน , มาร์ซิน วาซิลิวสกี , ริตชี เด ลาเอต , ดาเนียล ดริงค์วอเตอร์ , ดีน ฮัมมอนด์ , แมทธิว เจมส์ , ริยาด มาห์เรซ , เจมี วาร์ดี

ผลฟุตบอล พรีเมียร์ลีก วันที่ 1 มกราคม 2558

สโต๊ก ซิตี 1-1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

[1-0 ไรอัน ชอว์ครอสส์ น.2 , 1-1 ราดาเมล ฟัลเกา น.26]

แอสตัน วิลลา 0 - 0 คริสตัล พาเลซ

ฮัลล์ ซิตี 2 - 0 เอฟเวอร์ตัน

[1-0 โมฮาเมดี น.33 , 2-0 นิคิกา เยลาวิช น.43 ]

แมนเชสเตอร์ ซิตี 3 - 2 ซันเดอร์แลนด์

[1-0 ยายา ตูเร น.57 , 2-0 สเตฟาน โยเวติช น.66 , 2-1 แจ็ค รอดเวลล์ น.68, 2-2 อดัม จอห์นสัน น.71 , 3-2 แฟรงค์ แลมพาร์ด น.73 ]

นิวคาสเซิล 3-3 เบิร์นลีย์

[1-0 สตีเวน เทย์เลอร์ น.15 , 1-1 พอล ดัมเนตต์ น.19 (เข้าประตูตัวเอง) , 2-1 แจ็ค โคลแบ็ค น.26 , 2-2 แดนนี อิงส์ น.66 , 3-2 มุสซา ซิสโซโก น.78 , 3-3 จอร์จ บอยด์ น.86 ]

ควีนสปาร์ก เรนเจอร์ส 1-1 สวอนซี ซิตี

[1-0 เลรอย เฟอร์ น.20 , 1-1 วิลเฟรด โบนี น.90]

เซาธ์แฮมตัน 2-0 อาร์เซนอล

[1-0 ซาดิโอ มาเน น.34 , 2-0 ดูซาน ทาดิช น.56]

เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-1 เวสต์บรอมวิช อัลเบียน

[1-0 ดิอาฟรา ซาโก น.11 , 1-1 ไซโด เบราฮิโน น.42]
สเตอร์ลิง แย่งโหม่ง