ทัพนักเตะทีมชาติไทย โชว์ฟอร์มสมราคา เปิดบ้านอัด ฟิลิปปินส์ ที่เหลือ 10 คนท้ายเกม 3-0 จากการเบิกร่องของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ที่เบิ้ลสองตุง กรุยทางเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014 รอพบผู้ชนะระหว่าง เวียดนาม กับ มาเลเซีย
เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014
ไทย 3-0 ฟิลิปปินส์
ศึกฟุตบอล เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014 รอบรองชนะเลิศ นัดสอง เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ที่ผ่านมา เวลา 19.00 น. ทีมชาติไทย แชมป์ 3 สมัย เปิดราชมังคลากีฬาสถาน รับมือ ทีมชาติฟิลิปปินส์ ท่ามกลางแฟนบอลที่แห่เข้ามาชมเต็มความจุเกือบ 49,000 คน โดยนัดแรกที่ถิ่นตากาล็อกทั้งคู่เสมอกันมา 0-0
เกมนี้ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือไทย ชวดใช้งาน 2 หอกตัวหลักอย่าง กีรติ เขียวสมบัติ ที่เจ็บกล้ามเนื้อต้นขาฉีก กับ อดิศักดิ์ ไกรษร ที่ติดโทษแบน โดยส่ง “เมสซีเจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ ลงเป็นศูนย์หน้าแทนในระบบ 4-3-3 ขนาบข้างด้วย เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ และ มงคล ทศไกร ด้าน โธมัส ดูลีย์ เฮดโค้ชชาวอเมริกันของฟิลิปปินส์ มี ฟิลิป ยังฮัสแบนด์ ที่ทำไป 2 ประตู 3 แอสซิสต์ เป็นทีเด็ด
นกหวีดดัง “ช้างศึก” เดินเครื่องกระหน่ำไม่ยั้งจนมาได้ประตูออกนำตั้งแต่ น.6 เมื่อ ชนาธิป เก็บตกบอลได้บริเวณจุดโทษก่อนแต่งเข้าขวาแล้วกดเลียดเสียบเสา 1-0 จากนั้น “เมสซีเจ” ยังแผลงฤทธิ์ต่อเนื่องแทงทะลุช่องให้ มงคล หลุดเข้าไปยิงแต่ติดตัวผู้รักษาประตู แม้จะได้ประตูที่ต้องการแต่เจ้าถิ่นยังไม่เพลาเครื่องแทบจะพับสนามบุกฝ่ายเดียว
ถัดมา น.37 พีระพัฒน์ เติมขึ้นมาส่องไกลนอกกรอบแต่บอลเหินข้ามคาน ก่อนที่ น.43 ไทย จะพลาดบวกประตูที่สองอย่างเหลือเชื่อเมื่อ สารัช วางบอลยาวจากแดนตัวเองให้ ประกิต หลุดกับดักล้ำหน้าไปดวลกับผู้รักษาประตู แต่แข้งจาก ทีโอที เอสซี ตัดสินใจผ่านบอลไปเสาสองแต่ ชัปปุยส์ เติมขึ้นมาชาร์จไม่ทัน หมดครึ่งแรกนำอยู่ 1-0
ครึ่งหลัง “ดิ อัซกาลส์” ได้ลุ้นไวจากการยิงเสาแรกของ ยังฮัสแบนด์ แต่ กวินทร์ ยังไม่พลาด ก่อนที่ “เจ้าตอง” จะโชว์บินปัดลูกยิงของ สตูเบิล ด้วยปลายมือในไม่กี่นาทีถัดมา ขณะที่ ไทย ได้โต้จากการยิงนอกกรอบของ ชนาธิป แต่ไม่ผ่านเซฟ และแล้ว น.57 ความพยายามของ “ช้างศึก” ก็สำเร็จอีกครั้ง ประกิต โยนบอลยาวข้ามแผงหลังให้ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ หลุดเข้าไปใช้ความแกร่งเบียดชนะกองหลังแล้วซัดผ่านมือผู้รักษาประตู 2-0
เกมดำเนินถึงช่วง 15 นาทีสุดท้าย “ซิโก้” ส่ง ศราวุฒิ มาสุข เลื้อยริมเส้นแทน มงคล ก่อนที่ น.81 ฟิลิปปินส์ ต้องมาเหลือ 10 คน เมื่อ มาร์ติน สตูเบิล โดนใบเหลืองที่สองจากการเข้าหนักใส่ ประกิต จนต้องถูกเปลี่ยนเอา อดุล หละโสะ ลงแทน และเจ้าถิ่นก็ฉวยโอกาสจากความได้เปรียบนี้ใน น.81 สารัช จ่ายทะลุช่องให้ “เจ้าก้อง” เกริกฤทธิ์ ทะลุขึ้นฝั่งซ้ายโยกหลบกองหลังแล้วกดด้วยขวาปิดกล่อง 3-0
จบเกม ทีมชาติไทย ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ด้วยสกอร์รวมสองนัด 3-0 ไปรอพบผู้ชนะระหว่าง เวียดนาม กับ มาเลเซีย (แข่งวันที่ 11 ธันวาคม นัดแรกเวียดนามบุกชนะ 2-1) โดยในนัดชิงฯ “ช้างศึก” จะได้เล่นในบ้านก่อนวันที่ 17 ธันวาคม ก่อนเป็นทีมเยือนในนัดตัดสินแชมป์วันที่ 20 ธันวาคม
รายชื่อ 11 คนแรก
ไทย : กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ (ผู้รักษาประตู/กัปตันทีม), พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา, สุทธินันท์ พุกหอม, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, สารัช อยู่เย็น, ชาริล ชัปปุยส์, ประกิต ดีพร้อม, เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์, มงคล ทศไกร, ชนาธิป สรงกระสินธ์
ฟิลิปปินส์ : พาทริค เดย์โต (ผู้รักษาประตู), โรเบิร์ต เกียร์ (กัปตันทีม), มานูเอล ออตต์, ซิโมเน โรตา, พอล เมิลเดอร์, มาติน สตูเบิล, เจอร์รี ลูเซนา, อมานี อกุยนัลโด, ไดซูเกะ คาโตะ, มิซัจห์ บาฮาโดรัน, ฟิลิป ยังฮัสแบนด์
