สิงห์ ท่าเรือ เร่งยุติปัญหากรณีค้าค่าจ้างนักเตะ 4.2 ล้านบาท โดยดึงคณะบริหารการท่าเรือฯ เข้ารับฟังปัญหาเพื่อหาทางออก ก่อนที่ฟีฟาจะแจ้งบทลงโทษมายังสมาคมฟุตบอลภายใน 10 - 15 วันนี้ ซึ่งยังไร้ความชัดเจนว่าเป็นความรับผิดชอบของทีมงานชุดไหน
เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ที่ผ่านมา ทีมงานสโมสรสิงห์ ท่าเรือ นำโดย นายตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง ผู้จัดการทีม, นายไพฑูลย์ ทองคำ ที่ปรึกษาสโมสร เดินทางเข้าหารือร่วมกับการท่าเรือแห่งประเทศไทย และฝ่ายกฎหมายสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย กรณีโดน มัทธีอัส คริสเทน อดีตแข้งของทีมชาวลิกเตนสไตน์ ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายโดยอ้างว่าโดนค้างค่าจ้าง พร้อมเรียกค่าชดเชยจำนวน 4,275,000 บาท (ดอกเบี้ยอีกร้อยละ 5) ซึ่งหากผิดจริง “สิงห์เจ้าท่า” มีสิทธิ์ที่จะโดนตัด 6 คะแนน
ภายหลังการปิดห้องชี้แจง นายไพฑูลย์ กล่าวว่า “ทางบริษัท สิงห์ ท่าเรือ จำกัด ได้คืนสิทธิ์ให้กับการท่าเรือแห่งประเทศไทย เรียบร้อยแล้ว ดังนั้น ปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้นจึงต้องคาบเกี่ยวกัน ในกรณีจะต้องจ่ายค่าชดเชยจำนวน 4,275,000 บาทนั้น จึงต้องหารือว่าต้องดำเนินการต่ออย่างไร ซึ่งเรายังคงจะสู้คดีต่อศาลโลก โดยให้สมาคมฟุตบอลฯ เข้ามาช่วยดำเนินการในการแจ้งเรื่องให้ฟีฟาชะลอบทลงโทษที่จะเกิดขึ้น”
ขณะที่ นายนรินทร์พงศ์ จินาภักดิ์ ประธานฝ่ายกฎหมายสมาคมฟุตบอลฯ กล่าวว่า “วันนี้เราได้เรียกทางสิงห์ท่าเรือและการท่าเรือฯ เข้ามาหารือกรณีดังกล่าว ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าทางฟีฟายังไม่มีกระบวนการลงโทษเกิดขึ้น แต่ให้ระยะเวลาเราเพียงแค่ 10 - 15 วันเท่านั้น โดยสามารถลงโทษได้ทั้งตัด 6 คะแนน, ปรับตกชั้น หรือรุนแรงถึงขั้นสั่งให้ยุบทีม ซึ่งเราทราบว่ามีการเปลี่ยนถ่ายชุดผู้บริหารจึงต้องให้เวลาการท่าเรือที่เพิ่งเข้ามาทำงาน ว่าจะมีข้อสรุปหรือมาการช่วยเหลืออย่างไร ตอนนี้สมาคมฯ จะช่วยทำหนังสือไปยังฟีฟ่าตามที่สิงห์ท่าเรือขอร้องก่อน เพราะท่าเรือถือเป็นทีมที่เก่าแก่ จึงต้องการให้อยู่ในศึกไทยพรีเมียร์ลีกฤดูกาลหน้าได้อย่างไม่มีปัญหา”
“ส่วนเรื่องที่ สิงห์ ท่าเรือ ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองกรณีโดนตัด 9 แต้ม จากเหตุวิวาทนั้น ศาลไม่รับฟ้องเนื่องจาก บริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด มีอำนาจในการดำเนินการอย่างเต็มที่ และแต้มที่ถูกตัดไม่มีผลต่อการตกชั้นของสิงห์ท่าเรือ ทำให้ไม่สามารถยกเลิกบทลงโทษนี้ได้” ประธานฝ่ายกฎหมายสมาคมฟุตบอลฯ กล่าว