คอลัมน์ “The Golf Touch” โดย “วันปีย์ สัจจมาร์ค”
ผมเพิ่งจะร่วมเดินทางไปกว่างโจว (Guangzhou) เพื่อไปเล่นกอล์ฟที่สนาม Dragon Lake Golf Club กับคณะกรรมการของสมาคมสนามกอล์ฟไทย ผู้บริหารสนามกอล์ฟต่างๆ ผู้ชนะ และแขกรับเชิญของรายการ Chang Club Championship 2014 ก่อนอื่นต้องชมก่อนเลยว่าบริหารจัดการรายละเอียดต่างๆ ของการเดินทางได้ดีมาก ทั้งเรื่องการรักษาเวลา อาหารการกิน ความเป็นกันเอง และสำคัญที่สุดคือเรื่องความยืดหยุ่นของตารางกิจกรรมเพื่อให้การเล่นกอล์ฟเป็นพระเอกและวัตถุประสงค์หลักของการเดินทาง วันนี้ขอเริ่มที่เรื่องรวมๆ ของการไปเล่นกอล์ฟในครั้งนี้และค่อยตามด้วยบทเรียนต่างๆ ที่ผมได้กลับมา รวมทั้งแผนการพัฒนาการเล่นกอล์ฟของตัวเองที่จะเขียนในตอนต่อๆ ไป
สนาม Dragon Lake Golf Club ตั้งอยู่ที่ Jinma Dragon Lake Resort ในกว่างโจวซึ่งเป็นเมืองเอกของมณฑลกวางตุ้ง ที่นี่มี 54 หลุมแบ่งออกเป็น 2 สนามคือสนามที่ใช้แข่งเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 16 และสนาม King Course ที่พวกเราได้ลองเล่นกันทั้ง 27 หลุม ถ้าสนใจทราบรายละเอียดเพิ่มเติมของสนามไปกดค้นดูในอินเตอร์เน็ตเองแล้วกันนะครับ เอาเป็นว่าบรรยากาศรวมๆ คือสนามบนภูเขาที่บางหลุมเล่นขึ้นเขาสูง บางหลุมเลาะเลียบมุมหักเว้าของหุบเขา และหลุมที่วิวสวยเป็นพิเศษก็มักจะเป็นหลุมที่เล่นจากยอดเขาลงมาในมุมดิ่ง ในหลุมที่เล่นขึ้นยอดเขาผมเองต้องมีทดระยะเหล็กขึ้น 3 ถึง 4 เบอร์ คล้ายๆ กับเวลาเล่นช็อตสองของหลุม 3 ที่สนามสันติบุรีสมุยในบ้านเรา ขณะที่เวลาเล่นลงเขาก็ต้องทดเหล็กลง และสามารถนับเวลาที่ลูกลอยอยู่ในอากาศ (hang time) ได้ถึงสิบวินาทีกว่าลูกกอล์ฟจะตกลงบนกรีน Dragon Lake เป็นสนามที่นอกจากจะบังคับใช้รถกอล์ฟแล้วยังบังคับห้ามนักกอล์ฟขับรถกอล์ฟเองด้วย เมื่อได้ลองเล่นแล้วจึงเข้าใจว่าเป็นการขับรถกอล์ฟในพื้นที่ลาดชันที่ต้องอาศัยความชำนาญของแคดดี้ที่ขับอยู่ทุกวันจึงจะปลอดภัย และต่อให้เขาอนุญาตให้เดินตีได้ก็ไม่มีใครไหว บางหลุมใช้เวลาขับรถ 2-3 นาทีจากกรีนไปแท่นทีออฟหลุมถัดไป ว่าไปแล้วสนามกินพื้นที่กว้างใหญ่มากไม่รู้รวยมาจากไหน หรือบุกรุกพื้นที่อุทยานไปบ้างหรือเปล่า แต่ผมลองนับจำนวนภูเขาที่เรามองเห็นว่าเป็นส่วนประกอบของสนามที่เราเล่นได้ไม่ต่ำกว่า 5 ลูก ยอมรับว่าเป็นสนามที่วิวสวยมาก แต่เล่นยาก ท้าทาย โหดร้าย อึดอัด และให้การบ้านกลับมาฝึกต่อเต็มไปหมดเลย... (ติดตามตอนต่อไป)
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
ผมเพิ่งจะร่วมเดินทางไปกว่างโจว (Guangzhou) เพื่อไปเล่นกอล์ฟที่สนาม Dragon Lake Golf Club กับคณะกรรมการของสมาคมสนามกอล์ฟไทย ผู้บริหารสนามกอล์ฟต่างๆ ผู้ชนะ และแขกรับเชิญของรายการ Chang Club Championship 2014 ก่อนอื่นต้องชมก่อนเลยว่าบริหารจัดการรายละเอียดต่างๆ ของการเดินทางได้ดีมาก ทั้งเรื่องการรักษาเวลา อาหารการกิน ความเป็นกันเอง และสำคัญที่สุดคือเรื่องความยืดหยุ่นของตารางกิจกรรมเพื่อให้การเล่นกอล์ฟเป็นพระเอกและวัตถุประสงค์หลักของการเดินทาง วันนี้ขอเริ่มที่เรื่องรวมๆ ของการไปเล่นกอล์ฟในครั้งนี้และค่อยตามด้วยบทเรียนต่างๆ ที่ผมได้กลับมา รวมทั้งแผนการพัฒนาการเล่นกอล์ฟของตัวเองที่จะเขียนในตอนต่อๆ ไป
สนาม Dragon Lake Golf Club ตั้งอยู่ที่ Jinma Dragon Lake Resort ในกว่างโจวซึ่งเป็นเมืองเอกของมณฑลกวางตุ้ง ที่นี่มี 54 หลุมแบ่งออกเป็น 2 สนามคือสนามที่ใช้แข่งเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 16 และสนาม King Course ที่พวกเราได้ลองเล่นกันทั้ง 27 หลุม ถ้าสนใจทราบรายละเอียดเพิ่มเติมของสนามไปกดค้นดูในอินเตอร์เน็ตเองแล้วกันนะครับ เอาเป็นว่าบรรยากาศรวมๆ คือสนามบนภูเขาที่บางหลุมเล่นขึ้นเขาสูง บางหลุมเลาะเลียบมุมหักเว้าของหุบเขา และหลุมที่วิวสวยเป็นพิเศษก็มักจะเป็นหลุมที่เล่นจากยอดเขาลงมาในมุมดิ่ง ในหลุมที่เล่นขึ้นยอดเขาผมเองต้องมีทดระยะเหล็กขึ้น 3 ถึง 4 เบอร์ คล้ายๆ กับเวลาเล่นช็อตสองของหลุม 3 ที่สนามสันติบุรีสมุยในบ้านเรา ขณะที่เวลาเล่นลงเขาก็ต้องทดเหล็กลง และสามารถนับเวลาที่ลูกลอยอยู่ในอากาศ (hang time) ได้ถึงสิบวินาทีกว่าลูกกอล์ฟจะตกลงบนกรีน Dragon Lake เป็นสนามที่นอกจากจะบังคับใช้รถกอล์ฟแล้วยังบังคับห้ามนักกอล์ฟขับรถกอล์ฟเองด้วย เมื่อได้ลองเล่นแล้วจึงเข้าใจว่าเป็นการขับรถกอล์ฟในพื้นที่ลาดชันที่ต้องอาศัยความชำนาญของแคดดี้ที่ขับอยู่ทุกวันจึงจะปลอดภัย และต่อให้เขาอนุญาตให้เดินตีได้ก็ไม่มีใครไหว บางหลุมใช้เวลาขับรถ 2-3 นาทีจากกรีนไปแท่นทีออฟหลุมถัดไป ว่าไปแล้วสนามกินพื้นที่กว้างใหญ่มากไม่รู้รวยมาจากไหน หรือบุกรุกพื้นที่อุทยานไปบ้างหรือเปล่า แต่ผมลองนับจำนวนภูเขาที่เรามองเห็นว่าเป็นส่วนประกอบของสนามที่เราเล่นได้ไม่ต่ำกว่า 5 ลูก ยอมรับว่าเป็นสนามที่วิวสวยมาก แต่เล่นยาก ท้าทาย โหดร้าย อึดอัด และให้การบ้านกลับมาฝึกต่อเต็มไปหมดเลย... (ติดตามตอนต่อไป)
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *