โรแบร์โต ดิ มัตเตโอ เทรนเนอร์ ชาลเก 04 ออกมายืนยัน ไม่มีความคิดชำระแค้น เชลซี อดีตต้นสังกัด หลังเคยถูกปลดพ้นเก้าอี้ เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ก่อนหน้าทั้งคู่จะโคจรมาพบกัน ในศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม คืนวันอังคารที่ 25 พฤศจิกายนนี้
กุนซือชาวอิตาเลียน นำพลพรรค “สิงโตน้ำเงินคราม” ครองแชมป์ฟุตบอลสโมสรยุโรป ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ในฐานะผู้จัดการทีมขัดตาทัพ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2012 ก่อนตอบรับสัญญา 2 ปี รับตำแหน่งนายใหญ่แห่งถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์
อย่างไรก็ตาม ดิ มัตเตโอ ถูกตะเพิดเพียงแค่ 4 เดือน หลังได้รับการแต่งตั้งแบบถาวร เนื่องจากไม่สามารถสานต่อความสำเร็จ แถมพา ยักษ์ใหญ่แห่งกรุงลอนดอน กลายเป็นทีมแรกซึ่งชูโทรฟี “บิ๊กเอียร์” แต่ต้องกระเด็นตกรอบแบ่งกลุ่ม อีก 1 ซีซันต่อมา (2012-13)
ทว่ากลางสัปดาห์นี้ (25 พ.ย.) บิ๊กบอสวัย 44 ปี จะนำลูกทีม เผชิญหน้า ยักษ์ใหญ่แห่งกรุงลอนดอน ครั้งแรก นับตั้งแต่แยกทางกันไป ทว่า เจ้าตัว ประกาศอย่างชัดเจนว่า ขอมุ่งสมาธิกับชะตากรรมบนเส้นทาง แชมเปียนส์ ลีก ของ “ราชันสีน้ำเงิน” เท่านั้น
อดีตมิดฟิลด์ ลาซิโอ กล่าว “บอกตามตรง ผมไม่เคยคิดถึงเหตุการณ์ที่เมืองมิวนิก เมื่อปี 2012 มากมาย ผมเป็นบุคคลที่มองไปข้างหน้า ไม่ยึดติดกับอดีต ผมอยู่กับปัจจุบันถึงแม้หลายๆ คนจะคอยย้ำเตือนผมเกี่ยวกับแมตช์นั้นตลอดเวลา”
“ผมอยู่กับ เชลซี มาหลายปี และยังคงรู้จักบุคลากรหลายๆ คนซึ่งทำงานอยู่ที่นั่นเช่นเดียวกับผู้เล่น แต่นั่นเป็นเรื่องส่วนตัวมากกว่า มันไม่เกี่ยวข้องอะไรกับหน้าที่ของผม วันพรุ่งนี้ (25 พ.ย.) เราจะเน้นกับภารกิจของเรา ผมไม่มีความคิดเรื่องแก้แค้น ผมมีช่วงเวลาน่าจดจำที่นั่นกับคนที่น่าอัศจรรย์”
ทีมจากเมืองเกลเชนเคียร์เชน รั้งอันดับ 2 ของกลุ่ม G ตามหลัง ทีมของ โชเซ มูรินโญ อยู่ 3 แต้ม แต่ก็มีสิทธิ์เสียตำแหน่ง หากพ่ายคารัง เวลทินส์ อารีนา และมีผลแพ้-ชนะ ระหว่าง เอ็นเค มาริบอร์ กับ สปอร์ติง ลิสบอน ค่ำคืนวันเดียวกัน
“แน่นอน เชลซี ยังเป็นตัวเต็งของกลุ่ม แต่ทุกอย่างยังไม่แน่นอน เราสามารถคว้าแชมป์กลุ่มได้ สำหรับ แชมเปียนส์ ลีก มันมีความหมายมากที่จะต้องชนะเกมเหย้า วันพรุ่งนี้ยังไม่มีบทสรุปใดๆ คุณต้องมองถึงเกมสุดท้ายของรอบแรก เราต้องพยายามงัดฟอร์มสุดยอด และหวังว่า เชลซี จะสะดุด”
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
