ไนกี้กอล์ฟเปิดตัวไดร์ฟเวอร์รุ่น Vapor Speed ใหม่ล่าสุด ที่มี chassis ใหญ่และมีความเสถียรภาพสูงสุด ให้องศาการออกตัวที่สูงขึ้น พร้อมกับสปินต่ำ ออกแบบให้มีพื้นสีดำที่ส่วน crown ด้านบนสุด กับ Cavity Back และ Compression Channel ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ซึ่งการออกแบบตัว chassis ในไดร์ฟเวอร์รุ่นนี้ให้มีความลาดเอียงที่ส่วน crown จากด้านหน้าไปสู่ด้านหลัง และสร้างหน้าไดร์ฟเวอร์ให้มีความลึกมากขึ้น เพื่อที่จะเคลื่อนจุดศูนย์ถ่วงมายังด้านหน้าของหน้าไดร์ฟเวอร์ ส่งผลให้เกิดสปินต่ำลงในขณะออกตัว เมื่อเทียบกับรุ่น Covert 2.0
เช่นเดียวกันกับไดร์ฟเวอร์รุ่น Vapor Pro ที่ได้เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ ไดร์ฟเวอร์รุ่น Vapor Speed นี้ได้ผสมผสาน 3 เทคโนโลยีสำคัญเข้าไว้ด้วยกัน ได้แก่ เทคโนโลยี FlyBeam ที่รวมไว้กับการออกแบบ Covert Cavity Back เทคโนโลยี Compression Channel และเทคโนโลยี FlexLoft 2 ซึ่งเทคโนโลยีทั้งสามนี้จะช่วยให้นักกอล์ฟสามารถทำระยะได้สูงสุด และให้ผลงานดีสม่ำเสมออย่างที่ต้องการ
ทั้งนี้เทคโนโลยี FlyBeam ที่ผนวกเข้ากับ Covert Cavity Back เพื่อให้เกิดการทำงานที่สอดประสานกันกับ Compression Channel ซึ่ง channel แบบใหม่นี้จะเพิ่มพลังการสะท้อนที่ได้บนหน้าไม้ NexCOR ที่ออกแบบให้คล้ายกับกระดานสปริงกระจายอยู่ทั่วหน้าไดร์ฟเวอร์ เพื่อเน้นให้เกิดความเร็วของลูกเมื่อถูกตีออกไป ผลที่ได้คือเสียงที่ไพเราะ ความรู้สึกที่ดีขึ้น รวมทั้งให้ความสม่ำเสมอของผลงานการตี และระยะทางที่ไกลขึ้น
ส่วนเทคโนโลยี FlexLoft2 ได้รับการพัฒนาขึ้นอีกขั้น ด้วยน้ำหนักที่เบาลงถึง 30% โดยไม่มีผลต่อการทำงานของระบบ ซึ่งทำให้จุดศูนย์ถ่วงต่ำลงได้อีกถึง 2 มม. ในหัวไม้แฟร์เวย์รุ่น Vapor Flex การกระจายมวลน้ำหนักแบบใหม่นี้ทำให้หัวไม้มีเสถียรภาพมากขึ้น สภาวะการออกตัวดีขึ้น และเพิ่มความเร็วให้กับวงสวิง นอกจากนี้ FlexLoft 2 ยังสามารถใช้ก้านร่วมกับก้าน Covert รุ่นก่อนได้ หรือสามารถสลับไปมาระหว่างก้านกับหัวไม้ระหว่างรุ่นได้ ทั้งนี้ไดร์ฟเวอร์ Vapor Speed มีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 30 มกราคม 2558