คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
เปลี่ยนบรรยากาศมาเอาใจคนรักศิลปะการต่อสู้แบบผสมบ้าง หลังจากที่ผ่านมาโดยเฉพาะในระดับโลกอย่างศึก UFC ค่อนข้างจะเงียบเหงาไปเยอะ เพราะบรรดาซูเปอร์สตาร์ทยอยพลาดท่าแพ้บ้าง เจ็บบ้าง ขอพักบ้าง ทำให้ไม่ค่อยมีไฟต์ที่เรียกเสียงซี้ดซ้าดจากแฟนๆ มากนัก ในฝั่งนักสู้หญิงเองก็มีเพียง “อีสาวคาวบอย” รอนดา เราซีย์ คนเดียวที่ชื่อชั้นเรียกคนดูได้ แล้วก็เก็บเรียบผู้ท้าชิงชนิดห่างชั้นจนจะกลายเป็นน่าเบื่อไปแล้ว
ที่ผ่านมา ก็มีความพยายามจะหาคู่ต่อกรที่สมน้ำสมเนื้อ สุดท้ายได้นักสู้จอมเก๋าอีกรายอย่าง แคท ซิงกาโน วัย 32 ปี เจ้าของสถิติสู้ 9 ไฟต์ ชนะรวด 9 ไฟต์ เตรียมขึ้นชิงเข็มขัด UFC ในรุ่นแบนตัมเวตหญิง ในรายการ UFC 184 กำหนดพบกันต้นเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า โดยเป็นคู่รองในศึกใหญ่ “ขวัญใจอเมริกัน” คริส ไวด์แมน ป้องกันเข็มขัดรุ่นมิดเดิลเวตกับ วิตอร์ เบลฟอร์ด สุดยอดนักสู้อีกราย เรียกว่ารายการนี้กลายเป็นรายการใหญ่ที่เรียกความสนใจได้มากทีเดียว
ตอนนี้ก็มีนักสู้หญิงอีกหลายราย ที่พยายามปั่นกระแสหวังจะมีโอกาสได้ขึ้นสังเวียนปะทะฝีมือกับ “รอนดา เราซีย์” รายที่แฟนๆ อยากดูที่สุดตอนนี้น่าจะเป็น คริส ไซบอร์ก ที่เพิ่งพ้นโทษแบนกลับมาพร้อมขึ้นสังเวียนอีกครั้ง แต่ก็เคยเล่าให้แฟนๆ คอลัมน์ฟังแล้วว่า “ไซบอร์ก” นั้นปกติสู้ในรุ่น 145 ปอนด์ คือ รุ่นเฟเธอร์เวต และคำแนะนำทางแพทย์นั้นบอกว่าจะไม่ดีกับเธอมากถ้าเธอจะต้องทำน้ำหนักลงมาที่ 135 ปอนด์ เพื่อสู้ในรุ่นแบนตัมเวตที่ เราซีย์ครองตำแหน่งอยู่ รวมทั้ง ไซบอร์ก นั้นยังไม่มีสัญญากับ UFC ดังนั้นไฟต์นี้น่าจะเกิดยากหน่อย
แต่กระนั้น 2 สาวก็ออกมาปะทะคารมกันเป็นระยะๆ โดย ไซบอร์ก ก็กล่าวหา เราซีย์ ว่าหนีเธอมาตลอด และว่าเธอมุ่งมั่นจะทำน้ำหนัก 135 เพื่อมาฟัดกับ เราซีย์ ให้ได้สักวัน ทางด้าน “อีสาวคาวบอย” ก็บอกว่าเธอพร้อมเสมอ มีแต่ ไซบอร์ก นั่นแหละที่ไม่พร้อมซักที พร้อมเมื่อไหร่มาคุยกันได้เลย ก็ไม่รู้ไฟต์นี้จะเหมือนคู่มวย “ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ - แมนนี ปาเกียว” หรือเปล่า ที่เลี่ยงกันไปกันมาสุดท้ายแฟนๆ ได้แต่รอเก้อ
อีกรายก็คือนักสู้แปลงเพศ “ฟัลลอน ฟอกซ์” ที่เคยคุยให้แฟนๆ คอลัมน์ได้รู้จักเธอมาแล้วเช่นกัน ตอนนี้ ฟอกซ์ ขึ้นสู้มาแล้ว 6 ไฟต์ ชนะ 5 ไฟต์ แพ้ 1 และก็ออกมาท้าทาง เราซีย์ อยู่เหยงๆ อีกฝ่ายก็ยืนกรานว่ายังไงนักสู้แปลงเพศก็มีข้อได้เปรียบและจะไม่ยอมขึ้นสังเวียนพบกับนักสู้แปลงเพศเด็ดขาด แต่ทางด้าน ฟัลลอน ฟอกซ์ ก็บอกว่าตอนนี้มีรายงานทางการแพทย์มากมายที่สนับสนุนว่านักกีฬาแปลงเพศที่ผ่านการกินฮอร์โมนอย่างจริงจังเป็นเวลานานนั้น ทำให้ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง และข้อได้เปรียบเรื่องสรีระก็ไม่มีอีกต่อไปแล้ว มวลกระดูกไม่ได้หนาแน่นกว่า ไม่ได้แข็งแรงกว่า กล้ามเนื้อก็ไม่ได้แข็งแรงกว่าอีกต่อไปแล้ว น่าจะมาสู้กันได้แล้ว
ตอนนี้โอลิมปิกก็ยอมให้นักกีฬาแปลงเพศเข้าร่วมการแข่งขันได้แล้ว รวมทั้งคณะกรรมาธิการกีฬาของรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ ก็เตรียมพิจารณาอนุญาตให้นักกีฬาแปลงเพศลงแข่งในกีฬาอาชีพ (รัฐอื่นๆ บางรัฐ เช่น ฟลอริดา หรือประเทศอย่างแคนาดาอนุญาตแล้ว ทำให้ ฟัลลอน ฟอกซ์ สามารถขึ้นสู้มาได้ตลอด) ที่สำคัญ การที่ ฟัลลอน ฟอกซ์ ประสบความพ่ายแพ้มาแล้ว ก็น่าจะเป็นข้อพิสูจน์ระดับหนึ่งเหมือนกันว่านักสู้หญิงแท้ๆ ก็สามารถเอาชนะนักสู้หญิงแปลงเพศได้ แบบนี้ “อีสาวคาวบอย” น่าจะเถียงไม่ออก ก็ต้องดูว่าไฟต์นี้จะเกิดได้หรือไม่เหมือนกัน
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
เปลี่ยนบรรยากาศมาเอาใจคนรักศิลปะการต่อสู้แบบผสมบ้าง หลังจากที่ผ่านมาโดยเฉพาะในระดับโลกอย่างศึก UFC ค่อนข้างจะเงียบเหงาไปเยอะ เพราะบรรดาซูเปอร์สตาร์ทยอยพลาดท่าแพ้บ้าง เจ็บบ้าง ขอพักบ้าง ทำให้ไม่ค่อยมีไฟต์ที่เรียกเสียงซี้ดซ้าดจากแฟนๆ มากนัก ในฝั่งนักสู้หญิงเองก็มีเพียง “อีสาวคาวบอย” รอนดา เราซีย์ คนเดียวที่ชื่อชั้นเรียกคนดูได้ แล้วก็เก็บเรียบผู้ท้าชิงชนิดห่างชั้นจนจะกลายเป็นน่าเบื่อไปแล้ว
ที่ผ่านมา ก็มีความพยายามจะหาคู่ต่อกรที่สมน้ำสมเนื้อ สุดท้ายได้นักสู้จอมเก๋าอีกรายอย่าง แคท ซิงกาโน วัย 32 ปี เจ้าของสถิติสู้ 9 ไฟต์ ชนะรวด 9 ไฟต์ เตรียมขึ้นชิงเข็มขัด UFC ในรุ่นแบนตัมเวตหญิง ในรายการ UFC 184 กำหนดพบกันต้นเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า โดยเป็นคู่รองในศึกใหญ่ “ขวัญใจอเมริกัน” คริส ไวด์แมน ป้องกันเข็มขัดรุ่นมิดเดิลเวตกับ วิตอร์ เบลฟอร์ด สุดยอดนักสู้อีกราย เรียกว่ารายการนี้กลายเป็นรายการใหญ่ที่เรียกความสนใจได้มากทีเดียว
ตอนนี้ก็มีนักสู้หญิงอีกหลายราย ที่พยายามปั่นกระแสหวังจะมีโอกาสได้ขึ้นสังเวียนปะทะฝีมือกับ “รอนดา เราซีย์” รายที่แฟนๆ อยากดูที่สุดตอนนี้น่าจะเป็น คริส ไซบอร์ก ที่เพิ่งพ้นโทษแบนกลับมาพร้อมขึ้นสังเวียนอีกครั้ง แต่ก็เคยเล่าให้แฟนๆ คอลัมน์ฟังแล้วว่า “ไซบอร์ก” นั้นปกติสู้ในรุ่น 145 ปอนด์ คือ รุ่นเฟเธอร์เวต และคำแนะนำทางแพทย์นั้นบอกว่าจะไม่ดีกับเธอมากถ้าเธอจะต้องทำน้ำหนักลงมาที่ 135 ปอนด์ เพื่อสู้ในรุ่นแบนตัมเวตที่ เราซีย์ครองตำแหน่งอยู่ รวมทั้ง ไซบอร์ก นั้นยังไม่มีสัญญากับ UFC ดังนั้นไฟต์นี้น่าจะเกิดยากหน่อย
แต่กระนั้น 2 สาวก็ออกมาปะทะคารมกันเป็นระยะๆ โดย ไซบอร์ก ก็กล่าวหา เราซีย์ ว่าหนีเธอมาตลอด และว่าเธอมุ่งมั่นจะทำน้ำหนัก 135 เพื่อมาฟัดกับ เราซีย์ ให้ได้สักวัน ทางด้าน “อีสาวคาวบอย” ก็บอกว่าเธอพร้อมเสมอ มีแต่ ไซบอร์ก นั่นแหละที่ไม่พร้อมซักที พร้อมเมื่อไหร่มาคุยกันได้เลย ก็ไม่รู้ไฟต์นี้จะเหมือนคู่มวย “ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ - แมนนี ปาเกียว” หรือเปล่า ที่เลี่ยงกันไปกันมาสุดท้ายแฟนๆ ได้แต่รอเก้อ
อีกรายก็คือนักสู้แปลงเพศ “ฟัลลอน ฟอกซ์” ที่เคยคุยให้แฟนๆ คอลัมน์ได้รู้จักเธอมาแล้วเช่นกัน ตอนนี้ ฟอกซ์ ขึ้นสู้มาแล้ว 6 ไฟต์ ชนะ 5 ไฟต์ แพ้ 1 และก็ออกมาท้าทาง เราซีย์ อยู่เหยงๆ อีกฝ่ายก็ยืนกรานว่ายังไงนักสู้แปลงเพศก็มีข้อได้เปรียบและจะไม่ยอมขึ้นสังเวียนพบกับนักสู้แปลงเพศเด็ดขาด แต่ทางด้าน ฟัลลอน ฟอกซ์ ก็บอกว่าตอนนี้มีรายงานทางการแพทย์มากมายที่สนับสนุนว่านักกีฬาแปลงเพศที่ผ่านการกินฮอร์โมนอย่างจริงจังเป็นเวลานานนั้น ทำให้ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง และข้อได้เปรียบเรื่องสรีระก็ไม่มีอีกต่อไปแล้ว มวลกระดูกไม่ได้หนาแน่นกว่า ไม่ได้แข็งแรงกว่า กล้ามเนื้อก็ไม่ได้แข็งแรงกว่าอีกต่อไปแล้ว น่าจะมาสู้กันได้แล้ว
ตอนนี้โอลิมปิกก็ยอมให้นักกีฬาแปลงเพศเข้าร่วมการแข่งขันได้แล้ว รวมทั้งคณะกรรมาธิการกีฬาของรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ ก็เตรียมพิจารณาอนุญาตให้นักกีฬาแปลงเพศลงแข่งในกีฬาอาชีพ (รัฐอื่นๆ บางรัฐ เช่น ฟลอริดา หรือประเทศอย่างแคนาดาอนุญาตแล้ว ทำให้ ฟัลลอน ฟอกซ์ สามารถขึ้นสู้มาได้ตลอด) ที่สำคัญ การที่ ฟัลลอน ฟอกซ์ ประสบความพ่ายแพ้มาแล้ว ก็น่าจะเป็นข้อพิสูจน์ระดับหนึ่งเหมือนกันว่านักสู้หญิงแท้ๆ ก็สามารถเอาชนะนักสู้หญิงแปลงเพศได้ แบบนี้ “อีสาวคาวบอย” น่าจะเถียงไม่ออก ก็ต้องดูว่าไฟต์นี้จะเกิดได้หรือไม่เหมือนกัน
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
