ASTV ผู้จัดการรายวัน - หลายคนคงทราบกันแล้วว่า ขณะนี้ ประเทศสิงคโปร์ กำลังเดินหน้าเข้าสู่การเป็นเมืองแห่งกีฬาอย่างเต็มตัว ด้วยการสร้าง “สิงคโปร์ สปอร์ต ฮับ” จุดศูนย์รวมทางด้านกีฬา โดยมี “เนชันแนล สเตเดียม” ความจุ 55,000 ที่นั่ง และสามารถประยุกต์ใช้เป็นสนามแข่งได้หลายอย่างเช่น ฟุตบอล, รักบี้, กรีฑา หรือแม้กระทั่งจัดคอนเสิร์ต เป็นหลัก ซึ่งโดยรอบจะประกอบไปด้วย อินดอร์ สเตเดียม ความจุ 12,000 ที่นั่ง, อควอติก เซ็นเตอร์ รองรับกีฬาทางน้ำ อีกด้วย โดยเปิดอย่างเป็นทางการไปช่วงเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา
สำหรับทัวร์นาเมนต์ระดับโลกที่ “สิงค์โปร์ สปอร์ต ฮับ” ได้รับหน้าเสื่อจัดการแข่งขันรายการแรก คือ การแข่งขันรักบี้ฟุตบอล 10 คน สโมสรชิงแชมป์โลกปี 2014 พร้อมได้รับคำชมมากมายอย่างล้นหลาม ว่ามีความพร้อมสมบูรณ์แบบ ล่าสุดที่เพิ่งจบไป เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม 2557 สำหรับการแข่งขันเทนนิส ดับเบิลยูทีเอ แชมเปียนชิปส์ ซึ่งเป็นการรวม 8 ยอดนักหวดลูกสักหลาดหญิง เข้ามาชิงแชมป์รายการใหญ่ส่งท้ายปี และก็ไม่ทำให้ทางฝ่ายจัดการแข่งขันต้องผิดหวังเมื่อ สิงคโปร์ จัดออกมาได้อย่างไร้ที่ติ
โดยเฉพาะคอมเมนต์ของ เซเรนา วิลเลียมส์ เทนนิสสาวมือ 1 ของโลกจากสหรัฐอเมริกา ที่เล่นรายการสุดท้ายก่อนจบฤดูกาล 2014 ได้เปิดเผยความรู้สึกหลังจากที่ได้มาแข่งขันใน ดับเบิลยูทีเอ ไฟนอลส์ เป็นครั้งแรกที่แดนลอดช่อง ว่า ทุกอย่างของที่นี่ยอดเยี่ยมมาก “มันยากที่จะบอกว่ารู้สึกอย่างไร เป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่ในชีวิตฉัน ทุกอย่างที่นี่ยอดเยี่ยมมาก ไม่ว่าจะเป็น เทนนิส คอร์ต, สถานที่ท่องเที่ยว, โรงแรม ทุกอย่างจริงๆ ฉันรักที่นี่”
ทัวร์นาเมนต์สำคัญครั้งต่อไปของ “สิงคโปร์ สปอร์ต ฮับ” คือ ซีเกมส์ ครั้งที่ 28 ระหว่างวันที่ 5 - 16 มิถุนายน 2558 ล่าสุด มีการแข่งขันทั้งหมด 30 ชนิดด้วยกัน ทั้งประเภทกีฬาทางบก และทางน้ำ และชิงชัยกันทั้งสิ้น 336 เหรียญทอง
ซึ่งตอนนี้ โจรีน ฉวย ฝ่ายการตลาดของ “สิงคโปร์ สปอร์ต ฮับ” ได้เผยว่า “มีความพร้อมประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งในส่วนของสนามกีฬาทั้งหมดได้สร้างเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เหลือแต่เพียงหมู่บ้านนักกีฬาที่ตอนนี้ยังไม่ได้มีการเริ่มสร้าง แต่มั่นใจว่า ด้วยศักยภาพของรัฐบาลสิงคโปร์ที่มีพลังเงินอย่างมหาศาลนั้น สามารถสร้างเสร็จในเวลาอันไม่นานนัก”
สำหรับความพร้อมของสนามนั้น ทุกชนิดกีฬาจะแข่งขันกันใน “สิงคโปร์ สปอร์ต ฮับ” ซึ่งผู้ชมจะไม่เสียเวลาในการเดินทางมาก เนื่องจากจะมีทางเดินเชื่อมต่อกันทุกชนิดกีฬา ไฮไลต์สำคัญอยู่ที่ “เนชันแนล สเตเดียม” ความจุ 55,000 ที่ นั่งจะสามารถปรับเปลี่ยนเป็นสนามฟุตบอล, รักบี้, กรีฑา และ คริกเก็ต ได้ ซึ่งบริเวณสแตนด์ที่นั่งจะเป็นระบบไฮโดรลิก สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบสนามให้เหมาะสมกับกีฬาต่างๆ ได้ ซึ่งเป็น 1 ใน 5 สนามของโลก ที่มีเทคโนโลยีเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่สิงคโปร์เหนือกว่า คือ ใช้ระยะเวลาการปรับเปลี่ยนรูปแบบสนามเร็วที่สุดในโลก
นอกจากนี้ วิธีการเดินทางมาชมกีฬายังสะดวก เนื่องจากมีรถไฟฟ้าใต้ดิน ถึงสองสถานีที่ติดกับบริเวณ “สิงคโปร์ สปอร์ต ฮับ” พร้อมพาผู้ชมเดินทางไปยังทุกสถานที่ทั่วประเทศ ซึ่งวิธีการจัดระเบียบปัญหาการจราจรรอบสนามเวลาที่มีทัวร์นาเมนต์สำคัญ ที่น่าสนใจของ “สิงคโปร์ สปอร์ตฮับ” คือ ประชาชนสามารถจองที่จอดรถในระบบออนไลน์ได้ และเข้าจอดได้ตลอด 24 ชั่วโมง ฉะนั้นแล้ว เมื่อช่วงที่การแข่งขันจบท่านสามารถเดินทางกลับบ้านโดยรถไฟฟ้าใต้ดิน และสามารถย้อนมาเอารถกลับไปได้ในเวลาที่ต้องการ
ทางด้านบุคลากรที่จะมารองรับนักกีฬา, เจ้าหน้าที่, สื่อมวลชน รวมไปถึงนักท่องเที่ยว จากทุกประเทศอาเซียน ขณะนี้ทางประเทศสิงคโปร์ ได้เริ่มประกาศรับอาสาสมัครกว่า 15,000 ชีวิต ที่จะใช้สำหรับการแข่งขัน มหกรรมกีฬาระดับอาเซียน ที่จะถึงนี้เรียบร้อยแล้ว อีกสิ่งที่น่าสนใจของ “สิงคโปร์ สปอร์ต ฮับ” คือการเตรียมความพร้อมด้านพลังงาน โดยการลงทุนกว่า 340 ล้านบาท ในการสร้างฟาร์ม โซลาร์ เซลล์ ขนาด 7,000 ตารางเมตร เพื่อเป็นพลังงานสะอาดรองรับจุดศูนย์รวมกีฬาโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่รัฐบาลสิงคโปร์ให้ความสำหรับมาก
ส่วนความคิดเห็นของ โจเซฟีน โอ หนึ่งในประชาชนของประเทศสิงคโปร์ หลังจากทราบว่า รัฐบาลสร้าง “สิงคโปร์ สปอร์ต ฮับ” พร้อมรับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพการแข่งขัน ซีเกมส์ 2015 “ถือว่าดีทีเดียวที่รัฐบาลจะสร้างความสามัคคีของคนในชาติ โดยใช้กีฬาเป็นหลัก ซึ่งที่ผ่านมา คนสิงคโปร์ชอบที่จะมาออกกำลังกายอยู่แล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำให้ทุกคนรู้ว่า เราเป็นประเทศที่สามารถทำได้ทุกอย่าง”
เรียกได้ว่าระยะเวลาเพียงไม่กี่ปีที่ สิงคโปร์ พยายามสร้างเมกะโปรเจกต์ศูนย์กีฬาระดับโลก เพื่อยึดหัวหาดขึ้นครองเบอร์หนึ่งของอาเซียนในด้านเมืองแห่งกีฬาอันดับหนึ่งของภูมิภาค และการประเดิมสนามอย่างน่าประทับใจคอกีฬาทั่วโลก ทำให้ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ซีเกมส์ 2015 ที่ “สิงคโปร์ สปอร์ต ฮับ” นั้นจะเป็นบันไดขั้นเล็กๆ ในก้าวขึ้นมาเป็น “เมืองแห่งกีฬาเบอร์ต้นๆ ของโลก” ในอนาคต
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *