คอลัมน์ “BUZZER BEAT” โดย “MVP”
ชื่อของ เรย์ ไรซ์ รันนิงแบ็กตัวเก่ง บัลติมอร์ เรฟเวนส์ อาจไม่ค่อยคุ้นหูแฟนๆ ศึกอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) สักเท่าไร ก็ต้องยอมรับว่า ตัวเขาเองก็ไม่ใช่ซูเปอร์สตาร์ระดับหัวแถว แต่สุดท้ายก็มาแจ้งเกิดอย่างเต็มตัว กับวีรกรรมอื้อฉาว ที่เพิ่งปรากฏสู่สายตาสาธารณชน และเชื่อกันว่าน่าจะหมดหนทางทำมาหากินไปเรียบร้อยแล้ว
นับเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ “ทีเอ็มซี (TMZ)” สื่อจอมขุดคุ้ยของสหรัฐอเมริกา สร้างผลงานเขี่ยบุคคลวงการกีฬาจนอนาคตดับวูบไปอีกราย หากยังจำกันได้ สื่อค่ายเดียวกันนี้ เคยแฉคลิปเสียง โดนัลด์ สเตอร์ลิง เจ้าของทีม แอลเอ คลิปเปอร์ส ซุบซิบกับภรรยาทำนองเหยียดผิว จนถูก NBA บังคับขายแฟรนไชส์ แก่ สตีฟ บอลล์เมอร์ อดีตผู้บริหาร “ไมโครซอฟท์” ยักษ์ใหญ่แห่งวงการไอที
ล่าสุด เรย์ ไรซ์ ตัววิ่งดีกรี “โพร โบว์ล” 3 สมัย ก็กลายเป็นเหยื่อรายล่าสุด หลังถูกนำคลิปลับ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ออกเผยแพร่ ขณะมีปากเสียงกับ จาเนย์ พาลเมอร์ คู่หมั้น (ภรรยาคนปัจจุบัน) เดินเข้าลิฟต์ของอาคารแห่งหนึ่ง ย่านแอตแนติก ซิตี ก่อนบันดาลโทสะ ปล่อยหมัดซ้ายใส่หน้า แฟนสาว ศีรษะกระแทกราวเหล็กจนหมดสติ แล้วลากตัวออกมาแบบป่าเถื่อน
หลักฐานปรากฏอยู่ทนโท่ว่าทารุณขนาดนั้น บัลติมอร์ เรฟเวนส์ เองก็ไม่รอช้า โร่แถลงยกเลิกสัญญา ไรซ์ ทันที แม้ยังเหลืออีก 3 ปี มูลค่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 300 ล้านบาท) แถม โรเจอร์ กูเดลล์ ประธาน NFL ก็ยังสั่งแบนแบบไม่มีกำหนด รวมถึงกลายเป็นที่จงเกลียดจงชังของแฟนๆ ถึงขึ้นเผาเสื้อ และ บารัค โอบามา ประธานาธิบดี ก็ประณามพฤติกรรมทำร้ายเพศแม่
เห็นได้ชัดหากคุณเป็นบุคคลแวดวงกีฬา, บันเทิง หรือแม้แต่การเมือง ก็ย่อมต้องมีกองเชียร์จับตาความเคลื่อนไหวของคุณทุกฝีก้าว ดังนั้น จึงต้องประพฤติตัวเป็นแบบอย่างที่ดี หากเกิดกระทำการใดๆ ที่ขัดต่อหลักคุณธรรมจริยธรรม ก็เท่ากับว่า อนาคตของคุณก็คงจะไม่สดใสแน่นอน แต่บางรายยอมรับผิดแล้วปรับปรุงตัว ก็ยังคงมีที่ยืนในสังคมเสมอ
บางครั้งชื่อเสียงของเหล่านักกีฬา ไม่ว่าจะสั่งสมมานานเพียงใด ก็ย่อมมลายหายไปกับตา เพียงแค่วูบเดียว เช่นเดียวกับ ไรซ์ ซึ่งก่อนหน้ายังถูกจดจำ ในฐานะกำลังสำคัญของ “อีกาพญายม” ชุดแชมป์ปี 2012 และได้รับการต่อสัญญาตกรางวัล 5 ปี 21 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่บทสรุปหลังจากนั้น กลับโดนเฉดหัวจากรัง เอ็มที แอนด์ ที แบงก์ แบบไม่มีใครเหลียวแล
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ NFL ที่มักเอาใจใส่ด้านภาพลักษณ์ของนักกีฬา (เชื่อว่าลีกอื่นๆ ก็น่าจะเหมือนกัน) ซึ่งไม่ว่าใครจะทำผิด เช่น พี้ยา, เมาแล้วขับ, ทะเลาะวิวาท ก็มักถูกสั่งแบนหรือปรับเงินเป็นเรื่องปกติ หากร้ายแรงมากๆ บางแฟรนไชส์ ก็จะยกเลิกสัญญาทันที
หรืออาจดูใจร้ายเกินไปหน่อย หากจะมองว่าไม่สนับสนุน หรือคอยยืนข้างนักกีฬาของตัวเอง ทางกลับกัน องค์กรย่อมจะเสียหายมากกว่า โดยเฉพาะการสูญเงินสปอนเซอร์ อันเนื่องมาจากภาพลักษณ์อันด่างพร้อย เช่นเดียวกันก็คงไม่มีนายจ้างคนใดจ่ายเงินแก่คนที่ไม่รู้จะกลับมาเล่นได้เมื่อไร หรือเก็บคนที่เป็นเป้าโจมตีของสังคม ทำให้องค์กรเสื่อมเสีย ก็คงไม่มีใครเขาทำกัน
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
ชื่อของ เรย์ ไรซ์ รันนิงแบ็กตัวเก่ง บัลติมอร์ เรฟเวนส์ อาจไม่ค่อยคุ้นหูแฟนๆ ศึกอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) สักเท่าไร ก็ต้องยอมรับว่า ตัวเขาเองก็ไม่ใช่ซูเปอร์สตาร์ระดับหัวแถว แต่สุดท้ายก็มาแจ้งเกิดอย่างเต็มตัว กับวีรกรรมอื้อฉาว ที่เพิ่งปรากฏสู่สายตาสาธารณชน และเชื่อกันว่าน่าจะหมดหนทางทำมาหากินไปเรียบร้อยแล้ว
นับเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ “ทีเอ็มซี (TMZ)” สื่อจอมขุดคุ้ยของสหรัฐอเมริกา สร้างผลงานเขี่ยบุคคลวงการกีฬาจนอนาคตดับวูบไปอีกราย หากยังจำกันได้ สื่อค่ายเดียวกันนี้ เคยแฉคลิปเสียง โดนัลด์ สเตอร์ลิง เจ้าของทีม แอลเอ คลิปเปอร์ส ซุบซิบกับภรรยาทำนองเหยียดผิว จนถูก NBA บังคับขายแฟรนไชส์ แก่ สตีฟ บอลล์เมอร์ อดีตผู้บริหาร “ไมโครซอฟท์” ยักษ์ใหญ่แห่งวงการไอที
ล่าสุด เรย์ ไรซ์ ตัววิ่งดีกรี “โพร โบว์ล” 3 สมัย ก็กลายเป็นเหยื่อรายล่าสุด หลังถูกนำคลิปลับ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ออกเผยแพร่ ขณะมีปากเสียงกับ จาเนย์ พาลเมอร์ คู่หมั้น (ภรรยาคนปัจจุบัน) เดินเข้าลิฟต์ของอาคารแห่งหนึ่ง ย่านแอตแนติก ซิตี ก่อนบันดาลโทสะ ปล่อยหมัดซ้ายใส่หน้า แฟนสาว ศีรษะกระแทกราวเหล็กจนหมดสติ แล้วลากตัวออกมาแบบป่าเถื่อน
หลักฐานปรากฏอยู่ทนโท่ว่าทารุณขนาดนั้น บัลติมอร์ เรฟเวนส์ เองก็ไม่รอช้า โร่แถลงยกเลิกสัญญา ไรซ์ ทันที แม้ยังเหลืออีก 3 ปี มูลค่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 300 ล้านบาท) แถม โรเจอร์ กูเดลล์ ประธาน NFL ก็ยังสั่งแบนแบบไม่มีกำหนด รวมถึงกลายเป็นที่จงเกลียดจงชังของแฟนๆ ถึงขึ้นเผาเสื้อ และ บารัค โอบามา ประธานาธิบดี ก็ประณามพฤติกรรมทำร้ายเพศแม่
เห็นได้ชัดหากคุณเป็นบุคคลแวดวงกีฬา, บันเทิง หรือแม้แต่การเมือง ก็ย่อมต้องมีกองเชียร์จับตาความเคลื่อนไหวของคุณทุกฝีก้าว ดังนั้น จึงต้องประพฤติตัวเป็นแบบอย่างที่ดี หากเกิดกระทำการใดๆ ที่ขัดต่อหลักคุณธรรมจริยธรรม ก็เท่ากับว่า อนาคตของคุณก็คงจะไม่สดใสแน่นอน แต่บางรายยอมรับผิดแล้วปรับปรุงตัว ก็ยังคงมีที่ยืนในสังคมเสมอ
บางครั้งชื่อเสียงของเหล่านักกีฬา ไม่ว่าจะสั่งสมมานานเพียงใด ก็ย่อมมลายหายไปกับตา เพียงแค่วูบเดียว เช่นเดียวกับ ไรซ์ ซึ่งก่อนหน้ายังถูกจดจำ ในฐานะกำลังสำคัญของ “อีกาพญายม” ชุดแชมป์ปี 2012 และได้รับการต่อสัญญาตกรางวัล 5 ปี 21 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่บทสรุปหลังจากนั้น กลับโดนเฉดหัวจากรัง เอ็มที แอนด์ ที แบงก์ แบบไม่มีใครเหลียวแล
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ NFL ที่มักเอาใจใส่ด้านภาพลักษณ์ของนักกีฬา (เชื่อว่าลีกอื่นๆ ก็น่าจะเหมือนกัน) ซึ่งไม่ว่าใครจะทำผิด เช่น พี้ยา, เมาแล้วขับ, ทะเลาะวิวาท ก็มักถูกสั่งแบนหรือปรับเงินเป็นเรื่องปกติ หากร้ายแรงมากๆ บางแฟรนไชส์ ก็จะยกเลิกสัญญาทันที
หรืออาจดูใจร้ายเกินไปหน่อย หากจะมองว่าไม่สนับสนุน หรือคอยยืนข้างนักกีฬาของตัวเอง ทางกลับกัน องค์กรย่อมจะเสียหายมากกว่า โดยเฉพาะการสูญเงินสปอนเซอร์ อันเนื่องมาจากภาพลักษณ์อันด่างพร้อย เช่นเดียวกันก็คงไม่มีนายจ้างคนใดจ่ายเงินแก่คนที่ไม่รู้จะกลับมาเล่นได้เมื่อไร หรือเก็บคนที่เป็นเป้าโจมตีของสังคม ทำให้องค์กรเสื่อมเสีย ก็คงไม่มีใครเขาทำกัน
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *