xs
xsm
sm
md
lg

"บังยี" ท้าล่าชื่อหนุน จวกสื่อทำเสีย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลฯ วอนฝั่งตรงข้ามอย่าลอบกัดตน ท้าให้ล่ารายชื่อคนที่สนับสนุนตัวเองบ้าง เชื่อไม่ต่ำกว่าหมื่นคนเช่นกัน พร้อมวอนสื่อบางสำนักเลิกทำข่าวปลุกระดมให้เกิดความแตกแยก เพราะส่งผลเสียต่อประเทศไทย

หลังจากที่ กลุ่มรวมพลังปลดแอกบอลไทย นำโดย นายมงคล สันติกุล แกนนำกลุ่มฯมได้นำรายชื่อแฟนบอลกว่า 1 หมื่นรายชื่อ ยื่นร้องเรียนต่อ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อถอดถอน นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมรูปถัมภ์ เพราะเป็นตัวการทำให้ผลงานฟุตบอลไทยตกต่ำ

ล่าสุด เมื่อวันที่ 10 กันยายน ที่ผ่านมา "บังยี" วรวีร์ มะกูดี ประมุขลูกหนังไทย ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า เป็นฝีมือของผู้ที่เสียเปรียบจากการเลือกตั้ง จึงไปชักใยให้มีการล่ารายชื่อถอดถอนตน "ผมได้รับการเลือกตั้งอย่างถูกต้องภายใต้ข้อบังคับของสหพันธ์ฟุตบอลนานานชาติ ซึ่งกรมการปกครอง ได้รับรองการทำหน้าที่ไปเมื่อวันที่ 26 มี.ค. ที่ผ่านมา แม้ผู้ที่แพ้การเลือกตั้งจะไปยื่นฟ้องร้องให้ตรวจสอบขั้นตอนการเลือกตั้งต่อศาลกีฬาโลก แต่วันที่ 1 ก.ค. ผมก็ถูกตัดสินให้เป็นผู้ชนะอยู่ดี จึงเชื่อว่าการที่พยายามรวบรวมรายชื่อเพื่อถอดถอนผมอีก เพื่อประโยชน์ของตนเอง โดยใช้แฟนบอลเป็นเครื่องมือ"

ทั้งนี้ นายวรวีร์ ยังได้เผยถึงผลงานของตัวเองในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จสูงสุด ทั้งการกวาด 4 เหรียญทองในศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 27 หรือการผ่านเข้าสู่ฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 2015 ของทัพฟุตบอลหญิง ล้วนเกิดจากการทำงานภายใต้การดูแลของตนเองทั้งสิ้น

"ผลงานที่ผ่านมาหากทุกคนมองด้วยใจเป็นธรรม จะเห็นว่าเราพัฒนาไปในทิศทางที่ดี รวมทั้งสิทธิประโยชน์ในการถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีกกว่า 600 ล้านบาท หากไม่ได้ความน่าเชื่อถือจากตัวผม และจากสมาคมฯ คงไม่มีใครสามารถทำได้ขนาดนี้ จึงคิดว่าควรจะมีการล่ารายชื่อเพื่อสนับสนุนการทำงานของผมบ้าง เพราะจะมีไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นชื่อเช่นกันอาจจะมากกว่าผู้ที่ต้องการให้ผมออกจากตำแหน่งด้วยซ้ำ แต่ผมจะไม่ทำเช่นนั้นเพราะไม่ต้องการสร้างศัตรู เราควรจะหันหน้าเข้าหากันเพื่อพัฒนาวงการฟุตบอลบ่านเรา" บังยี กล่าว

นอกจากนี้ นายใหญ่ลูหหนังไทย ยังได้กล่าวถึงกรณีที่มีสำนักข่าวหนึ่ง เผยแพร่ข่าวว่า สมาคมฟุตบอลฯ เตรียมฟ้องกลับแฟนบอลที่ล่ารายชื่อ ซึ่งไม่มีมูลความจริงทั้งสิ้น อีกทั้งสื่อสำนักดังกล่าวยังมีเครือข่ายอยู่ทั่วโลก ทำให้ข่าวที่ถูกเผยแพร่ออกไปส่งผลในแง่ลบกับประเทศไทย ปลุกระดมให้เกิดการแบ่งฝ่าย ถือเป็นการกระทำที่เสื่อมเสียต่อผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งถ้าก้าวล่วงในข้อกฎหมาย ผมก็จะให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินการเอาผิดจนถึงที่สุด
กำลังโหลดความคิดเห็น