แก้ว พงษ์ประยูร นักมวยดีกรีเหรียญเงินโอลิมปิกเกมส์ ที่ตอนนี้ผันตัวไปเป็นโค้ชให้กับทัพนักกีฬาเสื้อกล้ามทีมชาติไทย ชุดลุยศึก เอเชียนเกมส์ หวั่นโดนพิษกรรมการเล่นงาน เนื่องจากการนับคะแนนแบบใหม่ที่จะไม่โชว์ผลระหว่างแข่งขัน
ความเคลื่อนไหวทัพนักกีฬามวยสากลสมัครเล่นทีมชาติไทย ก่อนไปลุยศึก เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 17 ณ เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ ระหว่างวันที่ 19 กันยายน - 4 ตุลาคม 2557
สำหรับนักกีฬาเอเชียนเกมส์ครั้งนี้มีไป 9 คน โดยแบ่งเป็นประเภทชาย 7 คน ได้แก่ 1. ส.ท.ธเนศ องค์จันทร์เต๊ะ 49 กก. 2. ส.อ.ฉัตรชัย บุตรดี ในรุ่น 53 กก. 3. ส.อ.ดอนชัย ทาธิ ในรุ่น 56 กก. 4. จ.อ.สายลม อาดี ในรุ่น 60 กก. 5. จ.ท.วุฒิชัย มาสุข ในรุ่น 64 กก. 6. ส.ท.อภิเชษฐ์ แสนสิทธิ์ ในรุ่น 69 กก. อส.ทพ.อนวัช ถองกระโทก ในรุ่น 81 กก. และ 2 คนในประเภทหญิง 1. อส.ทพ.โสภิดา สะทุมรัมย์ ในรุ่น 51 กก. 2. จ.ต.หญิงทัศมาลี ทองจันทร์ ในรุ่น 60 กก.
โดย แก้ว พงษ์ประยูร อดีตเหรียญเงิน โอลิมปิก 2012 ที่ตอนนี้ผันตัวมาเป็นผู้ฝึกสอน มวยสากลสมัครเล่น พร้อมกับเป็น 1 ในสตาฟฟ์โค้ช ที่จะเดินทางไปดูแลนักกีฬาชิงชัยใน “อินชอนเกมส์” ครั้งนี้ เผยว่าเป็นงานหนักสำหรับทีมชาติไทยแน่นอน เนื่องจากคู่แข่งที่น่ากลัวส่วนใหญ่ก็อยู่ในเอเชีย อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ฉัตรชัย บุตรดี ดอนชัย ทาธิ และวุฒิชัย มาสุข มีลุ้นเหรียญทองได้
“คิดว่าเอเชียนเกมส์ครั้งนี้ เป็นงานหนักแน่นอน เนื่องจากแต่ละคนที่เก่งๆส่วนมากก็อยู่ในแถบเอเชียทั้งหมด ซึ่งคู่แข่งที่น่ากลัวของเราน่าจะเป็น คาซักสถาน, อุซเบกิสถาน, จีน หรือแม้กระทั่งเจ้าภาพ เกาหลีใต้ก็ประมาทไม่ได้ โดยผมมองว่าเรามีลุ้นสามเหรียญทองจาก ฉัตรชัย บุตรดี ดอนชัย ทาธิ และ วุฒิชัย มาสุข” โค้ชเสื้อกล้ามทีมชาติไทย เผย
โค้ชวัย 34 ปี รายนี้ เคยโดนพิษจากการตัดสิน เมื่อครั้ง โอลิมปิกเกมส์ ที่กรุงลอนดอน เมื่อปี 2012 นัดชิงชนะเลิศกับ ซู ซิ หมิง นักมวยชาวจีน ทำให้หวั่นว่าในกีฬาที่ยิ่งใหญ่ระดับทวีปคราวนี้ รุ่นน้องจะโดนพิษการตัดสินเหมือนตน อีกทั้งมีการเปลี่ยนวิธีการนับคะแนน ที่ไม่โชว์คะแนนขณะแข่งขันอาจทำให้เป็นปัญหาได้
“มีหวั่นบ้างเหมือนกัน เนื่องจากตอนนี้เราเปลี่ยนกฎการนับคำแนนใหม่ ซึ่งมันจะไม่ขึ้นคะแนนโชว์เวลาได้แต้ม ทำให้เราไม่สามารถรู้ว่ากรรมการคนใดมีอคติ ยิ่งเฉพาะชาติเจ้าภาพและ คาซัสถาน ที่เขามีความสัมพันธ์อันดีกับสภามวยโลก ก็อาจจะใช้อำนาจตรงนี้ได้ ทั้งนี้ เราก็ต้องแก้ปัญหาคือการชกโดนเป้าให้ชัดเจน และไม่ให้เขาเข้าถึงตัวได้” แก้ว ทิ้งท้าย
อนึ่ง กติกามวยสากลสมัครเล่นแบบใหม่ นักมวยจะไม่สามารถสวมเฮดการ์ดขึ้นสังเวียนชกได้ โดยระหว่างชกจะมีกรรมการ 5 คน รอบสนามเพื่อให้คะแนนสรุประหว่างยก โดยมีคะแนนเต็ม 10 และตอนจบการแข่งขันคอมพิวเตอร์จะสุ่มคะแนนจาก 3 ใน 5 คน ขึ้นมาเพื่อให้ผู้ตัดสินรวมคะแนนและชี้ขาดว่านักมวยรายใดเป็นฝ่ายชนะ
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *