ดร.องอาจ ก่อสินค้า ประธานบริษัท ไทย พรีเมียร์ ลีก จำกัด (ทีพีแอล) แถลง 6 มาตรการเฝ้าระวังช่วง 6 แมตช์สุดท้ายของฤดูกาล 2014 แย้มมีรายงานว่าวงการพนันทั่วโลกมียอดการแทงผลไทยลีกในเลกสองสูงถึง 35 ล้านบาทต่อแมตช์
เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ที่ผ่านมา ดร.องอาจ ก่อสินค้า ประธานทีพีแอล ตั้งโต๊ะแถลง 6 มาตรการรับมือและเฝ้าระวังในช่วงโค้งสุดท้ายฤดูกาล 2014 ของศึกโตโยต้า ไทย พรีเมียร์ ลีก และ ยามาฮ่า ลีก วัน (ดิวิชัน 1) โดยเน้นไปที่การรักษาความปลอดภัย และการจับสลากผู้ตัดสิน
1. เกม ไทย พรีเมียร์ ลีก 3 นัดสุดท้าย จะปรับเวลามาเริ่มแข่งพร้อมกันที่ 18.00 น. ส่วน ยามาฮ่าลีกวัน 3 นัดสุดท้ายจะเริ่มพร้อมกันในเวลา 16.00 น. เพื่อไม่ให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบ
2. ทีพีแอล จะส่งผู้ควบคุมการแข่งขันไปตรวจสอบความพร้อมของทุกสนามก่อนเกมในเรื่องระบบรักษาความปลอดภัย โดยเฉพาะการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ และจะให้สโมสรเจ้าบ้านส่งแผนการรักษาความปลอดภัยมาให้ตรวจสอบก่อนแข่งขันทั้ง 6 แมตช์
3. ทีพีแอลจะออกกฎระเบียบเพิ่มเติมในการพิจารณาลงโทษให้มีความต่อเนื่องผูกพันไปถึงฤดูกาล 2015 โดยนักเตะที่โดนใบแดงนั้นในระเบียบระบุไว้แล้วว่าจะผลยาวไปถึงฤดูกาลหน้า ส่วนใบเหลืองระเบียบไม่มีระบุไว้แต่ทีพีแอลก็จะออกกฏทันทีให้ต่อเนื่องไปมีผลผูกพันในปีหน้าด้วย เพืิ่อป้องกันกรณีที่อาจจะมีการเล่นรุนแรงทิ้งทวนของผู้เล่นหรือเจ้าหน้าที่ทีม
4. ทาง ทีพีแอล ได้หารือกับ พลเอก ชิณเสน ทองโกมล ประธานคณะกรรมการแต่งตั้งผู้ตัดสินฯ แล้วตกลงที่จะดำเนินการตามที่สโมสรต้องการ โดยจะเปิดให้ทุกสโมสรมาร่วมเป็นพยานในการจับสลากงานมีตเดอะเพรสเพื่อเป็นความโปร่งใส
5. กรณีผู้ตัดสินต่างชาติ ซึ่งมีเสียงส่วนน้อยที่ต้องการ เราได้ประชุมกันแล้ว สโมสรราว 90% ยังอยากใช้ผู้ตัดสินไทยอยู่ เพราะเชื่อว่าผู้ตัดสินไทยมีฝีมือและสามารถตรวจสอบได้หลังการตัดสิน ซึ่งเราก็เห็นด้วยกับเสียงส่วนใหญ่ที่จะให้ใช้ผู้ตัดสินไทยต่อไป
6. เฝ้าระวังการล็อกผล โดยหลังจากทีพีแอลได้เซ็นสัญญากับสปอร์ตเรดาร์ เราได้รับข้อมูลว่า130 แมตช์ที่ผ่านมาตามรายงานของสปอร์ตเรดาร์ยังไม่มีความรุนแรงมากเท่าไร แต่ในเลกสองที่ผ่านมาวงการพนันทั่วโลกมียอดการแทงผลไทยพรีเมียร์ลีกต่อแมตช์สูงถึง 35 ล้านบาท ส่วนรายละเอียดที่มากกว่านี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะยังไม่มีหลักฐานในเรื่องของการล็อกผลว่ามีจริง