ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - หากเอ่ยถึง คามิโล วิลเลกัส นักกอล์ฟหนุ่มชาวโคลอมเบีย เชื่อแน่ว่า แฟนหลายคนต้องนึกถึงลีลาการอ่านไลน์หญ้าบนกรีนที่เป็นเอกลักษณ์คล้าย “สไปเดอร์แมน” ซึ่งตลอด 4 ปีที่ผ่านมาหลังจากสร้างชื่อในศึกเพลย์ออฟรายการ “เฟดเอ็กซ์ คัพ” เมื่อปี 2008 ชื่อของโปรรายนี้เงียบหายไปกับสายลม จนอันดับโลกจมไปถึงมือ 254 กระทั่งมาระเบิดฟอร์มคว้าแชมป์ พีจีเอ ทัวร์ อีกครั้ง รายการ “วินด์แฮม แชมเปียนชิป” เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา
ราวปี 2006 โปรกอล์ฟหนุ่มจากมหาวิทยาลัยฟลอริดา ได้รับการ์ดทัวร์ร่วมลงแข่งขันในศึก ยูเอส พีจีเอ ทัวร์ โดยพยายามสร้างจุดขายให้ตัวเองด้วยลีลาการอ่านไลน์หญ้าบนกรีนที่โดดเด่น แบบที่พยายามก้มตัวลงไปจนใบหน้าเกือบแนบติดพื้นและยืดขาหลังออกมาเพื่อการทรงตัวคล้ายกับแมงป่อง โดยสามารถมาคว้าแชมป์แรกได้สำเร็จในรายการ “บีเอ็มดับเบิลยู แชมเปียนชิป” เมื่อปี 2008
ในฤดูกาลดังกล่าวถือเป็นปีที่ยิ่งใหญ่และค่าควรแห่งการจดจำที่สุดสำหรับ วิลเลกัส เมื่อเขาโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมในศึกเพลย์ออฟ รายการ “เฟดเอ็กซ์ คัพ” คว้าแชมป์ 2 รายการอย่าง “บีเอ็มดับเบิลยู แชมเปียนชิป” และ “โคคา โคลา ทัวร์ ออฟ แชมเปียนชิป” ทว่าในท้ายที่สุด แต้มสะสมเป็นรอง วีเจย์ ซิงห์ นักกอล์ฟจากฟิจิไปเพียง 551 คะแนนเท่านั้น ชวดได้บิ๊กโบนัส 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 320 ล้านบาท) ไปอย่างน่าเสียดาย
หลังจากขึ้นสู่จุดสูงสุดในปี 2008 กราฟท์ชีวิตของ วิลเลกัส ก็ค่อยๆ รูดลงตามลำดับ เขาไม่มีแชมป์ติดมือในปี 2009 ก่อนที่ในซีซันถัดมาจะได้แชมป์รายการ “เดอะ ฮอนด้า คลาสสิก” ด้วยการทิ้งห่าง แอนโธนี คิม จากสหรัฐฯ ถึง 5 สโตรก แต่แล้วฟอร์มเก่งก็หายไปอีกและเมื่อไม่มีแชมป์เป็นเวลากว่า 2 ปี ทำให้เขาต้องเสียการ์ดทัวร์ ทั้ง ยูโรเปียน ทัวร์ และ พีจีเอ ทัวร์ ในที่สุด
อย่างไรก็ดี โปรวัย 32 ปี พยายามจะลงแข่งในรายการ “ควอลิฟาย สคูล” ช่วงก่อนเปิดฤดูกาลของพีจีเอ ทัวร์ เพื่อลุ้นการ์ดทัวร์ แต่ก็ทำไม่สำเร็จ ดังนั้นในฤดูกาล 2013 ก้านเหล็กผู้มีลีลาการดูไลน์หญ้าเป็นเอกลักษณ์จึงไม่มีชื่อลงแข่งใน พีจีเอ ทัวร์ ตามระเบียบ ได้รับโอกาสเพียงแค่คงแข่งในรายการที่สปอนเซอร์รับเชิญเท่านั้น ก่อนจะมาได้สิทธิ์กลับมาแข่งอีกครั้งในฤดูกาล 2014 ซึ่งเป็นปีที่ทำให้ วิลเลกัส กลับมาได้ชูโทรฟีแชมป์
โดยในรอบสุดท้าย ศึกกอล์ฟ พีจีเอ ทัวร์ “วินด์แฮม แชมเปียนชิป” ที่สนามเซดจ์ฟิลด์ คันทรี คลับ ในเมืองกรีนโบโร มลรัฐนอร์ธ แคโรไลนา วิลเลกัส ที่ผลงานดีมาตลอด 3 รอบแรก เก็บเพิ่มอีกถึง 6 อันเดอร์พาร์ เข้าป้ายคว้าแชมป์ด้วยสกอร์รวม 17 อันเดอร์พาร์ เฉือน บิลล์ ฮาส กับ เฟรดดี ยาค็อบสัน แค่ 1 สโตรก คว้าแชมป์พีจีเอ ทัวร์ รายการที่ 4 ต่อจาก บีเอ็มดับเบิลยูแชมเปียนชิป (2008) , เดอะ ทัวร์ แชมเปียนชิป (2008) , เดอะ ฮอนด้า คลาสสิค (2010) รับเงิน 9.54 แสนเหรียญสหรัฐ (28.6 ล้านบาท)
“ผมจะไม่ได้เป็นแชมป์รายการนี้ ถ้ามีใครสักคนทำเบอร์ดีได้ที่หลุม 18 และผมรู้สึกตื่นเต้นสุดๆ เมื่อพวกเขาเดินมาถึงหลุมสุดท้าย ผมหวังเป็นอย่างน้อยว่า ตัวเองจะได้มีโอกาสเพลย์ออฟลุ้นแชมป์ แต่ในที่สุดก็เป็นผมที่คว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ” วิลเลกัส ให้สัมภาษณ์หลังขึ้นนำแบบม้วนเดียวจบ
สำหรับรายการนี้ถือเป็นแมตช์สุดท้ายของฤดูกาลที่คิดคะแนนสะสม “เฟดเอ็กซ์ คัพ” ก่อนจะตัดตัว 125 คนแรกเข้าไปแข่งในศึก “เดอะ บาร์เคลย์ส” วันที่ 21 ส.ค. ซึ่งตำแหน่งแชมป์ทำให้ วิลเลกัส ได้คะแนนสะสมเพิ่มอีก 500 แต้ม มีเพิ่มเป็น 1,002 คะแนน ทะยานจาก 105 ขึ้นมาจบที่ 37 คว้าสิทธิ์ไปเล่นในศึกเพลย์ออฟแน่นอนแล้ว โดยหวังเดินตามรอยปี 2008 ที่เขาทำผลงานได้อย่างเริดหรู
ขณะเดียวกันแชมป์ที่สนาม เซดจ์ฟิลด์ คันทรี คลับ ในรอบ 4 ปี ยังเป็นเหมือนใบแจ้งเกิดใหม่ของ วิลเลกัส เพราะนอกจากจะได้การ์ดทัวร์แข่งแบบเต็มฤดูกาล เป็นเวลา 2 ปีแล้ว เขายังจะได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งเมเจอร์ “เดอะ มาสเตอร์ส ทัวร์นาเมนต์” ที่สนาม ออกัสตา เนชันแนล ในปี 2015 แบบอัตโนมัติด้วย เช่นเดียวกับอันดับโลก ที่พุ่งสูงถึง 142 อันดับจากมือ 254 โลก ขึ้นมารั้งมือ 112 โลกในปัจจุบัน
เรื่องโดย : ปภังกรณ์ นิลวรกุล
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *