คู่มือเชียร์ “อินชอนเกมส์” รู้ก่อนลุยโดย “บิ๊กต้อม”

ASTV ผู้จัดการรายวัน – นับถอยหลังอีกเพียง 1 เดือน มหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทวีปเอเชีย “เอเชียน เกมส์” ครั้งที่ 17 ณ เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ ก็จะได้ฤกษ์เปิดฉากเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน ถึง 4 ตุลาคม นี้ เรียกว่าน่าจะดึงดูดความสนใจจากแฟนกีฬาชาวไทยให้บินข้ามน้ำข้ามทะเลไปเชียร์ถึงขอบสนามได้ไม่น้อย เพราะถือเป็นดินแดนยอดฮิตที่หลายคนใฝ่ฝันมาเยือนสักครั้ง ทว่า นายธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้านักกีฬาไทย ก็ได้แนะนำและเตือนกองเชียร์ทุกคนอย่าลืมคำนึงถึงความปลอดภัย รวมถึงเรื่องการเตรียมตัวต่างๆ เปรียบเสมือนคู่มือก่อนออกเดินทาง

ศึก “อินชอน เกมส์” มีตัวแทนนักกีฬาไทยบินลัดฟ้าไปล่าเหรียญรางวัลราว 522 คน จาก 33 ชนิดกีฬาที่ส่งแข่งขัน ไม่นับรวมกองเชียร์อีกจำนวนไม่น้อยที่ตามไปให้กำลังใจถึงแดนกิมจิ ดังนั้น จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องสนทนากับผู้คนเจ้าถิ่นโดยเฉพาะยามไปเที่ยวหรือสั่งอาหารรับประทาน โดย “บิ๊กต้อม” เปิดเผยว่าชาวเมืองอินชอน จะเน้นใช้ภาษาท้องถิ่น หรือจีนมากกว่าภาษาอังกฤษ แตกต่างจากกรุงโซล ที่เป็นเมืองใหญ่และมีคนพูดภาษาอังกฤษได้มากมาย หากเป็นไปได้ควรศึกษาภาษาจีนหรือเกาหลีขั้นพื้นฐานบ้างก็น่าจะช่วยให้เข้าใจกันมากขึ้น

ถัดมาที่อุปกรณ์สื่อสารอย่างโทรศัพท์มือถือ หากต้องการนำติดตัวมาจากเมืองไทยก็ต้องมีการขอเปลี่ยนระบบกับเจ้าของเครือข่ายมาใช้ระบบ CDMA ของเจ้าถิ่นเสียก่อน เพื่อจะได้ใช้พูดคุยนัดแนะกับเพื่อนๆ หรือใช้วิธีเช่าโทรศัพท์จากสนามบินก็ย่อมได้ เพราะราคาไม่แพงมาก ขณะที่เครือข่ายไวไฟสาธารณะก็เป็นอีกวิธีแนะนำสำหรับใครที่พกแท็บเล็ตมาเล่นโซเชียล เน็ตเวิร์ก เพราะมีบางเครือข่ายที่เปิดให้บริการใช้กันฟรีๆ ทั่วประเทศ

ขณะที่เรื่องของความปลอดภัย แม้เจ้าภาพยืนยันว่าจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลทั้งในและนอกสนาม แต่หัวหน้านักกีฬาไทย ก็เตือนแฟนกีฬาทุกคนให้ระมัดระวังตัวเอง เพราะถึง อินชอน เป็นเมืองเงียบสงบแต่ก็มีกลุ่มมิจฉาชีพแฝงตัวอยู่ โดยกล่าวว่า “อยากให้ทุกคนระวังตัวเวลาไปไหนมาไหนคนเดียว เพราะมีโอกาสเจอกับพวกมิจฉาชีพเข้ามาตีสนิททำทีเป็นไกด์พาไปเที่ยว หากพลาดเดินตามหรือขึ้นรถไปก็อาจถูกจี้ชิงทรัพย์แล้วนำไปปล่อยในที่ห่างไกล ทางที่ดีขอให้เกาะกลุ่มกันไว้ หรือขอข้อมูลท่องเที่ยวจากสถานทูตไทยในเกาหลีใต้มาก่อนเพื่อป้องกันการหลงทาง”

ต่อมาที่เรื่องการเดินทางซึ่งมีระบบขนส่งสาธารณะให้ใช้ทั้ง รถโดยสารประจำทาง, รถไฟฟ้าใต้ดินที่ไปได้ทั่วประเทศ รวมถึงรถแท็กซีที่วิ่งตามท้องถนนมากมายหลายสีหลายเกรด ทว่า “บิ๊กต้อม” แนะนำให้หลีกเลี่ยง “แท็กซีสีดำ” ที่ใช้รถหรูมาบริการผู้โดยสารเพราะค่าโดยสารจะแพงเป็น 2 เท่ากว่าคันปกติ และเมื่อเข้าไปนั่งแล้วก็อย่าซุกซนเล่นเครื่องปรับอากาศหรือแตะต้องส่วนอื่นๆ ในรถเพราะอาจทำให้ผู้ขับไม่พอใจถึงขั้นโดนต่อว่าอย่างรุนแรง

ส่วนเรื่องอาหารการกิน เป็นที่รู้กันทั่วว่าผู้คนเกาหลีนอกจากนิยมทานเนื้อหมูหรือเนื้อวัวแล้ว เนื้อสุนัขก็เป็นอีกหนึ่งเมนูยอดฮิตที่ทานกันเป็นประจำและมีอยู่ทั่วตามร้านอาหารต่างๆ ซึ่ง นายธนา ก็ระบุวิธีสังเกตเอาไว้สำหรับใครที่ไม่อยากทดลองหม่ำ “น้องหมา” ว่า “ส่วนใหญ่ร้านอาหารจะมีการติดป้ายชัดเจนว่ามีเนื้อชนิดใดบ้าง แต่ถ้าเป็นร้านข้างทางจะไม่มีแจ้งไว้ ดังนั้น วิธีสังเกตคือเนื้อสุนัขจะมีสีแดงคล้ายกับเนื้อวัว แต่ลายไขมันเล็กกว่าและราคาสูงจนทำหลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเนื้อวัวเกรดดี ขณะเดียวกัน ก็มีกลิ่นสาบแรงกว่าเนื้ออื่นๆ ดังนั้นต้องสังเกตให้ดี”

สุดท้าย หัวหน้านักกีฬาวัย 60 ปี เชื่อมั่นว่าการแข่งขัน “อินชอนเกมส์” จะประสบความสำเร็จด้วยดี “เกาหลีใต้ เคยมีประสบการณ์จัดกีฬาระดับ เอเชียน เกมส์ มาแล้วเมื่อปี 1986 และ โอลิมปิก ปี 1988 ทำให้มีความพร้อมสูง รวมถึงเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของเกาหลีใต้ และ เกาหลีเหนือ ที่หลายคนกังวลก่อนหน้าก็ดูแน่นแฟ้นขึ้นเพราะอีกฝ่ายก็ส่งนักกีฬามาแข่งด้วยเช่นกัน ซึ่งผมรู้สึกยินดีมากหากมีแฟนๆ บินมาให้กำลังใจนักกีฬาของเรา และมั่นใจว่าเจ้าภาพจะทำให้ทุกคนความประทับใจกับความมุ่งมั่นและทุ่มเทในการจัดแข่งขันครั้งนี้แน่นอน”

* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *