xs
xsm
sm
md
lg

“บาโล” โขกดับสิงโต เลียนเชือดหวิว 2-1

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บาโล โหม่งประตูชัย
มาริโอ บาโลเตลลี ศูนย์หน้าจอมป่วนจาก เอซี มิลาน สวมบทฮีโร่ โหม่งประตูชัยให้ “อัซซูรี” อิตาลี ประเดิมสนามเชือด “สิงโตคำราม” อังกฤษ แบบหืดจับ 2-1 ในศึก ฟุตบอลโลก 2014 รอบแรก กลุ่มดี ช่วงเช้ามืดวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา

ฟุตบอลโลก 2014 รอบแรก กลุ่มดี
อังกฤษ 2-1 อิตาลี

รอย ฮอดจ์สัน เทรนเนอร์ อังกฤษ วาง แดเนียล สเตอร์ริดจ์ รับบทศูนย์หน้าตัวเป้า ประสานงาน เวย์น รูนีย์, แดนนี เวลเบ็ค และ ราฮีม สเตอร์ลิง รับมือ อิตาลี ซึ่งเลือกใช้ ซัลวาตอเร ซิริกู เฝ้าเสาแทน จิอันลุยจิ บุฟฟอน นายทวารกัปตันทีม ที่บาดเจ็บข้อเท้า และ อันเดรีย ปิร์โล, มาร์โก แวร์รัตติ กับ ดานิเอเล เด รอสซี คุมกลาง และ มาริโอ บาโลเตลลี ล่าตาข่าย

เสียงนกหวีดดังขึ้นเพียง 5 นาที อังกฤษ ทักทายหวาดเสียว ราฮีม สเตอร์ลิง เลี้ยงจี้ตัวประกบมาหน้าเขตโทษด้านขวา บอลถูกสกัดเข้าทาง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน วิ่งมาตะบันเรียดระยะประมาณ 25 หลา ซัลวาตอเร ซิริกู ต้องทุบทิ้ง ทั้งคู่ต่างเล่นเกมเร็วแลกแบบหมัดต่อหมัด แต่จังหวะจบสกอร์ยังหวังผลกันไม่ได้จนกระทั่งนาที 19 อิตาลี มีลุ้น อันโตนิโอ คานเดรวา กดระยะประมาณ 30 หลา กลางประตู โจ ฮาร์ท รับกระฉอก แต่ยังตามตะปบจังหวะสอง

เข้าสู่นาที 35 แชมป์โลก 4 สมัย ขึ้นนำ มาร์โก แวร์รัตติ รับบอลจังหวะเตะมุมสั้นกราบขวา ไหลย้อนมานอกเขตโทษ อันเดรีย ปิร์โล ข้ามหลอกมาถึง เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ ตั้งป้อมซัดระยะประมาณ 25 หลา กลางประตู บอลพุ่งเรียดทะลุบล็อกเสียบมุมซ้ายมืออย่างสุดสวย ถัดมา 2 นาที “สิงโตคำราม” ทวงคืนทันควัน เวย์น รูนีย์ หลุดมาทางกราบซ้าย แล้วบรรจงหยอดมาเสาสอง แดเนียลฃ สเตอร์ริดจ์ แปจ่อๆ ผ่านมือ ซัลวาตอเร ซิริกู ตุงตาข่าย

ทีมของ เซซาเร ปรันเดลลี ค่อยๆ ต่อบอลสั้นเพื่อความแน่นอน บดหนักขึ้นเรื่อยๆ จนน่าขึ้นนำแบบสุดๆ ถึง 2 ครั้งช่วงทดเจ็บนาทีที่ 2 อันเดรีย ปิร์โล จ่ายมาทะลุช่องให้ มาริโอ บาโลเตลลี หลุดเข้าเขตโทษด้านซ้าย แล้วหลอกชิปมุมแคบ บอลกำลังจะเสียบใต้คาน ฟิล จากิลกา ถอยมาโขกทิ้งออกหลัง ถัดมา 1 นาที เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ หยอดมาเขตโทษด้านซ้ายให้ อันโตนิโอ คันเดรวา แต่งหาจังหวะ แล้วยิงชนโคนเสาแรกเต็มๆ ครบ 45 นาที เสมอกัน 1-1

ลุยต่อครึ่งหลัง ทีมของ รอย ฮอดจ์สัน เปิดฉากลุยทันที ก่อนได้เสียวนาที 49 แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ลากตัดจากขวาเข้าใน แล้วตะบันด้วยซ้ายข้างถนัด ซัลวาตอเร ซิริกู ล้มตัวปัดไว้ได้ ต่อมา 2 นาที กองเชียร์จากแดนมะกะโรนี ส่งเสียงเฮ อันโตนิโอ คันเดรวา เติมมาทางขวา ล็อกหลบ เลห์ตัน เบนส์ แล้วโยนมาเสาสองให้ มาริโอ บาโลเตลลี โขกกดลงพื้นผ่าน โจ ฮาร์ท ตุงตาข่าย แชมป์โลก 1 สมัย เร่งเต็มสูบนาที 54 เวย์น รูนีย์ กระชากออกขวา แล้วยิงหักข้อระยะประมาณ 20 หลา หลุดเสาไกล

พลพรรค “เดอะ ทรี ไลออนส์” ยังไม่ละความพยายาม นาที 61 แดเนียล สเตอร์ริดจ์ บรรจงปั่นไซด์โป้งด้วยซ้าย เฉี่ยวสามเหลี่ยมขวามือ อีก 1 นาทีให้หลัง เลห์ตัน เบนส์ จ่ายให้ รูนีย์ รับบอลทางเขตโทษด้านซ้าย แต่งเข้าใน ก่อนยิงหักข้อถากโคนเสาแรกอย่างน่าเสียดาย ต่อมานาที 64 รอสส์ บาร์คลีย์ ตัวสำรอง (แทน แดนนี เวลเบ็ค) เลี้ยงจี้เข้าเขตโทษด้านซ้าย แต่งออกขวา แล้วตะบันเรียดก็ยังไม่ผ่านมือ ซัลวาตอเร ซิริกู

ล่วงเลยมานาที 77 แข้งเมืองผู้ดี มีโอกาสอีกครั้ง เลห์ตัน เบนส์ แบ็กซ้าย ปั่นฟรีคิกหน้าเขตโทษด้านขวา บอลโค้งข้ามกำแพงกำลังจะเสียบมุมเสาแรก ซัลวาตอเร ซิริกู ป้องกันได้ ต่อมานาที 85 สตีเวน เจอร์ราร์ด ลองปั่นฟรีคิกระยะ 20 หลา หน้าเขตโทษด้านซ้ายข้ามคาน ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 4 รองแชมป์ยูโร 2012 หวิดตอกฝาโลง อันเดรีย ปิร์โล ซัดฟรีคิกระยะประมาณ 30 หลา บอลติดไซด์ก้อยชนคาน จบเกม อิตาลี เอาชนะไป 2-1 เก็บ 3 แต้ม จาก 1 นัด ยึดอันดับ 2 ของสาย เนื่องจากผลต่างประตูเป็นรอง คอสตาริกา

รายชื่อ 11 ตัวจริง
อังกฤษ : โจ ฮาร์ท, เกล็น จอห์นสัน, เลห์ตัน เบนส์, แกรี เคฮิลล์, ฟิล จากิลกา, สตีเวน เจอร์ราร์ด, เวย์น รูนีย์, แดนนี เวลเบ็ค, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ราฮีม สเตอร์ลิง, แดเนียล สเตอร์ริดจ์
อิตาลี : ซัลวาตอเร ซิริกู, จอร์โจ คิเอลลินี, มัตเตโอ ดาร์เมียน, อันเดรีย บาร์ซาญี, กาเบรียล ปาเล็ตตา, ดานิเอเล เด รอสซี, อันเดรีย ปิร์โล, มาร์โก แวร์รัตติ, อันโตนิโอ คันเดรวา, เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ, มาริโอ บาโลเตลลี

* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *


กำลังโหลดความคิดเห็น