ดีเอโก โกดิน เซ็นเตอร์แบ็กกัปตันทีม โหม่งประตูชัยท้ายเกม ช่วย “จอมโหด” อุรุกวัย เชือด “อัซซูรี” อิตาลี ซึ่งเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน หวุดหวิด 1-0 ตีตั๋วสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ตาม คอสตา ริกา ในศึกฟุตบอลโกล 2014 ที่ประเทศบราซิล เมื่อคืนวันอังคารที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา
ฟุตบอลโลก 2014 รอบแรก กลุ่มดี
อิตาลี 0-1 อุรุกวัย
ออสการ์ วอชิงตัน ตาบาเรซ เทรนเนอร์ อุรุกวัย ดร็อป ดีเอโก ฟอร์ลัน ดาวยิงตัวเก๋า เหลือเพียง หลุยส์ ซัวเรซ จับคู่ เอดินสัน คาวานี ล่าตาข่าย หมายมั่นปั้นมือเก็บชัยชนะเพียงสถานเดียว เพื่อเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย รับมือ อิตาลี นำโดย มาริโอ บาโลเตลลี กับ ชิโร อิมโมบิเล คู่หูแดนหน้า และ อันเดรีย ปิร์โล จอมทัพ ซึ่งต้องการแค่ผลเสมอ
เสียงนกหวีดดังขึ้น อิตาลี ค่อยๆ ต่อบอลสั้นลำเลียงเกมบุก ก่อนมีลุ้นนาที 12 อันเดรีย ปิร์โล ตะบันฟรีคิกระยะประมาณ 30 หลา บอลพุ่งโด่งมากลางประตู เฟร์นานโด มุสเลรา ต้องปัดข้ามคาน ต่อมา อุรุกวัย อาศัยเกมฉาบฉวยตอบโต้มาบ้าง นาที 33 หลุยส์ ซัวเรซ ทำชิ่งกับ นิโคลัส โลเดโร หลุดมาถึงสุดเส้นหลังในเขตโทษด้านซ้าย ก่อนยิงหักข้อติดเซฟ จิอันลุยจิ บุฟฟอน บอลกระดอนมาเข้าทาง โลเดโร วอลเลย์ซ้ำก็ยังไม่ผ่านมือ นายทวารจาก ยูเวนตุส ช่วงท้ายเกมผลัดกันรุกและรับ แต่ไม่มีช็อตหวาดเสียวเพิ่ม ครบ 45 นาที เสมอกัน 0-0
ลุยต่อครึ่งหลัง “จอมโหด” เริ่มขยับขึ้นสูง หวังปลดล็อก ก่อนพลาดโอกาสทองนาที 58 หลุยส์ ซัวเรซ ยกบอลเข้าเขตโทษด้านซ้ายให้ คริสเตียน โรดริเกวซ ฮาล์ฟวอลเลย์ด้วยซ้ายหลุดเสาไกล ถัดมา 1 นาที ทีมของ เซซาเร ปรันเดลลี ต้องเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ ยันใส่หน้าแข้ง เอจิดิโอ อาเรวาโล ผู้ตัดสินชักใบแดงไล่ออกจากสนาม
แชมป์โลก 2 สมัย รุกแบบเต็มสูบ และน่าขึ้นนำแบบสุดๆ นาที 65 ซัวเรซ เก็บตกจาก เอดินสัน คาวานี สับไกบริเวณหัวกะโหลกติดบล็อก ลากเข้าเขตโทษ ก่อนดีดไซด์ก้อย บุฟฟอน พุ่งปัดไว้ได้ ก่อนความพยายามสัมฤทธิ์ผลนาที 81 นิโคลัส โลเดโร เปิดเตะมุมกราบขวามาให้ ดีเอโก โกดิน โขกกดลงพื้นซุกก้นตาข่าย พลพรรค “อัซซูรี” เปิดหน้าแลก นาที 85 ปิร์โล ปั่นฟรีคิก ระยะประมาณ 30 หลา หน้าเขตโทษด้านซ้าย แฉลบกำแพงเฉี่ยวเสาแรก จบเกม อุรุกวัย เอาชนะไป 1-0 เก็บเพิ่มเป็น 6 แต้ม จาก 3 นัด ขึ้นอันดับ 2 ของสาย เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย
ส่วนผลการแข่งขันอีกคู่หนึ่ง “กล้วยหอม” คอสตา ริกา ซึ่งเข้ารอบน็อกเอาต์แน่นอนแล้ว เสมอกับ “สิงโตคำราม” อังกฤษ แบบไม่มีสกอร์ แต่ก็ยังเพียงพอครองแชมป์กลุ่ม ดี โดยเก็บ 7 แต้ม จาก 3 นัด ส่วน ทีมของ รอย ฮอดจ์สัน แพ็กกระเป๋ากลับบ้านแบบไม่มีชัยชนะติดมือ
รายชื่อ 11 ตัวจริง
อิตาลี : จิอันลุยจิ บุฟฟอน, จอร์โจ คิเอลลินี, อันเดรีย บาร์ซาญี, เลโอนาร์โด โบนุชชี, มัตเตีย เดอ ชีโญ, มัตเตโอ ดาร์เมียน, เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ, อันเดรีย ปิร์โล, มาร์โก แวร์รัตติ, มาริโอ บาโลเตลลี, ชิโร อิมโมบิเล
อุรุกวัย : เฟร์นานโด มุสเลรา, ดีเอโก โกดิน, อัลบาโร เปเรรา, โฆเซ ฆิมิเนซ, มาร์ติน คาร์เซเรส, คริสเตียน โรดริเกวซ, นิโคลัส โลเดโร, เอจิดิโอ อาเรวาโล, อัลบาโร กอนซาเลซ, หลุยส์ ซัวเรซ, เอดินสัน คาวานี
ฟุตบอลโลก 2014 รอบแรก กลุ่มดี
อิตาลี 0-1 อุรุกวัย
ออสการ์ วอชิงตัน ตาบาเรซ เทรนเนอร์ อุรุกวัย ดร็อป ดีเอโก ฟอร์ลัน ดาวยิงตัวเก๋า เหลือเพียง หลุยส์ ซัวเรซ จับคู่ เอดินสัน คาวานี ล่าตาข่าย หมายมั่นปั้นมือเก็บชัยชนะเพียงสถานเดียว เพื่อเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย รับมือ อิตาลี นำโดย มาริโอ บาโลเตลลี กับ ชิโร อิมโมบิเล คู่หูแดนหน้า และ อันเดรีย ปิร์โล จอมทัพ ซึ่งต้องการแค่ผลเสมอ
เสียงนกหวีดดังขึ้น อิตาลี ค่อยๆ ต่อบอลสั้นลำเลียงเกมบุก ก่อนมีลุ้นนาที 12 อันเดรีย ปิร์โล ตะบันฟรีคิกระยะประมาณ 30 หลา บอลพุ่งโด่งมากลางประตู เฟร์นานโด มุสเลรา ต้องปัดข้ามคาน ต่อมา อุรุกวัย อาศัยเกมฉาบฉวยตอบโต้มาบ้าง นาที 33 หลุยส์ ซัวเรซ ทำชิ่งกับ นิโคลัส โลเดโร หลุดมาถึงสุดเส้นหลังในเขตโทษด้านซ้าย ก่อนยิงหักข้อติดเซฟ จิอันลุยจิ บุฟฟอน บอลกระดอนมาเข้าทาง โลเดโร วอลเลย์ซ้ำก็ยังไม่ผ่านมือ นายทวารจาก ยูเวนตุส ช่วงท้ายเกมผลัดกันรุกและรับ แต่ไม่มีช็อตหวาดเสียวเพิ่ม ครบ 45 นาที เสมอกัน 0-0
ลุยต่อครึ่งหลัง “จอมโหด” เริ่มขยับขึ้นสูง หวังปลดล็อก ก่อนพลาดโอกาสทองนาที 58 หลุยส์ ซัวเรซ ยกบอลเข้าเขตโทษด้านซ้ายให้ คริสเตียน โรดริเกวซ ฮาล์ฟวอลเลย์ด้วยซ้ายหลุดเสาไกล ถัดมา 1 นาที ทีมของ เซซาเร ปรันเดลลี ต้องเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ ยันใส่หน้าแข้ง เอจิดิโอ อาเรวาโล ผู้ตัดสินชักใบแดงไล่ออกจากสนาม
แชมป์โลก 2 สมัย รุกแบบเต็มสูบ และน่าขึ้นนำแบบสุดๆ นาที 65 ซัวเรซ เก็บตกจาก เอดินสัน คาวานี สับไกบริเวณหัวกะโหลกติดบล็อก ลากเข้าเขตโทษ ก่อนดีดไซด์ก้อย บุฟฟอน พุ่งปัดไว้ได้ ก่อนความพยายามสัมฤทธิ์ผลนาที 81 นิโคลัส โลเดโร เปิดเตะมุมกราบขวามาให้ ดีเอโก โกดิน โขกกดลงพื้นซุกก้นตาข่าย พลพรรค “อัซซูรี” เปิดหน้าแลก นาที 85 ปิร์โล ปั่นฟรีคิก ระยะประมาณ 30 หลา หน้าเขตโทษด้านซ้าย แฉลบกำแพงเฉี่ยวเสาแรก จบเกม อุรุกวัย เอาชนะไป 1-0 เก็บเพิ่มเป็น 6 แต้ม จาก 3 นัด ขึ้นอันดับ 2 ของสาย เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย
ส่วนผลการแข่งขันอีกคู่หนึ่ง “กล้วยหอม” คอสตา ริกา ซึ่งเข้ารอบน็อกเอาต์แน่นอนแล้ว เสมอกับ “สิงโตคำราม” อังกฤษ แบบไม่มีสกอร์ แต่ก็ยังเพียงพอครองแชมป์กลุ่ม ดี โดยเก็บ 7 แต้ม จาก 3 นัด ส่วน ทีมของ รอย ฮอดจ์สัน แพ็กกระเป๋ากลับบ้านแบบไม่มีชัยชนะติดมือ
รายชื่อ 11 ตัวจริง
อิตาลี : จิอันลุยจิ บุฟฟอน, จอร์โจ คิเอลลินี, อันเดรีย บาร์ซาญี, เลโอนาร์โด โบนุชชี, มัตเตีย เดอ ชีโญ, มัตเตโอ ดาร์เมียน, เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ, อันเดรีย ปิร์โล, มาร์โก แวร์รัตติ, มาริโอ บาโลเตลลี, ชิโร อิมโมบิเล
อุรุกวัย : เฟร์นานโด มุสเลรา, ดีเอโก โกดิน, อัลบาโร เปเรรา, โฆเซ ฆิมิเนซ, มาร์ติน คาร์เซเรส, คริสเตียน โรดริเกวซ, นิโคลัส โลเดโร, เอจิดิโอ อาเรวาโล, อัลบาโร กอนซาเลซ, หลุยส์ ซัวเรซ, เอดินสัน คาวานี