ศึกเทนนิส "เฟรนช์ โอเพน" เดินทางมาถึงรอบชิงชนะเลิศแล้ว เป็นการพบกันระหว่าง มาเรีย ชาราโปวา สาวสวยมือ 7 จากรัสเซีย ปะทะ ซิโมนา ฮาเลป มือ 4 จากโรมาเนีย ถึงแม้ว่าสถิติที่เคยพบกันมา 3 ครั้งนั้น "มาเรีย" จะกวาดชัยเรียบ แต่ครั้งนี้ สาวแดนผีดิบคงไม่ยอมแน่นอน เพราะมีแชมป์แกรนด์ สแลมเป็นเดิมพัน งานนี้ถือเป็นศึกที่สนุกแน่นอน เพราะต่างฝ่ายต่างก็มีฟอร์มการเล่นที่ร้อนแรงทั้งคู่
รอบที่ผ่านมา "นางฟ้ามาเรีย" ทำศึก "สงครามนางฟ้า" ล้มยูจีนี บูชาร์ด มือ 18 จากแคนาดา 2-1 เซต 4-6,7-5,6-2 ชนิดที่เรียกว่า คนดูลุ้นจนหัวใจแทบวาย เพราะเกมสูสีกันมาก แต่ก็ต้องยอมรับว่า สามรอบที่ผ่านมาตั้งแต่รอบสี่ รอบห้า หรือแม้กระทั่งรอบรองชนะเลิศ เธอจะเปรียบเสมือนเครื่องดีเซล ที่ร้อนช้า กล่าวคือมักจะเพลี่ยงพล้ำไปก่อนในเซตแรก ก่อนที่จะเอาคืนได้ในอีกสองเซตถัดมา เรียกว่ามีความเป็นนักสู้อยู่เต็มตัว ส่วนฮาเลปก็ไม่ธรรมดา เอาชนะอันเดรีย เพตโควิช มือ 28 จากเยอรมัน 2 เซตรวด 6-2,7-6(7-4) และนี่คือ 10 เรื่องที่ต้องรู้ ก่อนเกมที่โรลังด์ การ์รอส นัดชิง ประเภทหญิงเดี่ยว จะเริ่มต้นขึ้น
1. "ชาราโปวา" ทำสถิติเสียเซตแรกไปก่อน แต่พลิกกลับมาชนะได้ 3 เกมติดต่อกัน
หลังจากที่เธอพ่ายไปก่อนเซตแรก 4-6 แน่นอนว่า ถ้าเธอพลาดอีกเซต จะต้องเดินออกจาก "โรลังด์ การ์รอส" ทันที แต่เธอก็คัมแบคกลับมาได้สำเร็จด้วยชัยชนะในเซตที่สอง 7-5 อาจจะเห็นว่า อดีตมือ 1 โลกพลิกสถานการณ์กลับมาชนะได้บ่อยครั้ง แต่นี่คือครั้งแรกของชาราโปวา ที่เสียเซตแรกไปก่อน และพลิกกลับมาชนะได้ 3 แมตช์ติดต่อกัน
2. ฮาเลปไม่เสียเซตเลยในแกรนด์ สแลม คนแรกในรอบ 17 ปี
ฟอร์มการเล่นอันร้อนแรงของฮาเลป ไม่ได้มาเพราะโชคช่วยแน่นอน การปราบสาวเยอรมันอย่างเพตโควิชไป 2-0 เซต 6-2,4-6(7-4) ทำให้เจ้าตัวเป็นสาวคนแรกในรอบ 17 ปี ที่สามารถเข้าชิงแกรนด์ สแลมได้โดยไม่เสียเซตเลยตลอดทั้งรายการ ซึ่งคนล่าสุดที่ทำได้คือ มาร์ตินา ฮิงกิส ในออสเตรเลียน โอเพน ปี 1997 (ซึ่งปีนั้นฮิงกิสได้แชมป์แบบไม่เสียเซตเลย)
3. ถ้าชาราโปวาได้แชมป์ จะขึ้นมาอยู่ที่ 5 ของโลกทันที
ตอนนี้สาวรัสเซียรั้งอันดับที่ 8 ของโลกอยู่ แต่ถ้าเธอสามารถคว้าแชมป์มาครองได้ จะกระโดดขึ้นมาอยู่อันดับ 5 ทันที แต่ถ้าอย่างแย่สุด อกหักพลาดไป ก็ยังได้เลื่อนมาอยู่อันดับ 6 ถือว่าไม่เลวร้ายเท่าใดนัก
4. ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ ฮาเลปจะได้ขึ้นมาเป็นมือ 3 ของโลกแน่นอน
เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เธอกลายเป็นนักเทนนิสโรมาเนียคนแรกที่มีอันดับสูงสุดในประวัติศาสตร์ของ WTA (คนเก่าคืออิรินา สปิร์เลีย เคยทำไว้อันดับ 7 ในปี 1997) หลังจากที่ก้าวขึ้นจากอันดับ 7 มารั้งอันดับ 5 และหลังจากที่รายการโรม มาสเตอร์ เธอก็ดีดตัวเองมาอยู่อันดับ 4 ได้สำเร็จ และหลังจากเฟรนช์ โอเพนจบลง ไม่ว่าจะอย่างไร นักหวดสาววัย 22 ปีจะได้ขึ้นมาอยู่ในท็อป 3 แน่นอน ถือเป็นพัฒนาการที่น่าเหลือเชื่อ เมื่อมองย้อนกลับไปเมื่อต้นปีที่แล้ว เธอยังอยู่อันดับที่ 57 ของโลกอยู่เลย
5. ไม่ว่าใครก็ตาม ที่ชนะนัดนี้ จะเป็นอันดับ 1 ใน Road To Singapore ทันที
ถ้าชาราโปวาชนะ จะได้ขึ้นเป็นเบอร์ 1 ส่วนฮาเลปเป็นเบอร์ 3 แต่ถ้าผลกลับกัน ฮาเลปจะได้นั่งอันดับ 1 แทน โดยมีชาราโปวาตามมาเป็นที่สอง นี่คือก้าวที่สำคัญในการเข้าร่วมศึก BNP Paribas WTA Finals Singapore ซึ่งจะคัดเลือก 8 อันดับนักหวดที่มีผลงานดีที่สุดในปี มาร่วมชิงชัยในทัวร์นาเมนต์สุดท้ายของปี โดยถือเป็นปีแรกที่จัดที่สิงคโปรอีกด้วย โดยรายการนี้จะหมุนเวียนเปลี่ยนประเทศเจ้าภาพทุก 4 ปี ซึ่งสาวรัสเซียเคยได้แชมป์นี้มาแล้วเมื่อปี 2004
6. ถ้าชาราโปวาได้แชมป์ อันดับเงินรางวัลสะสมของเธอจะขึ้นมาอยู่ที่ 2 ทันที
ตอนนี้สาวรัสเซียมียอดเงินรางวัลทั้งหมดอยู่อันดับ 3 ซึ่งถ้าเธอสามารถคว้าแชมป์รายการนี้ได้ จะขึ้นมาที่ 2 ทันที ตามหลังวีนัส วิลเลียมส์ เพียงคนเดียวเท่านั้น
7. ชาราโปวามีประสบการณ์ล้นเหลือในนัดชิงฯแกรนด์ สแลม
การเข้าชิงชนะเลิศรายการแกรนด์ สแลมของเธอในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่ 9 แล้ว ซึ่งได้แชมป์มาทั้งสิ้น 4 รายการ ได้แก่วิมเบิลดันปี 2004, ยูเอส โอเพนปี 2006, ออสเตรเลียน โอเพนปี 2008 และเฟรนช์ โอเพนปี 2012
8. ถ้า "นางฟ้ามาเรีย" ชนะ จะเป็นผู้เล่นคนที่ 12 ใน Open Era ที่ได้แกรนด์ สแลม 5 ครั้งขึ้นไป
11 คนก่อนหน้านี้ที่ได้แกรนด์ สแลม 5 ครั้งหรือมากกว่า ได้แก่ สเตฟฟี กราฟ (22), คริส อีเวิร์ท (18), มาร์ตินา นาฟราติโนวา (18), เซเรนา วิลเลียมส์ (17), มาร์กาเรต คอร์ต (11), โมนิกา เซเลส (9), บิลลี จีน คิง (8), อีโวนเน กูลากอง คาวเลย์ (7), วีนัส วิลเลียมส์ (7), จัสติน เอเแนง (7) และ มาร์ตินา ฮิงกิส (5)
9. มีผู้เล่นเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่เกิดหลังปี 1990 ที่สามารถคว้าแชมป์แกรนด์ สแลมได้ ทั้งประเภทชายและหญิง
คนนั้นคือเปตรา ควิโตวา จากเชค ซึ่งได้แชมป์วิมเบิลดันปี 2011 ในขณะที่อายุเพียง 21 ปี เท่านั้น (เกิดปี 1990) ซึ่งถ้าฮาเลปคว้าแชมป์ได้ จะเป็นคนที่สองซึ่งเกิดหลังปี 1990 และเป็นคนแรกที่เกิดปี 1991 ที่ชนะเลิศรายการแกรนด์ สแลม ทันที
10. สถิติเก่า "ชาราโปวา" ข่ม "ฮาเลป" มิด
ที่ผ่านมาคู่นี้เคยดวลกันมาทั้งสิ้น 3 ครั้ง ซึ่งแน่นอนว่าสาวสวยวัย 27 ปี ซิวชัยได้ทั้งหมด รวมถึงล่าสุด ที่เพิ่งเจอกันในรายการมาดริด มาสเตอร์ รอบชิงฯ เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งอดีตมือ 1 ของโลกย้ำแค้นไปได้อีก 2-1 เซต 1-6,6-2,6-3 แต่สาวมือ 4 ของโลกคนปัจจุบันก็ออกมาประกาศกร้าวแล้วว่าจะล้างแค้นให้ได้ ซึ่งต้องรอดูต่อไปว่าจะสำเร็จหรือไม่
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
