นับถอยหลังเพียง 1 สัปดาห์ ศึกฟุตบอลโลก 2014 ที่ บราซิล ก็จะเตรียมเปิดฉากขึ้นอย่างเป็นทางการในค่ำคืนวันที่ 12 มิถุนายนนี้ โดยนอกเหนือจากการชิงชัยเพื่อพิสูจน์ความเป็นยอดทีมของโลก อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญคือการลุ้นตำแหน่งดาวซัลโว หรือ รองเท้าทองคำ ของนักเตะฝีเท้าดีจากชาติต่างๆ ที่ส่งแข่งขัน ดังตัวอย่างรายชื่อต่อไปนี้
1. คริสเตียโน โรนัลโด (โปรตุเกส / รีล มาดริด)
(55 ประตูจากการลงสนาม 45 นัด)
นาทีนี้ไม่มีอะไรต้องพิสูจน์อีกแล้วว่า โรนัลโด คือสุดยอดดาวยิงของวงการลูกหนังโลก หลังจากฤดูกาลที่ผ่านมาโชว์ฟอร์มสุดยอดกดไป 55 ประตูจนช่วยให้ รีล มาดริด ต้นสังกัดได้ฉลองแชมป์ โกปา เดล เรย์ และ ยูฟา แชมเปียนส์ลีก แม้ผลงานในนามทีมชาติยังถูกตั้งคำถาม แต่ด้วยฟอร์มที่ร้อนแรงแบบหยุดไม่อยู่ มีใครบ้างที่ไม่กล้าใส่ชื่อ “CR7” ในการลุ้นรางวัลรองเท้าทองคำปีนี้
2. เซร์คิโอ อกูเอโร (อาร์เจนตินา / แมนเชสเตอร์ ซิตี)
(28 ประตูจากการลงสนาม 34 นัด)
แม้ศึก พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลที่ผ่านพ้นไป อกูเอโร ไม่ค่อยได้ลงสนามมากนักเพราะมีปัญหาบาดเจ็บรุมเร้า แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่จะหยุดยั้งความคมของ “กุน” ได้แม้แต่น้อย เพราะส่งลงสนามทีไรก็ยิงได้เป็นกอบเป็นกำ โดยเฉพาะสองถ้วยแชมป์ พรีเมียร์ลีก กับ ลีก คัพ เจ้าตัวก็มีชื่อเป็นผู้ทำประตูบนสกอร์บอร์ดทั้งสองรายการ และหากยังรักษาฟอร์มได้ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะทำให้ดาวเตะวัย 26 ปี หลุดโผจากตำแหน่งดาวซัลโวที่ บราซิล
3. หลุยส์ ซัวเรซ (อุรุกวัย / ลิเวอร์พูล)
(31 ประตูจากการลงสนาม 31 นัด)
ยังต้องลุ้นกันอยู่ว่าดาวยิงหมายเลข 7 ของ ลิเวอร์พูล จะได้ไปโชว์ลีลาที่แผ่นดินแซมบ้าหรือไม่ หลังเพิ่งออกจากโรงพยาบาลเพราะเข้ารับการผ่าตัดที่เข่าซ้าย แต่หากกลับมาลงสนามได้รับรองว่าชื่อชั้นและฝีเท้าของ ซัวเรซ ซึ่งยิงประตูแบบถล่มทลายจนกลายเป็นดาวซัลโวใน พรีเมียร์ลีก ที่ผ่านมา ก็น่าจะสร้างความประหวั่นพรั่นพรึงให้แก่กองหลังทีมคู่แข่งได้ดีทีเดียว
4. ลิโอเนล เมสซี (อาร์เจนตินา / บาร์เซโลนา)
(36 ประตูจากการลงสนาม 39 นัด)
ถือเป็นนักเตะระดับโลกที่ยังถูกแฟนบอลส่งเสียงครหาหนัก หลังยังไม่สามารถพิสูจน์ความเก่งกาจของตัวเองกับขุนพล “ฟ้าขาว” ได้ โดยเฉพาะเมื่อ 4 ปีก่อนที่ แอฟริกาใต้ ที่เรียกได้ว่าแทบดับสนิท ขณะที่ผลงานในลีกปีนี้ก็ค่อนข้างเงียบไม่โดดเด่นมาก แต่ทุกครั้งที่ลงสนาม เมสซี ก็ผลิตสกอร์ให้ “เจ้าบุญทุ่ม” ได้อย่างสม่ำเสมอ ส่วนจะพกพาฟอร์มยิงประตูมาที่ บราซิล ด้วยหรือไม่นั้นต้องรอดูกันเร็วๆ นี้
5. เนย์มาร์ (บราซิล / บาร์เซโลนา)
(13 ประตูจากการลงสนาม 37 นัด)
เริ่มต้นฤดูกาลแรกในสีเสื้อแดงเลือดหมูของ “เจ้าบุญทุ่ม” ได้ไม่ค่อยสวยหรูนักหลังย้ายจาก ซานโตส จนกลายเป็นที่จับตามองแต่ผลิตสกอร์ได้แค่ 13 ประตู อย่างไรก็ตาม ด้วยความสามารถและทักษะในสนามที่เข้าข่ายดีเยี่ยมก็ทำให้ เนย์มาร์ ยังคงเป็นผู้เล่นคนสำคัญของขุนพล “แซมบ้า” อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ยิ่งเป็นความกดดันหนักแต่ทั้งนี้ก็ได้แต่หวังว่าเจ้าตัวจะคืนฟอร์มยิงประตูให้แฟนๆ ได้ภาคภูมิใจ
6. ดิเอโก กอสตา (สเปน / แอตเลติโก มาดริด)
(35 ประตูจากการลงสนาม 44 นัด)
มาแรงแซงโค้งแบบฉุดไม่อยู่สำหรับหัวหอกชาวบราซิลที่ตัดสินใจเลือกรับใช้ชาติให้ สเปน หลังโชว์ฟอร์มสุดยอดพังประตูแบบถล่มทลายจนทำให้ “ตราหมี” ได้ฉลองแชมป์ลีกในรอบ 18 ปีจนได้ แม้ยังต้องลุ้นอยู่ว่าจะสลัดอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาลงมาช่วย “กระทิงดุ” ได้หรือไม่ แต่หากกลับมาได้เชื่อว่ากองหลังทุกทีมคงไม่มีใครอยากเผชิญหน้ากับ กอสตา เป็นแน่แท้
7. โรบิน ฟาน เพอร์ซี (เนเธอรแลนด์ / แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
(24 ประตูจากการลงสนาม 32 นัด)
แม้ต้นสังกัดอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวังในฤดูกาลที่ผ่านมา แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่หยุดยั้งฟอร์มการทำประตูของ “อาร์วีพี” ได้หลังซัดไป 24 ประตูรวมทุกรายการ พิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งเป็นอย่างดี ส่วนผลงานในนามทีมชาติแม้จะไม่โดดเด่นแต่ปีนี้คงต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อพา “อัศวินสีส้ม” คว้าโทรฟีแชมป์โลกให้ได้สักที
8. โรเมลู ลูกากู (เบลเยียม / เอฟเวอร์ตัน)
(18 ประตูจากการลงสนาม 38 นัด)
ลูกากู ในวัย 21 ปี จัดการตบหน้า เชลซี ต้นสังกัดฉาดใหญ่หลังย้ายมาสวมเสื้อ เอฟเวอร์ตัน แบบสัญญายืมตัว ก่อนซัดประตูได้เป็นกอบเป็นกำเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา โดยเฉพาะเกมทีมชาติที่สร้างผลงานเป็นที่ประจักษ์กดแฮตทริกพา เบลเยียม ชนะ ลักเซมเบิร์ก ขาด 5-0 โดยหาก เวิลด์ คัพ ปีนี้ โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมเหมือนในลีก คงถูกเรียกตัวกลับถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ เป็นแน่
9. ชิโร อิมโมบิเล (อิตาลี / โตริโน)
(22 ประตูจากการลงสนาม 34 นัด)
22 ประตูในลีก กัลโช เซเรีย อา ที่เพิ่งรูดม่านไป ถือเป็นเครื่องวัดคุณภาพเจ้าของตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดจากค่าย โตริโน ได้เป็นอย่างดีจน เซซาเร ปรันเดลี ตัดสินใจเรียก อิมโมบิเล ไปร่วมแจมที่ บราซิล ในช่วงโค้งสุดท้ายจนได้ และน่าจะเป็นทัวร์นาเมนต์อัปค่าตัวของหัวหอกชาวอิตาลีรายนี้ด้วย หากยังยิงประตูแบบไม่ไว้หน้าใครเหมือนในลีก
10. ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ (อังกฤษ / ลิเวอร์พูล)
(27 ประตูจากการลงสนาม 38 นัด)
ยกระดับฟอร์มการเล่นขึ้นมาได้อย่างน่าประทับใจสำหรับ สเตอร์ริดจ์ หลังย้ายมาสวมเสื้อ ลิเวอร์พูล แล้วขัดเกลาฝีเท้าจนกดไป 27 ประตูไม่น้อยหน้าเพื่อนร่วมทีมอย่าง หลุยส์ ซัวเรซ แม้แต่น้อย โดยทัวร์นาเมนต์ เวิลด์ คัพ ครั้งนี้ เจ้าตัวถูก รอย ฮอดจ์สัน กุนซือใหญ่ จับวางให้เป็นความหวังสูงสุดในแดนหน้า ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เพิ่งกด 1 ตุงช่วย อังกฤษ อุ่นเครื่องชนะ เปรู 3-0 แต่เมื่อถึงเวลาจริงจะฉายฟอร์มได้เพียงใดถือเป็นเรื่องที่น่าจับตา
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
1. คริสเตียโน โรนัลโด (โปรตุเกส / รีล มาดริด)
(55 ประตูจากการลงสนาม 45 นัด)
นาทีนี้ไม่มีอะไรต้องพิสูจน์อีกแล้วว่า โรนัลโด คือสุดยอดดาวยิงของวงการลูกหนังโลก หลังจากฤดูกาลที่ผ่านมาโชว์ฟอร์มสุดยอดกดไป 55 ประตูจนช่วยให้ รีล มาดริด ต้นสังกัดได้ฉลองแชมป์ โกปา เดล เรย์ และ ยูฟา แชมเปียนส์ลีก แม้ผลงานในนามทีมชาติยังถูกตั้งคำถาม แต่ด้วยฟอร์มที่ร้อนแรงแบบหยุดไม่อยู่ มีใครบ้างที่ไม่กล้าใส่ชื่อ “CR7” ในการลุ้นรางวัลรองเท้าทองคำปีนี้
2. เซร์คิโอ อกูเอโร (อาร์เจนตินา / แมนเชสเตอร์ ซิตี)
(28 ประตูจากการลงสนาม 34 นัด)
แม้ศึก พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลที่ผ่านพ้นไป อกูเอโร ไม่ค่อยได้ลงสนามมากนักเพราะมีปัญหาบาดเจ็บรุมเร้า แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่จะหยุดยั้งความคมของ “กุน” ได้แม้แต่น้อย เพราะส่งลงสนามทีไรก็ยิงได้เป็นกอบเป็นกำ โดยเฉพาะสองถ้วยแชมป์ พรีเมียร์ลีก กับ ลีก คัพ เจ้าตัวก็มีชื่อเป็นผู้ทำประตูบนสกอร์บอร์ดทั้งสองรายการ และหากยังรักษาฟอร์มได้ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะทำให้ดาวเตะวัย 26 ปี หลุดโผจากตำแหน่งดาวซัลโวที่ บราซิล
3. หลุยส์ ซัวเรซ (อุรุกวัย / ลิเวอร์พูล)
(31 ประตูจากการลงสนาม 31 นัด)
ยังต้องลุ้นกันอยู่ว่าดาวยิงหมายเลข 7 ของ ลิเวอร์พูล จะได้ไปโชว์ลีลาที่แผ่นดินแซมบ้าหรือไม่ หลังเพิ่งออกจากโรงพยาบาลเพราะเข้ารับการผ่าตัดที่เข่าซ้าย แต่หากกลับมาลงสนามได้รับรองว่าชื่อชั้นและฝีเท้าของ ซัวเรซ ซึ่งยิงประตูแบบถล่มทลายจนกลายเป็นดาวซัลโวใน พรีเมียร์ลีก ที่ผ่านมา ก็น่าจะสร้างความประหวั่นพรั่นพรึงให้แก่กองหลังทีมคู่แข่งได้ดีทีเดียว
4. ลิโอเนล เมสซี (อาร์เจนตินา / บาร์เซโลนา)
(36 ประตูจากการลงสนาม 39 นัด)
ถือเป็นนักเตะระดับโลกที่ยังถูกแฟนบอลส่งเสียงครหาหนัก หลังยังไม่สามารถพิสูจน์ความเก่งกาจของตัวเองกับขุนพล “ฟ้าขาว” ได้ โดยเฉพาะเมื่อ 4 ปีก่อนที่ แอฟริกาใต้ ที่เรียกได้ว่าแทบดับสนิท ขณะที่ผลงานในลีกปีนี้ก็ค่อนข้างเงียบไม่โดดเด่นมาก แต่ทุกครั้งที่ลงสนาม เมสซี ก็ผลิตสกอร์ให้ “เจ้าบุญทุ่ม” ได้อย่างสม่ำเสมอ ส่วนจะพกพาฟอร์มยิงประตูมาที่ บราซิล ด้วยหรือไม่นั้นต้องรอดูกันเร็วๆ นี้
5. เนย์มาร์ (บราซิล / บาร์เซโลนา)
(13 ประตูจากการลงสนาม 37 นัด)
เริ่มต้นฤดูกาลแรกในสีเสื้อแดงเลือดหมูของ “เจ้าบุญทุ่ม” ได้ไม่ค่อยสวยหรูนักหลังย้ายจาก ซานโตส จนกลายเป็นที่จับตามองแต่ผลิตสกอร์ได้แค่ 13 ประตู อย่างไรก็ตาม ด้วยความสามารถและทักษะในสนามที่เข้าข่ายดีเยี่ยมก็ทำให้ เนย์มาร์ ยังคงเป็นผู้เล่นคนสำคัญของขุนพล “แซมบ้า” อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ยิ่งเป็นความกดดันหนักแต่ทั้งนี้ก็ได้แต่หวังว่าเจ้าตัวจะคืนฟอร์มยิงประตูให้แฟนๆ ได้ภาคภูมิใจ
6. ดิเอโก กอสตา (สเปน / แอตเลติโก มาดริด)
(35 ประตูจากการลงสนาม 44 นัด)
มาแรงแซงโค้งแบบฉุดไม่อยู่สำหรับหัวหอกชาวบราซิลที่ตัดสินใจเลือกรับใช้ชาติให้ สเปน หลังโชว์ฟอร์มสุดยอดพังประตูแบบถล่มทลายจนทำให้ “ตราหมี” ได้ฉลองแชมป์ลีกในรอบ 18 ปีจนได้ แม้ยังต้องลุ้นอยู่ว่าจะสลัดอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาลงมาช่วย “กระทิงดุ” ได้หรือไม่ แต่หากกลับมาได้เชื่อว่ากองหลังทุกทีมคงไม่มีใครอยากเผชิญหน้ากับ กอสตา เป็นแน่แท้
7. โรบิน ฟาน เพอร์ซี (เนเธอรแลนด์ / แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
(24 ประตูจากการลงสนาม 32 นัด)
แม้ต้นสังกัดอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวังในฤดูกาลที่ผ่านมา แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่หยุดยั้งฟอร์มการทำประตูของ “อาร์วีพี” ได้หลังซัดไป 24 ประตูรวมทุกรายการ พิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งเป็นอย่างดี ส่วนผลงานในนามทีมชาติแม้จะไม่โดดเด่นแต่ปีนี้คงต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อพา “อัศวินสีส้ม” คว้าโทรฟีแชมป์โลกให้ได้สักที
8. โรเมลู ลูกากู (เบลเยียม / เอฟเวอร์ตัน)
(18 ประตูจากการลงสนาม 38 นัด)
ลูกากู ในวัย 21 ปี จัดการตบหน้า เชลซี ต้นสังกัดฉาดใหญ่หลังย้ายมาสวมเสื้อ เอฟเวอร์ตัน แบบสัญญายืมตัว ก่อนซัดประตูได้เป็นกอบเป็นกำเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา โดยเฉพาะเกมทีมชาติที่สร้างผลงานเป็นที่ประจักษ์กดแฮตทริกพา เบลเยียม ชนะ ลักเซมเบิร์ก ขาด 5-0 โดยหาก เวิลด์ คัพ ปีนี้ โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมเหมือนในลีก คงถูกเรียกตัวกลับถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ เป็นแน่
9. ชิโร อิมโมบิเล (อิตาลี / โตริโน)
(22 ประตูจากการลงสนาม 34 นัด)
22 ประตูในลีก กัลโช เซเรีย อา ที่เพิ่งรูดม่านไป ถือเป็นเครื่องวัดคุณภาพเจ้าของตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดจากค่าย โตริโน ได้เป็นอย่างดีจน เซซาเร ปรันเดลี ตัดสินใจเรียก อิมโมบิเล ไปร่วมแจมที่ บราซิล ในช่วงโค้งสุดท้ายจนได้ และน่าจะเป็นทัวร์นาเมนต์อัปค่าตัวของหัวหอกชาวอิตาลีรายนี้ด้วย หากยังยิงประตูแบบไม่ไว้หน้าใครเหมือนในลีก
10. ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ (อังกฤษ / ลิเวอร์พูล)
(27 ประตูจากการลงสนาม 38 นัด)
ยกระดับฟอร์มการเล่นขึ้นมาได้อย่างน่าประทับใจสำหรับ สเตอร์ริดจ์ หลังย้ายมาสวมเสื้อ ลิเวอร์พูล แล้วขัดเกลาฝีเท้าจนกดไป 27 ประตูไม่น้อยหน้าเพื่อนร่วมทีมอย่าง หลุยส์ ซัวเรซ แม้แต่น้อย โดยทัวร์นาเมนต์ เวิลด์ คัพ ครั้งนี้ เจ้าตัวถูก รอย ฮอดจ์สัน กุนซือใหญ่ จับวางให้เป็นความหวังสูงสุดในแดนหน้า ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เพิ่งกด 1 ตุงช่วย อังกฤษ อุ่นเครื่องชนะ เปรู 3-0 แต่เมื่อถึงเวลาจริงจะฉายฟอร์มได้เพียงใดถือเป็นเรื่องที่น่าจับตา
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
