เจนสัน บัตตัน อดีตเพื่อนร่วมทีม เชื่อมั่น ลูอิส แฮมิลตัน นักซิ่งเลือดร้อนสังกัด เมอร์เซเดส จีพี ซึ่งกำลังหัวเสีย พร้อมบดขยี้ นิโค รอสเบิร์ก คู่หูชาวเยอรมัน ในศึกฟอร์มูลา วัน เก็บคะแนนสะสมชิงแชมป์โลก ฤดูกาล 2014 สนาม 7 รายการ "แคนาเดียน กรังปรีซ์" วันที่ 6-8 มิถุนายนนี้
นักซิ่งวัย 29 ปี เพิ่งจบสถิติชนะ 4 เรซติดรายการ "โมนาโก กรังปรีซ์" เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทว่าเบื้องหลัง เจ้าตัว เกิดแตกคอกับ รอสเบิร์ก ตั้งแต่รอบควอลิฟาย (วันเสาร์) โดยกล่าวหาว่า เป็นผู้ขวางตนยึดโพล โพสิชัน (สตาร์ทคันแรก) เนื่องจากรถของ รอสเบิร์ก ล้อล็อกช่วงท้าย จึงต้องจอดข้างทาง เป็นเหตุให้ เจ้าหน้าที่สนามโบกธงเหลือง ซึ่งผู้เข้าแข่งขันต้องชะลอความเร็ว
ถึงแม้ อดีตนักขับ แม็คลาเรน เก็บกดอารมณ์ตัวเอง แต่มิอาจซ่อนเร้นภาษากายของตัวเอง ระหว่างการพิธีมอบโทรฟีบนโพเดียม ซึ่งปฏิเสธแสดงความยินดีกับ รอสเบิร์ก และการสัมภาษณ์สื่อมวลชน นับจากสิ้นสุดการประลองความเร็ว ณ สนาม เซอร์กิต เดอ โมนาโก เมืองมอนติ คาร์โล เมื่อถูกถามถึงความสัมพันธ์ของดูโอค่าย "ซิลเวอร์ แอร์โรว์ส" ซึ่งผลัดกันจบอันดับ 1 และ 2 มาตลอด 6 สนามที่ผ่านมา
ทั้งนี้ บัตตัน ซึ่งเคยร่วมงานกับ ลูอิส มานาน 3 ฤดูกาล (2010-12) ฟันธง ที่กำลังเจ็บปวด ณ เวลานี้ จะลงสู่สังเวียนต่อไป จิลล์ส วิลเนิร์ฟ เซอร์กิต ในเมืองมอนทรีอัล ประเทศแคนาดา และทิ้งห่าง รอสเบิร์ก ชนิดไม่เห็นฝุ่น โดยเผยว่า "มันน่าสนใจว่าหลายๆ อย่างจะเป็นอย่างไร หลังเหตุการณ์รอบควอลิฟาย เมื่อวันเสาร์ (24 พ.ค.) ไม่ว่า นิโก จะคิดแบบนั้นหรือไม่ แค่ ลูอิส เอาจริงแน่ นั่นเป็นวิธีการที่ควรจะเป็น เมื่อเพื่อนของคุณจะมาเป็นคู่ชิงแชมป์โลก"
"ทำลายสถิติชนะรวดของ ลูอิส มีผลต่อความหวังของ รอสเบิร์ก แต่ ลูอิส แกร่งพอจะคัมแบ็กไหม แน่นอน เขาทำได้ เขาค่อนข้างเป็นคนแสดงอารมณ์อย่างชัดเจน เขาดูเหมือนผิดหวังมาก แต่เขาจะกลับมาแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม ผมคิดว่า คุณจะเห็นเขามุ่งมั่นมากขึ้นในเรซต่อไป มันเป็นสนามโปรดของเขา (ชนะ 3 จาก 6 ปี ล่าสุด) ผมจำได้ตอนที่มีปัญหากับเขา ที่สปา (เบลเยียม กรังปรีซ์) เขาไม่ชอบที่ทีมช่างปรับดาวน์ฟอร์ซไม่เท่ากัน อีกสนามต่อมา เขาก็กลับมาเป็นแชมป์ (อิตาลี)"
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
นักซิ่งวัย 29 ปี เพิ่งจบสถิติชนะ 4 เรซติดรายการ "โมนาโก กรังปรีซ์" เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทว่าเบื้องหลัง เจ้าตัว เกิดแตกคอกับ รอสเบิร์ก ตั้งแต่รอบควอลิฟาย (วันเสาร์) โดยกล่าวหาว่า เป็นผู้ขวางตนยึดโพล โพสิชัน (สตาร์ทคันแรก) เนื่องจากรถของ รอสเบิร์ก ล้อล็อกช่วงท้าย จึงต้องจอดข้างทาง เป็นเหตุให้ เจ้าหน้าที่สนามโบกธงเหลือง ซึ่งผู้เข้าแข่งขันต้องชะลอความเร็ว
ถึงแม้ อดีตนักขับ แม็คลาเรน เก็บกดอารมณ์ตัวเอง แต่มิอาจซ่อนเร้นภาษากายของตัวเอง ระหว่างการพิธีมอบโทรฟีบนโพเดียม ซึ่งปฏิเสธแสดงความยินดีกับ รอสเบิร์ก และการสัมภาษณ์สื่อมวลชน นับจากสิ้นสุดการประลองความเร็ว ณ สนาม เซอร์กิต เดอ โมนาโก เมืองมอนติ คาร์โล เมื่อถูกถามถึงความสัมพันธ์ของดูโอค่าย "ซิลเวอร์ แอร์โรว์ส" ซึ่งผลัดกันจบอันดับ 1 และ 2 มาตลอด 6 สนามที่ผ่านมา
ทั้งนี้ บัตตัน ซึ่งเคยร่วมงานกับ ลูอิส มานาน 3 ฤดูกาล (2010-12) ฟันธง ที่กำลังเจ็บปวด ณ เวลานี้ จะลงสู่สังเวียนต่อไป จิลล์ส วิลเนิร์ฟ เซอร์กิต ในเมืองมอนทรีอัล ประเทศแคนาดา และทิ้งห่าง รอสเบิร์ก ชนิดไม่เห็นฝุ่น โดยเผยว่า "มันน่าสนใจว่าหลายๆ อย่างจะเป็นอย่างไร หลังเหตุการณ์รอบควอลิฟาย เมื่อวันเสาร์ (24 พ.ค.) ไม่ว่า นิโก จะคิดแบบนั้นหรือไม่ แค่ ลูอิส เอาจริงแน่ นั่นเป็นวิธีการที่ควรจะเป็น เมื่อเพื่อนของคุณจะมาเป็นคู่ชิงแชมป์โลก"
"ทำลายสถิติชนะรวดของ ลูอิส มีผลต่อความหวังของ รอสเบิร์ก แต่ ลูอิส แกร่งพอจะคัมแบ็กไหม แน่นอน เขาทำได้ เขาค่อนข้างเป็นคนแสดงอารมณ์อย่างชัดเจน เขาดูเหมือนผิดหวังมาก แต่เขาจะกลับมาแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม ผมคิดว่า คุณจะเห็นเขามุ่งมั่นมากขึ้นในเรซต่อไป มันเป็นสนามโปรดของเขา (ชนะ 3 จาก 6 ปี ล่าสุด) ผมจำได้ตอนที่มีปัญหากับเขา ที่สปา (เบลเยียม กรังปรีซ์) เขาไม่ชอบที่ทีมช่างปรับดาวน์ฟอร์ซไม่เท่ากัน อีกสนามต่อมา เขาก็กลับมาเป็นแชมป์ (อิตาลี)"
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *