เอเยนซี - ปิดฉากแล้วสำหรับการดราฟต์ของศึก อเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล ประจำปี 2014 เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2557 ตามเวลาประเทศไทย จากนี้สิ่งที่น่าสนใจคงต้องมาดูกันว่า แต่ละแฟรนไชส์จะแกร่งขึ้นมากน้อยเพียงใด โดยเว็บไซต์ “บลีทเชอร์ รีพอร์ต” สื่อดังแดนมะกัน ยกให้ โอคแลนด์ เรดเดอร์ส น่าจับตามองที่สุด
1. โอคแลนด์ เรดเดอร์ส
เคยล้มเหลว โดย 5 จาก 8 ผู้เล่นดราฟต์รอบแรก ต่างไม่มีชื่อในทีมชุดปัจจุบัน ทว่าปี 2014 “สลัดดำ” เปิดฉากดราฟต์ คาลิล แม็ค ไลน์แบ็กเกอร์ตัวนอก อันดับ 5 ร่วมงาน ลามาร์ วูดลีย์, อันโตนิโอ สมิธ และ จัสติน ทัค ที่ไปคว้ามาจากตลาดฟรีเอเยนต์ ตามระบบ 4-3 ของ เจสัน ทาร์เวอร์ โค้ชทีมรับ แม็ค น่าจะเป็นตัวไล่ล่าควอเตอร์แบ็กคู่แข่งและอุดช่องโหว่กองหลังซิว คีธ แม็คกิล ตัวคุมปีก และ จัสติน เอลลิส ดีเฟนซีฟ แท็กเกิล รอบ 4 ส่วนทีมบุกดึง ดีเร็ก คาร์ เป็นอนาคตของแฟรนไชส์ แม้จะมี แม็ตต์ ช็อบ ที่ไปเทรดมาจาก เท็กแซนส์ รวมถึง ออฟเฟนซีฟ ไลน์แมนสายเลือดใหม่ กาเบ แจ็คสัน ร่วมงานกับตัวเดิมๆ ทั้ง เควิน บูธ (การ์ด) และ ออสติน ฮาเวิร์ด กับ โดนัลด์ เพนน์ (แท็กเกิลขวา-ซ้าย) การเสริมทั้งควอเตอร์แบ็ก, แนวรับ 7 คน และแนวรุก เรดเดอร์ส อาจมีสิทธิ์ชนะเกิน 50 เปอร์เซ็นต์หนแรก ตั้งแต่ปี 2002 แม้จะใช้สิทธิ์ดราฟต์รอบแรกเพียงครั้งเดียวต่างจาก แรมส์, บราวน์ส และ ไวกิงส์
2. มินเนโซตา ไวกิงส์
ลงทุนเซ็น เกร็ก เจนนิงส์ ช่วงเปิดตลาดฟรีเอเยนต์ปีที่แล้ว เทรดไต่อันดับขึ้นมาดราฟต์ คอร์ดาเรลล์ แพ็ตเตอร์สัน มาเข้าคู่ปีกนอก กอปรกับ เอเดรียน พีเตอร์สัน รันนิงแบ็กตัวเก่ง ไวกิงส์ ขาดเพียงควอเตอร์แบ็ก ซึ่งก็ได้หนึ่งใน 3 ตัวเต็งดราฟต์เบอร์ 1 (เบลค บอร์เทิลส์ และ จอห์นนี แมนเซล) อย่าง เท็ดดี บริดจ์วอเตอร์ ขณะเดียวกันทีมรับคว้า สก็อตต์ คริชตัน ทดแทน จาเหร็ด อัลเลน ดีเฟนซีฟเอนด์ ผู้ครองสถิติแซ็กสูงสุด แต่ที่น่าสนใจเห็นจะเป็น แอนโธนี บาร์ ไลน์แบ็กเกอร์ตัวนอก ที่มีจุดเด่นด้านกดดันควอเตอร์แบ็กมากกว่าการประกบแบบโซน ตามระบบ 4-3 และยังขยับเล่นดีเฟนซีฟ เอนด์ ได้เช่นกัน รวมถึงกองหลังอย่าง แอนทอน เอ็กซัม ตัวคุมปีก ที่คาดว่าจะถูกดราฟต์รอบ 3 หรือ 4 แต่หลุดมารอบ 6 ซึ่งเป็นกำลังสำคัญคนหนึ่ง เมื่อต้องเจอปีกยอดฝีมือทั้ง แคลวิน จอห์นสัน (ดีทรอยต์ ไลออนส์), จอร์ดี เนลสัน (กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส) และ แบรนดอน มาร์แชลล์ กับ อัลชอน เจฟเฟอรี (ชิคาโก แบร์ส) อย่างน้อยๆ ก็น่าจะซัดกันเองภายในกลุ่ม เอ้นเอฟซี (NFC) เหนือ ชนิดสมน้ำสมเนื้อ
3. เซ็นต์หลุยส์ แรมส์
ฉก 2 ผู้เล่นตำแหน่งดีสุดของแนวรุกและรับตั้งแต่รอบแรกอย่าง เกร็ก โรบินสัน ออฟเฟนซีฟ แท็กเกิล คาดมารับช่วงต่อจาก เจค ลอง ที่มีออปชันเทสต์ฟรีเอเยนต์ ปี 2016 แถมมีจุดเด่นการเปิดทางเกมวิ่งให้ เทร เมสัน รันนิงแบ็กเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยออเบิร์น ที่ถูกดราฟต์รอบ 3 ก็น่าจะรู้ทางกันดี กับ แอรอน โดนัลด์ ดีเฟนซีฟ แท็กเกิล ประสาน คริส ลอง, โรเบิร์ต ควินน์ และ ไมเคิล บร็อคเกอร์ส ซึ่งทั้งหมดต่างเป็นผู้เล่นดราฟต์รอบแรก ทำให้แนวรับน่าเกรงขามที่จะต่อกรกับ รัสเซลล์ วิลสัน ควอเตอร์แบ็ก ซีแอตเทิล ซีฮอว์คส และ โคลิน เคเปอร์นิก ของ ซานฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส พร้อมอุดรูโหว่กองหลังเทรดขึ้น 4 อันดับ รอบ 2 คัด ลามาร์คัส จอยเนอร์ ตัวคุมปีก (อันดับ 41) ซึ่ง เลส สนีด ผู้จัดการทั่วไป ปลื้มสุดๆ แต่ก็ยังไปคว้า อี.เจ.เกนส์ ตำแหน่งเดียวกัน รอบ 6 อาจดูซ้ำซ้อน แทนที่จะหาอาวุธเสริมให้ แซม แบรดฟอร์ด นอกเหนือจาก ทาวอน ออสติน ปีกนอกดราฟต์อันดับ 8 ปี 2013
4. ฮุสตัน เท็กแซนส์
กวาดดาวรุ่งชั้นยอดของรุ่นอย่าง จาเดวอน คลาวนีย์ ดีเฟนซีฟ เอนด์ ผนึกกำลัง เจ.เจ.วัตต์ส จัดเป็นทีมที่มีตัวกดดันควอเตอร์แบกน่ากลัวสุดของลีก แต่ก็ต้องลุ้นว่า โรเมโอ เครนเนล โค้ชทีมรับ จะเลือกใช้งานทั้งคู่อย่างไร ตามระบบ 3-4 (แนว 3 คน ไลน์แบ็กเกอร์ 4 คน) มักจะเป็นกองกลางที่ดูเด่นกว่ากองหน้า ส่วนทีมบุก ทอม ซาเวจ ควอเตอร์แบ็กดราฟต์รอบ 4 จัดเป็นจอมทัพร่างยักษ์ 6 ฟุต 4 นิ้ว พร้อมพลังแขนอันทรงพลัง ตรงตามอุดมคติของโค้ชทั่วไป แม้ต้องขัดเกลาอีกสักนิด เพื่อประชันฝีมือกับขุมกำลังที่มีอยู่ อาทิ ไรอัน ฟิตซ์แพทริค, เคส คีนัม หรือ ที.เจ.เยตส์ และตำแหน่งออฟเฟนซีฟ ไลน์แมน ยังได้ ซาเวียร์ ซูอาฟิโล ทดแทน เหว็ด สมิธ ที่เสียไปแบบฟรีเอเยนต์
5. แจ็คสันวิลล์ จาร์กัวส์
ประเดิมสิทธิ์อันดับ 3 ซิว เบลค บอร์เทิลส์ ควอเตอร์แบ็กมหาวิทยาลัย เซ็นทรัล ฟลอริดา แน่นอนว่าดึงดูดมากกว่า คาลิล แม็ค ไลน์แบ็กเกอร์ หรือ แซมมี วัตกินส์ ปีกนอก แต่ก็อาจเทรดลง หากเป็นตำแหน่งที่ตนต้องการ ดูแล้วอันดับน่าจะสูงเกินกว่าจะมานั่งสำรอง แชด เฮนน์ เป็นเวลา 1 ปี จากนั้นก็จัดการเพิ่มอ็อปชันรอบ 2 ดึง มาร์คิส ลี และ อัลเลน โรบินสัน 2 ปีกนอก แก่ จอมทัพวัย 23 ปี และ แบรนแดน ลินเดอร์ เสริมตำแหน่งการ์ดแทน วิลล์ แร็คลีย์ ซึ่งถูกมองว่าเป็นการ์ดแย่สุดอันดับ 3 ของลีก ฤดูกาลที่ผ่านมา ส่วนแนวรับมี คริส สมิธ (รอบ 5) มาเสริม เรด ไบรอันท์, คริส เคลมอนส์ และ เจสัน บาบิน ที่ต่างก็อายุเกิน 30 แล้ว ถือว่า เดฟ คัลด์เวลล์ ผู้จัดการทั่วไป คงจะต่อยอดออกไปอีก 1 หรือ 2 ฤดูกาลข้างหน้า แต่ยังห่างไกลเกินกว่าจะยกระดับผลงานชนะ 4 แพ้ 12 ปี 2013
6. คลีฟแลนด์ บราวน์ส
สาวก “เจ้าตูบ” คงตื่นเต้นไม่น้อย หลังผ่านรอบแรก อันดับ 8 (แลก บัฟฟาโล บิลล์ส) โดยคว้า จัสติน กิลเบิร์ต สุดยอดตัวคุมปีกของรุ่น แถมยังใช้สิทธิ์อันดับ 22 (จาก ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์) สอย จอห์นนี แมนเซล ควอเตอร์แบ็กดีกรี “ไฮส์แมน โทรฟี 2012” ที่ถูกคาดหมายว่าจะป็นนัมเบอร์วันดราฟต์ของปีนี้ แต่กลับหลุดมาถึงอันดับท้ายๆ ต่อมารอบ 2 บราวน์ส อุดช่องโหว่ ออฟเฟนซีฟ ไลน์แมน ซึ่ง มิตเชลล์ ชวาร์ตซ แท็กเกิล ฟอร์มไม่ดี และ ชอว์น ลาอูวาโอ การ์ด ถูกปล่อยเป็นฟรีเอเยนต์ เลือก จอน บิโตนิโอ ซึ่งสามารถทดแทนได้ทั้งสองตำแหน่ง แต่น่าเสียดายที่ยอมทิ้งสิทธิ์รอบ 4 และ 6 ให้ ซาน ฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส แล้วเลือกรันนิงแบ็กอย่าง เทอร์เรนซ์ เวสต์ รอบ 3 แทนการเก็บไว้เพื่อดราฟต์ปีกนอก ซึ่งทำท่าจะเป็นปัญหา เพราะ เนต เบอร์ลีสัน ฟรีเอเยนต์จาก ดีทรอยต์ ไลออนส์ ดันมาแขนหัก และ จอช กอร์ดอน ทำท่าจะถูกแบนยาว 1 ฤดูกาล ข้อหาใช้สารต้องห้าม (กัญชา)
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *