xs
xsm
sm
md
lg

“ไทย” ตื่นกระแสแชมป์? “เสื้อหงส์” ขายดิบขายดี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เสื้อเหย้า “หงส์” ปีนี้เริ่มหายาก
ASTV ผู้จัดการรายวัน - เมืองไทยถือว่ามีสาวก “เดอะ ค็อป” มากที่สุด สืบเนื่องจากความสำเร็จของ ลิเวอร์พูล ที่สั่งสมมาตั้งแต่ครั้งอดีตยุคทศวรรษ 70-80 ไม่ว่าจะเป็นแชมป์ลีกและแชมป์ยุโรปที่กอบโกยได้อย่างต่อเนื่อง จนสร้างแฟนพันธุ์แท้รุ่นสู่รุ่นจนถึงปัจจุบัน ซึ่งฤดูกาลนี้ฟอร์มกลับมาอยู่ในจุดเดิมอีกครั้งยืนระยะจนมีลุ้นคว้าถ้วยลีกสูงสุดของประเทศรอบ 24 ปี ทำให้กระแส “เครื่องจักรสีแดง” บ้านเรากลับมาตื่นตัวชนิดที่ไม่เคยมีมาก่อน

สถานการณ์ของ ลิเวอร์พูล ตอนนี้ถือว่าเสียเปรียบ หลังเพลี่ยงพล้ำให้ เชลซี คาถิ่น แอนฟิลด์ 0-2 เมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา จนโมเมนตัมเทไปอยู่ในมือ แมนเชสเตอร์ ซิตี โดย “หงส์แดง” มี 80 แต้มจาก 36 นัด แข่งมากกว่า 1 นัด ซึ่งหากโปรแกรมที่เหลือทั้งคู่เก็บ 3 แต้มได้หมด “เรือใบสีฟ้า” มีโอกาสมากกว่าที่จะคว้าแชมป์ พรีเมียร์ ลีก ไปครองด้วยเงื่อนไขประตูได้-เสียที่ดีกว่า เพราะตอนนี้บวกมากกว่า 8 ประตู

แต่ด้วยฟอร์มของ ลิเวอร์พูล ก่อนหน้านี้ที่คว้าชัย 11 นัดรวด หลายคนมั่นใจว่าจะคว้าแชมป์ลีกต่อจากปี 1990 ที่มีดาวเด่นอย่าง เอียน รัช, ปีเตอร์ เบียร์ดสลีย์, สตีฟ แม็คมาน, จอห์น บาร์นส, แยน โมลบี และ อลัน แฮนเซน จึงทำให้กระแสสินค้าของทีมโดยเฉพาะยูนิฟอร์มเหย้าภายใต้ผู้ผลิต “วอร์ริเออร์” เริ่มถูกถามถึงมากเป็นพิเศษ ซึ่งเมืองไทยก็สามารถหาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ จากการที่มีตัวแทนนำเข้ามาจำหน่าย

ทีมงาน MGR SPORT ลงพื้นที่สำรวจเริ่มจากเสื้อแข่ง ลิเวอร์พูล ทีมเหย้าของแท้ลิขสิทธิ์ราคา 2,600 บาท ที่ห้างสรรพสินค้าใจกลางกรุงเทพฯ โดยพนักงานรายหนึ่งเปิดเผยว่า “ถือว่าขายดีเป็นพิเศษช่วงก่อนหน้านี้ที่ฟอร์มกำลังดี ทำให้เหลือแต่ไซส์ขนาดใหญ่อย่างเช่น XL ขึ้นไป เนื่องจากรูปร่างคนไทยอยู่ที่ไซส์ M และ L หลายสาขาเริ่มหมดสต๊อก ขายกันได้วันละเป็นร้อยตัว ส่วนตอนนี้ขอบอกว่าไม่มีให้ขายเลย ส่วนสินค้าประเภทอื่นไม่ว่าจะเป็นชุดเยือน เสื้อวอร์ม ผ้าพันคอ พวงกุญแจ ถือว่าปกติสามารถขายได้เรื่อยๆ”

ขณะที่สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์หรือที่บ้านเราเรียกว่าก๊อบเกรด A ที่สามารถหาซื้อได้ทั่วไปสำหรับคนที่ฐานะและมีรายได้รองลงมาราคาตัวหนึ่งอยู่ที่ 350 บาท โดยจากการสอบถามผู้ค้ารายหนึ่งได้ความว่า “ไม่แตกต่าง เพราะถือว่า ลิเวอร์พูล เป็นทีมใหญ่ ช่วงที่เสื้อเปิดตัวแรกๆ ต้นฤดูกาลก็มีคนมาหาซื้อเช่นเดียวกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขายได้ตลอดไม่ว่าผลงานจะแพ้หรือชนะก็ตาม ไซส์ที่เราผลิตส่วนใหญ่ก็ M เรียกได้ว่ามาตรฐานชายไทย”

จากการสอบถามแฟนบอล ลิเวอร์พูล หลายคนยอมควักเงินซื้อเสื้อลิขสิทธิ์ในราคาเต็ม เพราะการที่จะรอให้สินค้าลดราคา เมื่อถึงตอนนั้นไซส์อาจจะไม่พอดีกับตัว ขณะที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของถิ่นแอนฟิลด์ หรือเมกะสโตร์ ณ ประเทศอังกฤษ ได้มีโปรโมชันเสื้อเหย้าฤดูกาลนี้ลดราคาเหลือ 30 ปอนด์ (ประมาณ 1,650 บาท) ถือเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากได้เปิดตัวเสื้อฤดูกาลหน้า 2014-15 ให้สั่งจองล่วงหน้าแล้ว

ส่วนบรรดาผู้มีชื่อเสียงวงการฟุตบอลไทยที่ประกาศตัวเป็นแฟน ลิเวอร์พูล อย่าง “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ตำนานกองหน้าจอมตีลังกา ที่ปัจจุบันผันตัวเองรับบทกุนซือทีมชาติไทย ไม่ตามกระแส เพราะที่ผ่านมาก็ได้ซื้อและสะสมของที่ระลึกที่ชอบมาโดยตลอด “ผมเชียร์ ลิเวอร์พูล ตั้งแต่สมัย จอห์น บาร์นส, ปีเตอร์ เบียร์ดสลีย์ และ เคนนี ดัลกลิช จึงไม่สนว่าได้แชมป์หรือไม่ ส่วนเรื่องที่ว่าจะซื้ออะไรเก็บไว้เป็นพิเศษหรือไม่นั้น ก็คงไม่เนื่องจากมีเกือบครบทุกอย่างแล้วทั้ง เสื้อเชียร์ เสื้อซ้อม ตราสโมสร หรืออุปกรณ์ของใช้ต่างๆ เช่นที่โกนหนวดหรือเข็มกลัด เพราะเวลาใครไปประเทศอังกฤษก็จะซื้อมาฝากเป็นประจำ”

ด้าน “เจ้าบาส” อภิภู สุนทรพนาเวศ ห้องเครื่องกัปตันทีม “พลังเอ็ม” โอสถสภา เอ็ม-150 สระบุรี เผยว่า “ถ้าได้แชมป์คงดีใจมาก เพราะรอคอยมานาน ส่วนเรื่องเสื้อแข่งปีนี้นั้นผมมีอยู่แล้ว ซึ่งที่ผ่านมาก็ซื้อสะสมเอาไว้ทุกฤดูกาล เนื่องจากเราเชียร์มาตั้งแต่เด็กๆ จากนั้นคงมีการเลี้ยงกับเพื่อนเพื่อฉลองแชมป์มากกว่า”

ของทุกอย่างไม่ว่าอะไรที่มีประวัติและเรื่องราวให้พูดถึงมักจะมีคุณค่าเสมอ ดังนั้นไม่แปลกหาก ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ พรีเมียร์ ลีก ปีนี้พร้อมส่งให้เสื้อ “วอร์ริเออร์” หายากและอีก 5 หรือ 10 ปีข้างหน้ามูลค่าจะเพิ่มสูงขึ้น เหมือนชุดเมื่อปี 1990 ที่เรียกกันว่ารุ่น “แคนดี้” ตามสปอนเซอร์คาดอกที่ตอนนี้ถ้าสภาพดีๆ ราคาอยู่ที่ 5 หลักเลยทีเดียว

* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *


ลุ้น ลิเวอร์พูล ได้แชมป์หรือไม่
“ซิโก้” สาวก “เดอะ ค็อป”
“เจ้าบาส” สะสมเสื้อทุกปีอยู่แล้ว
แชมป์ลีกหนสุดท้ายเมื่อปี 1990
กำลังโหลดความคิดเห็น