xs
xsm
sm
md
lg

“แรมบ้า” โวต้อนฝูง “อพปช.” ป้อง “ปูเน่า” ก่อนวันศาล รธน.ชี้ชะตา มีกำลังเท่ากองทัพ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “แรมบ้า” นำฝูง อพปช. สวนสนามที่โคราช โวพร้อมต้อนฝูงเคลื่อนไหวป้อง “นายกฯ ปูเน่า” ก่อนวันศาล รธน.ชี้ชะตา 1-2 วัน ร่วมกับ นปช. อ้างขณะนี้มีกองกำลังปกป้องประชาธิปไตยทุกจังหวัดรวม 7.7 หมื่นคน เทียบเท่าหนึ่งกองทัพ

วันนี้ (21 เม.ย. ) ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ ต.ปรุใหญ่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา กลุ่ม นปช.หรือคนเสื้อแดง ในนามอาสาสมัครพิทักษ์ประชาธิปไตยแห่งชาติ (อพปช.) ทั่วประเทศ นำโดยนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือ “แรมบ้าอีสาน” ประธาน อพปช. เป็นประธานเปิดการสวนสนามของ อพปช.รุ่นที่ 2 กว่า 5,000 คน โดยแต่ละคนมีผ้าพันคอสีขาวมีโลโก้ตราสัญลักษณ์เป็นรูปวงกลมภายในเป็นรูปพานประชาธิปไตยสีธงชาติ สวมชุดเสื้อยืดแขนยาวสีดำด้านหลังเขียนว่า อาสาสมัครพิทักษ์ประชาธิปไตยแห่งชาติ อพปช. และสวมหมวกแก๊ปสีดำ

โดยมีศิษย์ อพปช.รุ่นที่ 1 สวมผ้าพันคอสีแดงคอยเป็นพี่เลี้ยง พร้อมทั้งนิมนต์พระ จำนวน 7 รูปมานั่งให้ศีลให้พร พร้อมฉีดพ่นน้ำมนต์ให้แก่ อพปช.ที่เดินสวนสนามทุกคน เพื่อความเป็นสิริมงคล ท่ามกลางสภาพอากาศแดดจัดร้อนอบอ้าว โดยมีแกนนำประธานภาค เลขาธิการภาคทุกภาค และประธานแต่ละจังหวัดขึ้นเวที เปิดเพลงสวนสนามอย่างกึกก้อง พร้อมร่วมกันมือชู 3 นิ้วกล่าวคำปฏิญาณตน

ทั้งนี้ ในช่วงเช้าที่ผ่านมา ก่อนการเดินสวนสนาม ประธาน อพปช.แต่ละจังหวัดได้เรียกแถวพร้อมธงชาติ ธงสัญลักษณ์ อพปช. เดินแถวหน้ากระดานเรียง 3-4 คน ทยอยเดินเข้าสู่สนาม โดยมีชายฉกรรจ์การ์ด อพปช.หรือซูเปอร์การ์ดสวมชุดดำคล้ายชุดฝึกของทหาร หรือตำรวจหลายสิบคนยืนสวมแว่นตาสีดำคุมเข้ม เพื่อสร้างระเบียบ วินัย เคร่งครัดในการเดินสวนสนามที่มี อพปช.ทั้งชายและหญิง โดยส่วนใหญ่มาจากคนเสื้อแดง

นายสุภรณ์ กล่าวว่า การทำกิจกรรมร่วมกัน 2 วัน 1 คืน (20-21 เม.ย.) มีสมาชิก อพปช. เข้าร่วมฝึกหลักสูตรถึง 15,000 คน ถือว่าประสบความสำเร็จมาก มีความเข้มข้นมากขึ้นทั้งเรื่องความพร้อมเพรียง ทักษะ และระเบียบวินัย เมื่อเกิดเหตุ หรือมีปัญหาสามารถสั่งการได้อย่างทันท่วงที รวมทั้งมีเครือข่าย อพปช.โดยใช้ระบบโทรศัพท์มือถือ อินเทอร์เน็ต ไลน์เข้ามาช่วย เวลามีปัญหาหรือมีเหตุการณ์เกิดขึ้นสามารถเข้าสัญญาณเครือข่ายได้ทันที

จากนี้ไปหลังจากแยกย้ายกลับจังหวัดใครจังหวัดมันเราจะมีกิจกรรมลักษณะนี้อย่างต่อเนื่องโดยประธานแต่ละภาคทุกภาค ร่วมกับประธานแต่ละจังหวัดทุกจังหวัดจะดำเนินการฝึกฝนหลักสูตรเช่นนี้จังหวัดละอย่างน้อย 1,000 คน ทั้งหญิงและชาย โดยเฉพาะชายฉกรรจ์แต่ละจังหวัดมีการฝึกอบรมการทดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย ความแข็งแกร่งทั้งร่างกาย ทั้งจิตใจ รวมทั้งการฝึกทักษะทางยุทธวิธี ภาคสนามเพิ่มพูนศิลปะการป้องกันตัว ทักษะการปกป้องหรือแย่งอาวุธไม่ให้ถูกทำร้าย หรือถูกยิง เป็นยุทธศาสตร์ก่อนเกิดเหตุเพื่อป้องกันเหตุไม่ให้เกิดขึ้น

นายสุภรณ์ กล่าวต่อว่า ทั้งหลายทั้งปวงนี้ไม่ได้เน้นเป้าหมายเรื่องของการจะไปสู้กับอาวุธ หรือสู้กับคมหอกคมดาบของฝ่ายตรงข้าม แต่เป้าหมายสูงสุดที่ อพปช.เข้าค่ายครั้งนี้คือ เรื่องความรักสมัครสมานสามัคคี ความมีน้ำใจเป็นหนึ่งเดียวกันของสมาชิก อพปช.เป็นตัวตั้ง และวันนี้ถ้าสมาชิก อพปช.ไม่มีหัวใจเป็นหนึ่งเดียวกันในการที่จะไปต่อสู้กับขบวนการทำลายประชาธิปไตยไม่มีทางสำเร็จ อันดับแรกเหนือยิ่งกว่าอาวุธใด เหนือกว่าอาวุธสงครามคือ ความแข็งแกร่งของจิตใจ ให้มีความรู้สึกหวงแหนประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นพระประมุข ในทิศทาง และแนวทางเดียวกัน เรามีศัตรูคนเดียวกันคือ เผด็จการ ส่วนจุดยืนเหมือนเดิม การสวนสนามอย่างพร้อมเพรียง และการฝึกครั้งนี้หนักกว่าเดิม ส่วนผู้หญิงได้แยกเป็นหลักสูตรปฐมพยาบาล เรื่องแม่ครัว การดูแลสมาชิกระหว่างการสู้รบ การส่งอาหาร น้ำ เป็นปัจจัยสำคัญ

“ภารกิจแรกที่ชัดเจนเท่าที่พูดคุยกัน คงต้องดูเรื่องสถานการณ์บ้านเมืองว่าเป็นอย่างไร เช่น กรณีศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณากรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี สิ้นสถานภาพนายกรัฐมนตรี อพปช.เราพร้อมที่จะเคลื่อนไหวใหญ่ก่อนวันที่จะมีการพิจารณา 1-2 วัน โดยทาง นปช.จะเคลื่อนไหวก่อน 1 วัน แล้วเราสนับสนุน และหากเกิดมีการมาล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยด้วยวิธีการรูปแบบใดโดยองค์กรอิสระ หรือโดยกองทัพนอกรูปแบบ อะไรก็แล้วแต่ พวกเราพร้อมออกมาปฏิบัติการเคลื่อนไหวได้ทันที” นายสุภรณ์ กล่าว

ทั้งนี้ หากสถานการณ์บ้านเมืองสงบสุข กลับไปสู่หมวดของการเลือกตั้ง ไม่มีอะไรรุนแรง ไม่มีเหตุการณ์อะไรที่จะมาทำลายการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เราก็จะเอา อพปช.ทำหน้าที่เป็นครูพี่เลี้ยง ครูอาสา ในการออกไปรณรงค์ทั่วประเทศตามชุมชน หมู่บ้าน ท้องถิ่นทุกพื้นที่ในประเทศไทยให้รู้ว่าประชาธิปไตยมีประโยชน์อย่างไร ทำไมต้องหวงแหนประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ทำไมต้องต่อสู้กับเผด็จการ ทำลายบ้านเมืองทำลายการปกครองทำลายความเจริญของประเทศชาติ

สำหรับเป้าหมาย อพปช. ทุกจังหวัดมีสมาชิกปกป้องพิทักษ์ประชาธิปไตยจังหวัดละ 1,000 คน ก็จะมีอาสาสมัครประมาณ 77,000 คน เท่ากับหนึ่งกองทัพแล้ว แต่ภาคอีสานมีมาก ภาคเหนือด้วย เฉพาะอีสานภาคเดียวเกือบ 50,000 คน ภาคเหนือหลายหมื่นคน รวมเบ็ดเสร็จจะเป็นแสนคนแล้ว เพียงแต่ตนยังไม่เปิดรับอบรมเข้าค่ายให้เป็นทางการเท่านั้น แต่คำว่าพอไม่มี ตราบใดที่พี่น้องยังให้ความสนใจเรื่องการปกป้องพิทักษ์ประชาธิปไตย ฉะนั้นเราจะเปิดรับไปเรื่อยๆ นายสุภรณ์ กล่าวในตอนท้าย





กำลังโหลดความคิดเห็น