ASTV ผู้จัดการรายวัน - หลังยุครุ่งเรืองของ “หมู” อมรเทพ แววแสง นักยิมนาสติกไทย ที่ประกาศความเกรียงไกร ในการแข่งขันกีฬา เอเชียน เกมส์ ครั้งที่ 13 พ.ศ. 2541 ด้วยการคว้าเหรียญทอง พร้อมกับยังมีดีกรีเหรียญทอง ซีเกมส์ 7 สมัย จากนั้นกีฬาชนิดนี้ของไทย ก็ห่างหายจากความสำเร็จระดับเอเชียไปนานกว่า 16 ปี กระทั่งในการแข่งขันยิมนาสติกเยาวชนชิงแชมป์เอเชีย ที่เมืองทัชเคนท์ ประเทศอุซเบกิสถาน ระหว่างวันที่ 10-14 เมษายน ที่ผ่านมา ได้ปรากฏชื่อเด็กหนุ่มจากโรงเรียนกีฬาจังหวัดสุพรรณฯ “เจ้าปู” ณัฐติพงษ์ เอียดวงศ์ ผงาดคว้าแชมป์รายการนี้สำเร็จ พร้อมซิวตั๋วยูธ โอลิมปิก เกมส์ ครั้งที่ 2 ระหว่าง 16-28 สิงหาคม 2557 ที่เมืองนานจิง สาธารณรัฐประชาชนจีน
ความสำเร็จครั้งนี้ส่งให้ทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่หนุ่มน้อยจากสงขลาว่าจะเป็นผู้ที่มาสืบทอดตำแหน่ง “ราชายิมนาสติกศิลป์ชาย” คนต่อไปได้หรือไม่ ซึ่ง “เจ้าปู” กล่าวถึงการเริ่มเข้าสู่เส้นทางนี้ของตัวเองว่า “ผมไปแข่งขันยิมนาสติกพื้นฐาน เมื่อปี พ.ศ. 2552 ที่บ้านเกิด สงขลา ทำให้ได้พบกับ โค้ชเอกราช จันทร์กรุง และมีการติดต่อไปยังคุณพ่อเพื่อขอให้มาเป็นนักกีฬาของสมาคมยิมนาสติกแห่งประเทศไทย ซึ่งขณะนั้นตัวเองยังศึกษาอยู่แค่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ทางบ้านจึงไม่อนุญาต แต่ถัดมา 1 ปี คุณพ่อก็ใจอ่อน ให้มาฝึกซ้อมและเก็บตัวอยู่กับโค้ช ก่อนที่จะย้ายมาศึกษาอยู่ที่โรงเรียนกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี”
พร้อมกันนี้ จอมห้อยโหน วัย 16 ปี เปิดเผยถึงความสำเร็จจากการแข่งขันศึกเยาวชนเอเชียครั้งนี้ว่า เกิดจากที่ไม่กดดันตัวเองและตั้งใจเชื่อฟังคำแนะนำของผู้ฝึกสอนอย่างเคร่งครัด “ที่ผ่านมาจะคิดเสมอว่าจะทำเท่าที่ทำได้ เพื่อลดความกดดันของตัวเอง และอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญแห่งความสำเร็จคือเชื่อฟังคำสอนของโค้ช และทำตามแผนที่วางไว้ทุกอย่าง ผลงานที่ออกมาจึงดีอย่างที่ทราบกัน”
แม้จะประสบความสำเร็จเป็นแชมป์ระดับเอเชีย ทว่า “เจ้าปู” ยอมรับว่าไม่เคยตั้งเป้ามาก่อน “ส่วนตัวไม่ได้มีความฝันว่าจะเป็นนักกีฬายิมนาสติก เพราะตั้งใจว่าอยากจะเป็นทหาร แต่เมื่อมอบการตัดสินใจให้กับคุณพ่อแล้ว ผมก็ไม่คิดว่าจะเสียหายอะไร จึงตัดสินใจตามที่พ่อต้องการ และก็ตั้งใจฝึกซ้อม เชื่อฟังในสิ่งที่โค้ชแนะนำ แต่ที่มองว่าเป็นกีฬาที่ไม่เหมาะกับผู้ชายคงจะไม่เกี่ยว เพราะทั้งยิมฯ หญิง และยิมฯ ชาย จะมีการเล่นที่แตกต่างกันอยู่แล้ว”
การเอาชนะคู่แข่งสำคัญอย่างนักกีฬาจาก จีน, คาซัคสถาน และญี่ปุ่น จนถูกตั้งเป้าหมายว่าจะสามารถคว้าเหรียญทองยูธ โอลิมปิก ในเดือนสิงหาคมนี้ “แชมป์เยาวชนเอเชีย” ยอมรับว่าเป็นงานยากพอสมควร “ขณะนี้ยังไม่มั่นใจว่าจะสามารถคว้าเหรียญทองยูธโอลิมปิกได้ตามที่ทุกคนคาดหวังได้หรือไม่ แต่ก็จะตั้งใจฝึกซ้อมเหมือนเดิม วันละ 6 ชั่วโมง และให้โค้ชติวเข้ม ที่ประเภทโต๊ะกระโดดอย่างเดียว ด้วยการเพิ่มการเล่นในท่ายาก ที่มีคะแนนสูง และให้การเล่นมีความสมบูรณ์ ทั้งการเล่นท่า การลงสู่พื้น”
พร้อมกันนี้ยอดนักยิมนาสติกดาวรุ่งจากสโมสรโรงเรียนกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี ยังได้กล่าวต่อว่า “สาเหตุที่ผมตั้งใจฝึกซ้อมก็เพื่อเอาชนะความท้าทายของตัวเอง ที่มุ่งหวังไปแข่งในรายการโอลิมปิกให้ได้ เพราะยังไม่เคยมีนักยิมนาสติกของไทยคนไหนเข้าไปเล่นในรายการนี้มาก่อน ส่วนจะทำได้หรือไม่นั้นคงต้องรอดูต่อไป เพราะขนาดการแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย ยังไม่มีใครคิดว่าผมจะคว้าเหรียญทองกลับมาได้เลย”
สุดท้ายนี้ หนุ่มน้อยจากหาดใหญ่ ยังแสดงความมั่นใจในรูปแบบการเล่นของตัวเอง ที่ถนัดทุกอุปกรณ์ยิมฯ ของผู้ชายเป็นหลัก ทำให้สามารถทำคะแนนออกมาได้ดี “ส่วนตัวมีความถนัดในอุปกรณ์พื้นฐานทั้ง 6 ชนิดของประเภทชาย ไม่ว่าจะเป็น อุปกรณ์ฟลอร์เอ็กซ์เซอร์ไซส์, ม้ายาว, ม้าหู, ห่วงนิ่ง, ราวเดี่ยว และราวคู่ ซึ่งในปี 2014 ผมวางแผนไว้ว่าจะฝึกซ้อมให้มากขึ้นเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับร่างกาย รวมทั้งยังตั้งใจว่าจะลงแข่งขันรายการระดับใหญ่ขึ้นไปอีก เพื่อสร้างความคุ้นเคยกับอุปกรณ์ทุกชนิดต่างให้มากๆ และเชื่อว่าจะทำผลงานได้ดีขึ้นไปอีก”
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *