คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน
ในอีกไม่ถึง 2 เดือน เราก็จะเข้าสู่เทศกาลที่แฟนบอลทั่วโลกตั้งตารอคอย นั่นคือมหกรรมฟุตบอลโลก ซึ่งจะเกิดขึ้นบนดินแดนซีกโลกใต้ แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ บราซิว ได้สิทธิ์ในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก ครั้งแรกนั้นต้องย้อนกลับไปในปี 1950
ตอนนั้น ฟุตบอลโลก เพิ่งผ่านพ้นไปเพียง 3 หนคือในปี 1930, 1934 และ 1938 แล้วก็เกิดสงครามโลก ครั้งที่ 2 แผนการที่จะจัดการแข่งขันในปี 1942 รวมทั้งในปี 1946 เป็นอันต้องม้วนเสื่อ เสียเวลาไปนานหลายปี หลังจากนั้น ฟีฟ่า ต้องการเร่งกลับมาจัดการแข่งขันโดยเร็ว ซึ่งหลายประเทศในทวีปยุโรปนั้น บ้านเมืองก็ยังอยู่ในสภาพพังยับเยิน ไม่ไหวจะจัด ดังนั้นเมื่อ บราซิว เสนอตัวก็เรียบร้อย ทุกคนเห็นพ้องด้วย
แม้ว่าจะได้ชาติเจ้าภาพแล้ว แต่ ฟีฟ่า ก็ยังต้องกุมขมับกับการตามล่าหาทีมเข้ามาร่วมแข่งขัน เนื่องจากแต่ละชาติก็แต่ละสถานะ อย่างเช่น อิตาลี แช้มพ์เก่า เพิ่งประสบอุบัติเหตุทางเครื่องบินกับ ทีมโตรีโน ในเที่ยวบินกลับจากไปแข่งกับ เบนฟีกา ที่ กรุงลิชโบอา ก่อนหน้าฟุตบอลโลก 1 ปี นักเตะเสียชีวิตถึง 18 คน ในจำนวนนี้หลายคนติดทีมชาติ
เจอรมานี กับ ญี่ปุ่น ชาติที่ถูกตราหน้าว่าเป็นผู้ก่อสงคราม ซึ่งต่างก็ยังถูกกองกำลังพันธมิตรเข้ามายึดครอง ทั้ง 2 ชาตินี้ถูกแบนจากการแข่งขันไปก่อน ส่วน กลุ่มหลังม่านเหล็ก คือ สหภาพโซเวียต ฮังการี และ เช็กโกสโลวาเกีย ต่างก็ขอถอนตัวไม่เข้าร่วมในรอบคัดเลือก
ในขณะที่ กลุ่มสหราชอาณาจักร นั้น อังกฤษ กับ สก็อทแลนด์ ได้ผ่านเข้าไปเล่นในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย เป็นครั้งแรก แต่ สก็อทแลนด์ ดันถอนตัวเนื่องจากเคยประกาศว่า หากไม่ได้แช้มพ์ British Home Championship จะไม่ส่งทีมไป บราซิว ผมอยากเรียนให้ทราบว่า การแข่งขันฟุตบอลในกลุ่มสหราชอาณาจักร (British Home Championship) ที่ว่านี้ประกอบด้วย อังกฤษ สก็อทแลนด์ เวลส์ และ อายร์แลนด์เหนือ รายการนี้ถือว่าเป็นการแข่งขันฟุตบอลระดับนานาชาติที่เก่าแก่ที่สุดทีเดียว มีมาตั้งแต่ปี 1883 และมาถูกยกเลิกไปแล้วเมื่อครบ 1 ศตวรรษ
หลายชาติกำลังแข่งในรอบคัดเลือกอยู่ดีๆ ก็ถอนตัวออกไปเฉยเลย เช่น อารเกนตีน่า อันนี้เนื่องจากไปทะเลาะกับ สมาพันธ์ฟุตบอลของ บราซิว นอกจากนั้นยังมี เอกวาดอร์ และ เปรู ที่ร่วมถอนตัว ทำให้หวยมาตกที่ ชีเล โบลีเวีย ปารากวัย และอูรูกวัย ได้เป็นตัวแทนของทวีปอเมริกาใต้
ในทวีปเอเชียนั้น ฟิลิปปีนส์ อินโดเนเซีย และ พม่า ขอถอนตัว อินเดีย ก็เลยได้ไปร่วมแข่งฟุตบอลโลกกับเขาด้วย แต่ไปๆ มาๆ ดันจะขอเตะบอลด้วยเท้าเปล่า ซึ่งทาง ฟีฟ่า ไม่ยอม จึงถอนตัวออกไป เรื่องของชาวอินเดียนั้น ในปัจจุบันก็ยังเด็ดไม่แพ้กัน ญาติของผมที่ทำงานผลิตเครื่องบิน แอร์บัส เอ 380 ซึ่งจุผู้โดยสารได้ 500 กว่าที่นั่ง และถ้าจัดที่นั่งแบบประหยัดจริงๆก็จะได้ถึง 800 ที่นั่งทีเดียว แต่ อินเดีย ยังไม่หนำใจ ทำหนังสือไปทางบริษัทผู้ผลิตขอให้ทำเป็นที่ยืนทั้งหมดเพื่อจะได้อัดผู้โดยสารได้มากขึ้นไปอีก อันนี้ ทาง แอร์บัส ถึงกับส่ายหน้าครับ
ในทวีปยุโรป ออสเตรีย ขอถอนตัวโดยให้เหตุผลว่าทีมของตนอ่อนประสบการณ์อย่างมาก ไม่มีความพร้อมที่จะไปร่วมแข่งขันเลย เบลเจี้ยม ก็ขอถอนตัว ยังผลให้ สวิส กับ ตุรกี ไม่ต้องแข่งรอบคัดเลือกอีกต่อไป ได้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายไปเลย แต่หลังจากนั้น เนื่องจากปัญหาทางด้านเศรษฐกิจและค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปยัง บราซิว นั้นแพงเหลือหลาย ตุรกี จำต้องขอถอนตัวไปอีกราย
การถอนตัวของ ตุรกี กับ สก็อทแลนด์ ทำให้ ฟีฟ่า ต้องไปคว้าเอา ปอรตูเกา กับ ฝรั่งเศส ซึ่งตกรอบคัดเลือกไปแล้วกลับเข้ามาแข่งแทน ถึงกระนั้น ปอรตูเกา ก็ไม่ได้ให้ความสนใจ ขอปฏิเสธการเข้าร่วมการแข่งขัน ใครจะไปเชื่อครับ ฟุตบอลโลก ที่สมัยนี้ชาติไหนๆ ก็ใฝ่ฝันอยากเข้าร่วม แต่ในยุคก่อนนั้น ผู้คนยังไม่เห็นคุณค่า แค่หาทีมมาร่วมยังยากแทบรากเลือดขนาดนี้
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
ในอีกไม่ถึง 2 เดือน เราก็จะเข้าสู่เทศกาลที่แฟนบอลทั่วโลกตั้งตารอคอย นั่นคือมหกรรมฟุตบอลโลก ซึ่งจะเกิดขึ้นบนดินแดนซีกโลกใต้ แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ บราซิว ได้สิทธิ์ในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก ครั้งแรกนั้นต้องย้อนกลับไปในปี 1950
ตอนนั้น ฟุตบอลโลก เพิ่งผ่านพ้นไปเพียง 3 หนคือในปี 1930, 1934 และ 1938 แล้วก็เกิดสงครามโลก ครั้งที่ 2 แผนการที่จะจัดการแข่งขันในปี 1942 รวมทั้งในปี 1946 เป็นอันต้องม้วนเสื่อ เสียเวลาไปนานหลายปี หลังจากนั้น ฟีฟ่า ต้องการเร่งกลับมาจัดการแข่งขันโดยเร็ว ซึ่งหลายประเทศในทวีปยุโรปนั้น บ้านเมืองก็ยังอยู่ในสภาพพังยับเยิน ไม่ไหวจะจัด ดังนั้นเมื่อ บราซิว เสนอตัวก็เรียบร้อย ทุกคนเห็นพ้องด้วย
แม้ว่าจะได้ชาติเจ้าภาพแล้ว แต่ ฟีฟ่า ก็ยังต้องกุมขมับกับการตามล่าหาทีมเข้ามาร่วมแข่งขัน เนื่องจากแต่ละชาติก็แต่ละสถานะ อย่างเช่น อิตาลี แช้มพ์เก่า เพิ่งประสบอุบัติเหตุทางเครื่องบินกับ ทีมโตรีโน ในเที่ยวบินกลับจากไปแข่งกับ เบนฟีกา ที่ กรุงลิชโบอา ก่อนหน้าฟุตบอลโลก 1 ปี นักเตะเสียชีวิตถึง 18 คน ในจำนวนนี้หลายคนติดทีมชาติ
เจอรมานี กับ ญี่ปุ่น ชาติที่ถูกตราหน้าว่าเป็นผู้ก่อสงคราม ซึ่งต่างก็ยังถูกกองกำลังพันธมิตรเข้ามายึดครอง ทั้ง 2 ชาตินี้ถูกแบนจากการแข่งขันไปก่อน ส่วน กลุ่มหลังม่านเหล็ก คือ สหภาพโซเวียต ฮังการี และ เช็กโกสโลวาเกีย ต่างก็ขอถอนตัวไม่เข้าร่วมในรอบคัดเลือก
ในขณะที่ กลุ่มสหราชอาณาจักร นั้น อังกฤษ กับ สก็อทแลนด์ ได้ผ่านเข้าไปเล่นในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย เป็นครั้งแรก แต่ สก็อทแลนด์ ดันถอนตัวเนื่องจากเคยประกาศว่า หากไม่ได้แช้มพ์ British Home Championship จะไม่ส่งทีมไป บราซิว ผมอยากเรียนให้ทราบว่า การแข่งขันฟุตบอลในกลุ่มสหราชอาณาจักร (British Home Championship) ที่ว่านี้ประกอบด้วย อังกฤษ สก็อทแลนด์ เวลส์ และ อายร์แลนด์เหนือ รายการนี้ถือว่าเป็นการแข่งขันฟุตบอลระดับนานาชาติที่เก่าแก่ที่สุดทีเดียว มีมาตั้งแต่ปี 1883 และมาถูกยกเลิกไปแล้วเมื่อครบ 1 ศตวรรษ
หลายชาติกำลังแข่งในรอบคัดเลือกอยู่ดีๆ ก็ถอนตัวออกไปเฉยเลย เช่น อารเกนตีน่า อันนี้เนื่องจากไปทะเลาะกับ สมาพันธ์ฟุตบอลของ บราซิว นอกจากนั้นยังมี เอกวาดอร์ และ เปรู ที่ร่วมถอนตัว ทำให้หวยมาตกที่ ชีเล โบลีเวีย ปารากวัย และอูรูกวัย ได้เป็นตัวแทนของทวีปอเมริกาใต้
ในทวีปเอเชียนั้น ฟิลิปปีนส์ อินโดเนเซีย และ พม่า ขอถอนตัว อินเดีย ก็เลยได้ไปร่วมแข่งฟุตบอลโลกกับเขาด้วย แต่ไปๆ มาๆ ดันจะขอเตะบอลด้วยเท้าเปล่า ซึ่งทาง ฟีฟ่า ไม่ยอม จึงถอนตัวออกไป เรื่องของชาวอินเดียนั้น ในปัจจุบันก็ยังเด็ดไม่แพ้กัน ญาติของผมที่ทำงานผลิตเครื่องบิน แอร์บัส เอ 380 ซึ่งจุผู้โดยสารได้ 500 กว่าที่นั่ง และถ้าจัดที่นั่งแบบประหยัดจริงๆก็จะได้ถึง 800 ที่นั่งทีเดียว แต่ อินเดีย ยังไม่หนำใจ ทำหนังสือไปทางบริษัทผู้ผลิตขอให้ทำเป็นที่ยืนทั้งหมดเพื่อจะได้อัดผู้โดยสารได้มากขึ้นไปอีก อันนี้ ทาง แอร์บัส ถึงกับส่ายหน้าครับ
ในทวีปยุโรป ออสเตรีย ขอถอนตัวโดยให้เหตุผลว่าทีมของตนอ่อนประสบการณ์อย่างมาก ไม่มีความพร้อมที่จะไปร่วมแข่งขันเลย เบลเจี้ยม ก็ขอถอนตัว ยังผลให้ สวิส กับ ตุรกี ไม่ต้องแข่งรอบคัดเลือกอีกต่อไป ได้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายไปเลย แต่หลังจากนั้น เนื่องจากปัญหาทางด้านเศรษฐกิจและค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปยัง บราซิว นั้นแพงเหลือหลาย ตุรกี จำต้องขอถอนตัวไปอีกราย
การถอนตัวของ ตุรกี กับ สก็อทแลนด์ ทำให้ ฟีฟ่า ต้องไปคว้าเอา ปอรตูเกา กับ ฝรั่งเศส ซึ่งตกรอบคัดเลือกไปแล้วกลับเข้ามาแข่งแทน ถึงกระนั้น ปอรตูเกา ก็ไม่ได้ให้ความสนใจ ขอปฏิเสธการเข้าร่วมการแข่งขัน ใครจะไปเชื่อครับ ฟุตบอลโลก ที่สมัยนี้ชาติไหนๆ ก็ใฝ่ฝันอยากเข้าร่วม แต่ในยุคก่อนนั้น ผู้คนยังไม่เห็นคุณค่า แค่หาทีมมาร่วมยังยากแทบรากเลือดขนาดนี้
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *