ASTV ผู้จัดการรายวัน - แวดวงกอล์ฟอาชีพสตรีของไทยยังถือว่ามีเพียงไม่กี่คนที่จะประสบความสำเร็จในการโลดแล่นออกล่าเงินรางวัลต่างแดน แต่มีหนึ่งในระดับแถวหน้าที่หลายคนรู้จักเป็นอย่างดี แม้จะไม่ค่อยมีข่าวปรากฏในสื่อเมืองไทยมาก เนื่องจากไม่ได้เล่นอยู่ในทัวร์ดังของโลกอย่าง แอลพีจีเอ ทัวร์ แต่ชื่อของ อรนรินทร์ สัตยาบรรพต ก็ถูกกล่าวขวัญอย่างมากในวงการก้านเหล็กของประเทศญี่ปุ่น ในฐานะที่เธอเพิ่งคว้าแชมป์เปิดฤดูกาล เจแปน แอลพีจีเอ ทัวร์ 2014 เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ณ เวลานี้วงการกอล์ฟโลกต่างเริ่มให้การยอมรับว่า เจแปน แอลพีจีเอ ทัวร์ เป็นทัวร์ที่แข็งแกร่งที่สุดทัวร์หนึ่งของเอเชีย ด้วยเงินรางวัลและจำนวนแมทช์แข่งขันตลอดทั้งปี รวมถึงระบบการจัดการแข่งขันที่มีมาตรฐานสูงทัวร์หนึ่งของโลก ทำให้การได้มาซึ่งการ์ดทัวร์ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะแต่ละคนต้องฝ่าฟันรอบคัดเลือกถึง 4 สเตจกว่าจะได้มาซึ่งสิทธิในการลงแข่งขันแบบเต็มฤดูกาล
แต่ความฝันของนักกอล์ฟหลายคนที่จะเข้าเล่นในทัวร์นี้ก็ไม่ยากเกินความสามารถของโปรสาวมาดเท่ที่ชื่อ “หมู” หรือ อรนรินทร์ สัตยาบรรพต ที่สร้างประวัติศาสตร์เป็นหญิงไทยคนแรกที่ฝ่าฟันจนสามารถคว้าทัวร์การ์ดนี้มาครองอย่างเป็นทางการเมื่อ 4 ปีก่อน หลังจากคว้าแชมป์ แอลพีจีเอ โปรเทสต์ 2011 สเตจ 3 ที่สนาม แกรนด์เอจ จังหวัดนารา มาได้สำเร็จ
ย้อนกลับไปสมัยเรียนจบจากมหาวิทยาลัยเพอร์ดูที่ประเทศสหรัฐอเมริกา “หมู” ได้เทิร์นโปรและลงแข่งขันฟิวเจอร์ส ทัวร์ทันที ซึ่งหลังจากเทิร์นโปรในปีแรกก็ได้สิทธิแข่งขันใน แอลพีจีเอ ทัวร์ หลายรายการ เป็นเวลากว่า 3 ปีในการลงล่าเงินรางวัลในฝั่งอเมริกา จึงตัดสินใจข้ามฟากมาลองเชิงที่ญี่ปุ่นและถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญที่ทำให้ชื่อของ “O Sattaya” เป็นที่รู้จักในวงการกอล์ฟญี่ปุ่น แต่อย่างไรก็ตามการรักษาไว้ซึ่งสถานภาพสมาชิกของทัวร์ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่หนักหนาสาหัสไม่แพ้กัน
อรนรินทร์ เล่าให้ฟังถึงการเริ่มต้นครั้งสำคัญนี้ว่า “เหตุผลที่เลือกทัวร์ญี่ปุ่นก็เริ่มมาจากโปรที่สอนแนะนำว่าให้ลองมาที่นี่ดู เพราะเป็นทัวร์ที่ดีและเงินรางวัลก็ดี พอสามารถผ่านเข้ามาเล่นได้ก็รู้สึกประทับใจที่เพื่อนๆ ร่วมอาชีพในทัวร์ทุกคนนิสัยดี น่ารัก และทัวร์นี้มีรายการแข่งขันเยอะ เราสามารถเลือกได้ และยังใกล้เมืองไทยเดินทางกลับบ้านสะดวก แต่กว่าจะได้มาเล่นใน เจแปน ทัวร์ ก็ถือว่ายากทีเดียวเพราะต้องผ่านการควอลิฟายถึง 4 สเตจ อากาศก็หนาว แรกๆ ไม่ค่อยคุ้น เพราะที่อเมริกาช่วงหน้าหนาวก็ไม่หนาวเท่านี้ ยิ่งช่วงปลายปีเดือนธันวาคมที่ญี่ปุ่นหนาวมาก ต้องปรับตัวเยอะ รู้สึกภูมิใจที่เป็นคนไทยคนแรกที่ได้เข้ามาเล่นในทัวญี่ปุ่นได้”
ดูเหมือนว่าเส้นทางของการแข่งขันกอล์ฟที่ญี่ปุ่นอย่างเต็มตัวในช่วง 2 ปีแรกไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเพราะในปี 2012 โปรหมูทำอันดับเงินรางวัลรวมได้ที่ 59 จึงต้องไปคิวทีใหม่ในปลายปี แต่ก็กลับมาได้อีกครั้ง กระทั่งเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2013 โปรหมูสร้างชื่อด้วยการคว้าแชมป์แรกในแดนปลาดิบได้สำเร็จจากรายการ ซันโย ชินบุน เลดีส์คัพ ผลจากการได้แชมป์รายการนี้ทำได้สิทธิ์ลงแข่งขันรายการ เจแปน แอลพีจีเอ 5 รายการ และเมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทางแฟนกอล์ฟชาวไทยจึงได้เห็นโปรหมูคว้าแชมป์รายการที่สองได้จากรายการ ไดกินส์ เลดีส์ กอล์ฟ แชมเปียนชิป ที่จังหวัดโอกินาวา มาได้เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ที่สำคัญรายการนี้เป็นแมทช์เปิดฤดูกาล เจแปน แอล พีจีเอ ทัวร์ 2014 ทำให้คนในวงการกอล์ฟญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็นสื่อมวลชนและแฟนกอล์ฟท้องถิ่นหรือแม้กระทั่งคนไทยที่อยู่ที่นั่นให้ความสนใจและจับตามองนักกอล์ฟจากเมืองไทยคนนี้ ซึ่งความสำเร็จทั้งหมดทั้งปวงนี้ “โปรหมู” กล่าวขอให้เครดิตกับโค้ชคนดังที่ชื่อ ทาดาชิ เอซูเระ ที่ให้คำแนะนำต่างๆ มาเป็นเวลา 3 ปีแล้ว โดยเจ้าตัวเล่นถึงบุคคลที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จผู้นี้ว่า “พอดี หมู ไปพักที่โรงแรมหนึ่งช่วงแข่งขัน ได้มีโอกาสเปิดวีซีดีสอนกอล์ฟในห้อง เห็นว่าเขามีวิธีการสอนกอล์ฟที่ดี ตอนนั้นถามเพื่อนว่าคนนี้คือใคร และพอเราได้เล่นเต็มปีที่ญี่ปุ่น ก็เลยให้เพื่อนติดต่อให้ ยอมรับว่าเขาช่วยเราได้เยอะมาก ซึ่งตอนที่คว้าแชมป์ที่โอกินาวาโค้ชก็มาถือถุงให้”
นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งบุคคลสำคัญที่ชื่อ มาโกโตะ นากาอิ ที่เป็นทั้งแคดดี ล่าม และเพื่อน มากว่า 3 ปี โดยทั้งคู่รู้จักกันที่สนาม ธนาซิตี้ ก่อนที่ “โปรหมู” จะชักชวนให้มาช่วยถือถุงให้ ซึ่งเธอเองไม่ลังเลที่จะรับหน้าที่นี้ โดย มาโกโตะ พูดถึงโปรของเธอว่า “ฉันรู้จัก อรนรินทร์ ครั้งแรกที่สนาม ธนาซิตี้ ตอนนั้นเธอเล่นที่สนามแห่งนั้น ฉันเองก็เป็นนักกอล์ฟที่ได้ประกาศนียบัตรแล้ว เราทานข้าวด้วยกันบ่อย คุยกันถูกคอ และพอ อรนินทร์ ได้เล่นในทัวร์ที่ญี่ปุ่นเต็มตัว เธอก็ชวนฉันให้มาช่วยถือถุง และฉันก็ไม่ลังเลที่จะรับหน้าที่นี้ เพราะถือเป็นนักกอล์ฟที่นิสัยดี และเป็นเพื่อนที่น่ารัก เธอเป็นคนที่ตั้งใจมาก ฉันเชื่อว่าเธอจะประสบความสำเร็จสูงสุดในทัวร์นี้ได้ในไม่ช้า”
เป้าหมายต่อไปของ อรนรินทร์ คือการสัมผัสแชมป์เมเจอร์ของ เจแปน แอลพีจีเอ ทัวร์ ให้ได้ในปีนี้ และเธอมองถึงการก้าวขึ้นสู่การเป็นนักกอล์ฟหมายเลขหนึ่งของทัวร์นี้ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ในศึก ยามาฮ่า เลดีส์ โอเพน คัตสึรากิ ซึ่งเป็นรายการที่ 5 ของฤดูกาล 2014 แข่งขันที่ คัตสึรากิ กอล์ฟ คลับ จังหวัดชิสึโอกะ ระหว่างวันที่ 3-6 เมษายนที่ผ่านมา ลงแข่งขันด้วยตำแหน่งนักกอล์ฟอันดับหนึ่งในตารางเงินรางวัลสะสมฤดูกาล 2014 และจบการแข่งขันที่อันดับ 23 ร่วม และได้พูดผลงานของตัวเองโดยรวมและเป้าหมายสำคัญว่า “ที่ผ่านมาค่อนข้างพอใจกับผลงานเพราะทำได้ตามที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้ โดยปีที่แล้วจบฤดูกาลที่อันดับ 13 ปี แต่ยังต้องปรับปรุงลูกสั้นและลูกพัตต์ยู่เพื่อที่จะได้เป็นผู้เล่นอันดับต้นๆ ของทัวร์นี้ และก็เริ่มเห็นผลเมื่อสามารถคว้าแชมป์รายการแรกของปีนี้มาได้ ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีมาก ปีนี้อยากจบท็อป 5 และเชื่อว่าเป็นไปได้ ทั้งนี้ลูกสั้นลูกพัตต์หมูต้องดีกว่านี้ และมีโอกาสขึ้นเป็นมืออันดับหนึ่งของที่นี่ได้ถ้าพัฒนาลูกชิพลูกพัตต์ได้ และอยากให้ทำได้เร็วที่สุดค่ะ”
สำหรับผลงานของ อรนรินทร์ ในปี 2013 ลงแข่งขัน 10 รายการ คว้าแชมป์ 1 รายการ และจบลงใน 10 อันดับแรก 3 รายการ ไม่ผ่านตัดตัวเพียงรายการเดียว โดยทำเงินรางวัลสะสมรวม 31,584,094 เยน หรือประมาณ 9.2 ล้านบาท และออกสตาร์ทฤดูกาล 2014 ได้อย่างเยี่ยมด้วยการประเดิมแชมป์แรกของปี ซึ่งเจ้าตัวมั่นใจว่าความฝันที่จะก้าวขึ้นสู่บัลลังก์มือหนึ่งของ เจแปน แอลพีจีเอ ทัวร์ไม่ไกลเกินเอื้อม และเราเชื่อว่าโอกาสที่จะมีชื่อของ “O Sattaya” ติดอยู่ทำเนียบแชมป์ทำเงินของญี่ปุ่นนั้นมีความเป็นไปได้สูงทีเดียว
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
