“โค้ชเฮง” ไม่เชียร์ทีมเก่าขอเอาใจช่วย “เซราะกราว”

“โค้ชเฮง” วิทยา เลาหกุล กุนซือมากประสบการณ์ กลั้นใจไม่เชียร์ เซเรโซ โอซากา อดีตต้นสังกัดตนเองสมัยไปโลดแล่นที่ประเทศญี่ปุ่น แต่ขอเอาใจช่วย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตัวแทนจากประเทศไทยแทน ในศึกเอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก ที่ทั้งคู่ต้องโคจรมาพบกัน วันที่ 18 มีนาคม นี้ พร้อมเชื่อ “เซราะกราว” สู้ได้แน่นอน

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์โตโยต้า ไทย พรีเมียร์ ลีก ฤดูกาลที่แล้ว มีคิวลงเล่นศึกเอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก 2014 นัดสำคัญ ด้วยการบุกไปเยือน เซเรโซ โอซากา ทีมดังแดนปลาดิบ วันที่ 18 มีนาคม นี้ ที่สนามโอซากา นาไก เวลา 18.00 น.(ตามเวลาท้องถิ่น) หลังจากผ่านไป 2 นัดแรก ทั้งคู่เก็บได้ 1 แต้มเท่ากัน รั้งอันดับ 3 และ 4 ของกลุ่มอี ตามลำดับ

ด้าน “โค้ชเฮง” วิทยา เลาหกุล ประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิคของชลบุรี เอฟซี ที่เคยค้าแข้งในประเทศญี่ปุ่นกับสโมสรยันมาร์ ดีเซล ขณะที่ยังเป็นลีกกึ่งอาชีพ เจเอสแอล(JSL) ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อมาเป็น เซเรโซ โอซากา ในปัจจุบัน กล่าวผ่าน MGR SPORT ว่าทีมดังแดนซามูไรทีมนี้มีจุดเด่นทีมเกมรุก

“แม้เวลาจะผ่านมานานแล้ว แต่เท่าที่ผมติดตาม เซเรโซ โซากา ยังมีจุดเด่นอยู่ที่เกมรุกไม่ต่างจากตอนที่ใช้ชื่อ ยันมาร์ ดีเซล ดังนั้น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถือว่าเจองานหนักแน่นอน แต่อย่างไรก็ตามผมยังเชื่อว่าพวกเขาจะต่อกรกับทีมญี่ปุ่นได้สูสี เพราะถ้าเทียบมาตรฐานตอนนี้ระหว่างบุรีรัมย์ฯกับทีมระดับเจลีกถือว่าไม่ห่างกันทั้ง แท็กติก เทคนิค ความแข็งแกร่ง หรือสภาพจิตใจ อยู่ที่ตัวผู้เล่นมากกว่าว่าเมื่อลงสนามไปแล้วจะทำได้ดีขนาดไหนเพราะสิ่งที่ยังแตกต่างกันอยู่คือเรื่องความเข้าใจเกมของผู้เล่น”

“ที่สำคัญเกมนี้บุรีรัมย์ฯอาจไม่ค่อยสดเท่าไหร่ เห็นได้จากหลังแพ้โปฮัง สตีลเลอร์ส 1-2 ก็มาโดนยิงอีก 3 ประตูในลีก (บุกแพ้บีอีซี เทโรศาสน 2-3) และต้องเดินทางต่อเลย ผิดกับ เซเรโซฯที่เพิ่งชนะชิมิสุ เอส-พัลส์ มา 4-1 ดังนั้นต้องขึ้นอยู่กับบุรีรัมย์ฯแล้วว่าจะเล่นได้ดีขนาดไหน ถ้าเขาไม่กลัวทีมญี่ปุ่นเกินไปสู้ได้แน่นอน” วิทยา กล่าว

พร้อมกันนี้กุนซือวัย 60 ปี ยังทิ้งท้ายว่าตนขอเอาใจช่วย “ปราสาทสายฟ้า” ในเกมนี้ “ลึกๆ แล้วผมก็ต้องเชียร์ทีมเก่าที่เคยลงเล่นอยู่แล้ว แต่เกมนี้ผมขอเชียร์และเอาใจช่วยบุรีรัมย์ฯให้ประสบความสำเร็จ และหวังว่าจะได้ดูเกมที่สนุกและสูสี”

สำหรับ “โค้ชเฮง” เคยค้าแข้งให้กับ ยันมาร์ ดีเซล หรือ เซเรโซ โอซากา ในปัจจุบัน ระหว่างปี พ.ศ. 2522-2524 และสามารถทำได้ 14 ประตู จาก 33 นัดในลีก อีกทั้งยังได้รับเลือกให้เป็น 1 ในนักฟุตบอลยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล และเคยเป็นผู้ที่ทำประตูสูงสุดในถ้วย เอฟ เอ คัพ ของญี่ปุ่นด้วยจำนวน 6 ประตู สมัยค้าแข้งกับทีม มัตซึชิตะ (กัมบะ โอซากะ ในปัจจุบัน)

* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *