ออสการ์ ปิสโตเรียส นักกรีฑาพิการชื่อดังชาวแอฟริกาใต้ ถึงกับอาเจียนและมีอาการผิดปกระหว่างฟังผลชันสูตรศพ รีวา สตีนแคมป์ แฟนสาวของเขา ซึ่งผลระบุว่า รอยกระสุนจากที่เกิดเหตุมีความสัมพันธ์กับบาดแผลบนร่างกาย ก่อนที่ผู้พิพากษาจะต้องยุติการไต่สวนและเลื่อนการเผยผลชันสูตรไปในวันรุ่งขึ้น
เมื่อช่วงเช้าของวันจันทร์ที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา “เบลด รันเนอร์” ยังเดินทางมาที่ศาลพริตอเทีย ในประเทศบ้านเกิด เป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน เพื่อฟังคำไต่สวนจากครดีสะเทือนขวัญลั่นไกยิง รีวา สตีนแคมป์ แฟนสาวของเขาเองจนเสียชีวิตคาที่เมื่อวันวาเลนไทน์ปี 2013
ในวันนี้หลังจากสืบพยานจากเพื่อนและคนใกล้ชิดทั้งหมดแล้ว ธอคอสลี มาซิปา ผู้พิพากษาสูง เรียกตัว เกิร์ต ซายแมน นักพยาธิวิทยาผู้ทำหน้าที่ชันสูตรศพของ รีวา สตีนแคมป์ มาเปิดเผยผลชันสูตร ซึ่งผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างฟังการรายงาน นักวิ่งวัย 27 ปีดูมีอาการผิดปกติคล้ายคนไม่สบาย และร่างกายกระตุกเล็กน้อย ก่อนจะอาเจียนและหลั่งน้ำตาออกมาตลอด
โดยผลการชันสูตรของ เกิร์ต ซายแมน ระบุว่า สตีนแคมป์ ถูกยิงทั้งหมด 3 นัด ที่ศรีษะ สะโพก และช่วงแขน ซึ่งบาดแผลบนร่างกายทุกจุดสัมพันธ์กับรอยกระสุนที่ทะลุจากบานประตูในวันสังหาร และบาดแผล 2 จุดที่แขนกับสะโพกสามารถทำให้เธอเสียชีวิตได้ทันทีจากเสียเลือด
ผลชันสูตรยังชี้ว่ากระสุนที่ ปิสโตเรียส ใช้ในการสังหารแฟนสาวของเขาเป็นกระสุนหัวดำ (black talon) ที่หายากและใช้ในการสังหารโดยเฉพาะ แถมมีการสั่งเลิกผลิตไปแล้วในหลายประเทศ โดยเป็นหัวกระสุนชนิดที่สร้างความเสียหายต่อเนื้อเยื่อเป้าหมายได้มากที่สุด และแตกกระจายเมื่อถูกเป้าหมายทำให้เกิดความยากลำบากต่อทีมแพทย์ที่จะผ่าตัดนำหัวกระสุนออกด้วย
นอกจากนี้ ผลการชันสูตรกระเพาะอาหารพบว่า ผู้ตายรับประทานอาหารก่อนเสียชีวิตราว 2 ชั่วโมง และตามคดี รีวา ถูกยิงเสียชีวิตช่วงเช้ามืด เวลา 03.00 น. วันวาเลนไทน์ปีก่อน สรุปคร่าวๆ ว่าเธออาจรับประทานตอน 01.00 น. โดยขัดแย้งกับคำให้การของ ปิสโตเรียส ที่อ้างว่าคู่เข้านอนตอน 4 ทุ่ม แต่ตื่นกลางดึก และเข้าใจผิดคิดว่าคนร้ายแอบเข้าบ้าน
อย่างไรก็ตาม ฝั่งทีมทนายของ ปิสโตเรียส ยังคงให้การปฏิเสธเช่นเคย โดยย้ำว่า เป็นการเข้าใจผิดคิดว่าเป็นผู้บุกรุก และด้วยอาการของนักวิ่งฮีโรโอลิมปิก 2012 ที่ไม่สู้ดี ทำให้ผู้พิพากษาต้องยุติการไต่สวนไว้ก่อนและจะเรียกนักพยาธิวิทยามาให้ปากคำรายงานผลการชันสูตรในวันอังคารที่ 11 มี.ค. ต่อไป
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *