“บิ๊กหนุ่ม” กนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นประธานจัดงานนิเทศ พ.ร.บ.ส่งเสริมกีฬาอาชีพ 2556 ฉบับแรกของเอเชีย อย่างเป็นทางการ ด้านคนกีฬาเทเสียงเชื่อเป็นผลดีต่อวงการมหาศาล
เมื่อวันที่ 25 ก.พ.57 ณ ห้องประชุมชั้น 25 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย นายสมบัติ คุรุพันธ์ รักษาการผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกันเป็นประธานในพิธีเปิดงานแถลงข่าวการนิเทศและประชาสัมพันธ์พระราชบัญญัติส่งเสริมกีฬาอาชีพ พ.ศ. 2556 โดยมี นายกนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการ กกท.และสมาคมกีฬาอาชีพทั้ง 12 สมาคม ตลอดจนบุคลากรที่เกี่ยวข้องร่วมงานกันอย่างพร้อมเพรียง
นายสมบัติ คุรุพันธ์ รักษาการผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับวงการกีฬาของไทย ที่มีกฎหมายกีฬาอาชีพที่จะช่วยพัฒนากีฬาอาชีพของไทยไปสู่มาตรฐานสากลให้ใช้อย่างเป็นทางการหลังจากที่ได้มีการผลักดันมาเป็นเวลาหลายปี “ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมา วงการกีฬาอาชีพของไทยประสบปัญหามากมาย ทั้งการเอารัดเอาเปรียบกัน หรือปัญหาเรื่องสัญญานักกีฬากับสโมสร หรือแม้กระทั่งปัญหาเรื่องรายได้นักกีฬา รวมถึงปัญหาต่างๆ อีกมากมาย การมี พ.ร.บ.ส่งเสริมกีฬาอาชีพ ออกมาในครั้งนี้ ก็จะช่วยคุ้มครองทุกฝ่าย หลังจากที่ได้มีการประกาศใช้อย่างเป็นทางการแล้ว เชื่อว่าทุกฝ่ายจะได้รับประโยชน์และสามารถพัฒนากีฬาอาชีพของไทยให้มั่นคงและยั่งยืนต่อไป”
นายกนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการ กกท.กล่าวว่า ตามที่ นายกรัฐมนตรีได้ทูลเกล้าฯ ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมกีฬาอาชีพ พ.ศ. .... หรือ พ.ร.บ.ส่งเสริมกีฬาอาชีพ และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงลงพระปรมาภิไธย และประกาศในราชกิจจานุเบกษาไปแล้ว ตามกฎหมายแล้วจะต้องบังคับใช้ พ.ร.บ.ฉบับนี้เมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาครบ 60 วัน นั่นก็คือมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2557 ที่ผ่านมา นั้น โดย กกท.ได้เตรียมแผน 3 ขั้น เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับกฎหมายฉบับนี้ และให้ทุกฝ่ายได้ทำความเข้าใจก่อนนำกฎหมายมาใช้จริง ได้แก่ ข้อแรก จัดเตรียมความพร้อมทางด้านบุคลากรก่อนจะเริ่มนำกฎหมายมาใช้, ข้อที่ 2 เตรียมแผนทำการนิเทศให้ความรู้แก่ผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ความรู้ความเข้าใจ โดยอาจมีการเชิญเข้ามา หรือส่งเจ้าหน้าที่ออกไป และข้อที่ 3 ดำเนินการจัดทำกฎหมายลำดับรองขึ้นมาบังคับใช้ต่อไป
“ขั้นตอนแรกได้เริ่มแล้ววันนี้ กกท.ได้เชิญทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาร่วมรับฟังรายละเอียดและขั้นตอนการปฏิบัติของ พ.ร.บ.ส่งเสริมกีฬาอาชีพ โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือสมาคมกีฬาต่างๆ ในส่วนของกฎหมายลำดับรอง นั้น กกท.ได้ยกร่างเสร็จแล้วทั้ง 27 ฉบับ เหลือเพียงนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการกีฬาอาชีพเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ ซึ่งคาดว่าน่าจะไม่มีปัญหาและใช้เวลาไม่นานเท่าที่ควร กว่าที่จะออก พ.ร.บ.ส่งเสริมกีฬาอาชีพฉบับนี้ได้ ทางรัฐบาลโดย กกท.ได้ศึกษาข้อมูล ผลดี ผลเสียมาแล้วหลายปี และพยายามที่จะผลักดันมาตลอด จนสามารถมีกฎหมาย พ.ร.บ.ส่งเสริมกีฬาอาชีพ ฉบับสมบูรณ์และประกาศใช้ได้สำเร็จ”
“ซึ่งต้องบอกว่ามีแต่ประโยชน์ต่อวงการกีฬาอาชีพของไทยแน่นอน การที่ประเทศไทยประกาศใช้ พ.ร.บ.ส่งเสริมกีฬาอาชีพนี้ ถือเป็นครั้งแรกของเอเชียด้วย ซึ่งแน่นอนว่านอกจากจะเป็นการช่วยเหลือ ส่งเสริม สนับสนุนสโมสรกีฬาอาชีพ นักกีฬาอาชีพ บุคลากรกีฬาอาชีพ และผู้จัดการแข่งขันกีฬา อีกทั้งยังเป็นการยกระดับพัฒนากีฬาอาชีพของไทยไปสู่ระดับสากลอีกด้วย เชื่อว่าในอนาคตกีฬาอาชีพของไทยจะได้รับความสนใจจากผู้สนับสนุนมากขึ้น เพราะเมื่อทุกฝ่ายเห็นว่ามี พ.ร.บ.ส่งเสริมกีฬาอาชีพมาคุ้มครองแล้ว เชื่อว่าผู้สนับสนุนกีฬาก็จะให้ความไว้วางใจในวงการกีฬาอาชีพของไทยมากขึ้นด้วย”
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการจัดเสวนาเรื่อง “พระราชบัญญัติส่งเสริมกีฬาอาชีพ ไม่รู้...ไม่ได้” นำทีมโดย นายกนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการ กกท., นางนฤมล ศิริวัฒน์ สมาชิกวุฒิสภา, ดร.องอาจ ก่อสินค้า ประธานไทยพรีเมียร์ลีก, นายชยพัทธ์ สุนายนต์ นายกสมาคมกอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย, นายเลอภพ โสรัจจ์ หัวหน้าข่าวกีฬา นสพ.เดลินิวส์, นายรณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้อำนวยการสโมสรฟุตบอลเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และนายดัสกร ทองเหลา นักฟุตบอลทีมชาติไทย ร่วมเสวนา ซึ่งทุกคนต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า พ.ร.บ.ฉบับนี้นั้นมีประโยชน์ต่อวงการกีฬาอย่างแท้จริง