“มังกรไฟ” บีอีซี-เทโรศาสน ทีมยักษ์หลับในศึกโตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก กลับมาทวงฉายา “เจ้าบุญทุ่ม” อีกครั้ง หลังเทงบประมาณเป็นจำนวนเงิน 120 ล้านบาท หวังติด 1 ใน 4 ศึกไทยลีก 2014 พร้อมลั่นคว้าแชมป์บอลถ้วย เรียกศรัทธาแฟนบอล
เมื่อเวลา 13.30 น.ณ อาคารมาลีนนท์ ทาวเวอร์ งานแถลงข่าวสโมสรยักษ์ใหญ่ทีมมังกรไฟ “บีอีซี-เทโรศาสน” เปิดตัวทีมฤดูกาล 2014 โดยมี มร.ไบรอัน แอล.มาร์การ์ ประธานสโมสรเป็นประธานงานแถลงข่าว พร้อมด้วยการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของนักเตะแข้งทองที่ทีมคว้าตัวมาร่วมทีมสู้ศึกไทยพรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2014 นี้ โดยปีนี้ ทีมบีอีซี-เทโรศาสน เปิดตัวภายใต้สโลแกน “We Are Tero” ที่แสดงความหมายอยู่ 2 เรื่อง ได้แก่ ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของทีม และความยิ่งใหญ่ของสโมสร พร้อมด้วยการเปิดตัวนักเตะในชุดยูนิฟอร์มที่จะลงสนามในชุดเหย้าและชุดเยือน รวมถึงชุดเยือนชุดที่ 2 รวมทั้งหมด 3 ชุด
นอกจากนี้สปอนเซอร์ที่ร่วมสนับสนุน “ทีมมังกรไฟ” ยังคงแน่นหนาเหมือนเช่นเคย โดยมี ไทยทีวีสีช่อง 3 เป็นผู้สนับสนุนหลักของทีม พร้อมด้วย เอฟบี แบตเตอรี่, เบียร์ลีโอ, สายการบินแอร์เอเชีย, ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ และแบล็คแคนยอน
ด้านผู้จัดการทั่วไป มร.โรเบิร์ต โปรคูเรอร์ ได้กล่าวถึงเป้าหมายของทีมในปีนี้ว่า “ปีนี้เราได้สปอนเซอร์ที่ได้ให้ความไว้วางใจกับสโมสรของเรามากขึ้นกว่าปีก่อนๆ และเราได้เสริมตัวผู้เล่นในหลายๆ ตำแหน่ง รวมถึงมีแผนการวางเตรียมทีมที่ดีกว่าที่ผ่านมา เราเตรียมทีมอย่างหนักในช่วงก่อนเปิดฤดูกาล แน่นอนว่าการวางงบประมาณ 120 ล้านบาทนั้น ก็เพื่อเป้าหมายของทีมเรานั่นคือการติด 1 ใน 4 การแข่งขันไทยพรีเมียร์ลีกให้ได้ในฤดูกาลนี้ ซึ่งเราไม่ได้มีงบประมาณแบบไร้ขีดจำกัดเหมือนทีมอื่น จึงต้องพยายามมองหาดาวรุ่งจาก ดิวิชั่น 1 หรือลีกภูมิภาคมาชวยเสริมความแข็งแกร่ง ส่วนผู้เล่นต่างชาติอย่าง อาริซา มาคูคูลา ก็น่าจะเป็นผู้เล่นที่มีโปรไฟล์สูงสุดในไทยพรีเมียร์ลีก เพราะเคยผ่านหลายสโมสรในลาลีกาของประเทศสเปน นอกจากนี้เรายังได้ ไดกิ อิวามาซะ กองหลังที่พร้อมเข้ามาช่วยพัฒนาฟุตบอลไทยอย่างเต็มที่”
นอกจากนี้ยังมีกระแสของกุนซือชาวบราซิล ที่เข้ามาช่วยทีมในเลกที่ 2 ของฤดูกาล 2013 แต่ทำผลงานจนอาจจะถูกปลดออกนั้น รอบสันกล่าวว่า “ตอนนี้ปัญหาของทีมไม่ได้อยู่ที่ผลงานของโค้ช แต่อยู่ที่ระบบของทีมที่ยังไม่มีรูปแบบที่ชัดเจน และปัญหาที่หลายคนกังวลคือกองหน้าที่ยังหามาแทน คลีตัน ซิลวา ไม่ได้นั้น เชื่อว่ายังไม่ใช่ปัญหาหลักของทีมเพราะยังมีหลายทีมในพรีเมียร์ลีกอังกฤษที่ไม่มีกองหน้า แต่ก็สามารถทำผลงานออกมาได้ดี”
ขณะที่ “บิ๊กแมน” ธัญญะ วงศ์นาค ผู้จัดการทีมมังกรไฟ เปิดเผยว่า “ปีนี้ทีมใช้สโลแกนหลักคือ We Are Tero ซึ่งมีความหมายถึงการไล่ล่าความฝันอันยิ่งใหญ่ ซึ่งงบประมาณในปีนี้จะรวมถึงการปรับปรุงสนาม 72 พรรษา มีนบุรี ทั้งระบบระบายน้ำ และเพิ่มเติมไฟสนาม นอกจากนั้นยังรวมถึงการทำทีมในชุดเยาวชนด้วย โดยจับมือกับโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนอย่างเต็มตัว และทำทีม บีซีซี-เทโร ศาสน ในศึกดิวิชัน 2 ซึ่งเราใช้เด็กจากชุดเยาวชนขึ้นมาเล่นชุดใหญ่ทั้งไทยและต่างชาติ”
สำหรับ “เมสซี่เจ” ชนาธิป สรงกระสินธุ์ นักเตะดาวรุ่งของทีม “มังกรไฟ” บีอีซี เทโรศาสน และทีมชาติไทย เปิดเผยถึงอาการบาดเจ็บว่า “ต้องรออีก 2 เดือนถึงจะสามารถลงสนามได้ แต่การที่กระดูกจะฟื้นตัวกลับมาสมบูรณ์ 100 เปอร์เซนต์นั้น ยังต้องรออีก 3-6 เดือน ซึ่งตอนนี้รู้สึกอยากลงสนามให้เร็วที่สุด และจากการที่เดินทางไปทดสอบฝีเท้ากับชิมิสึ เอส-พัลส์ ทีมดังในเจลีก ทำให้ได้ประสบการณ์ ระเบียบวินัยของญี่ปุ่น และประกอบกับตัวเราเองที่โตขึ้นมาก เชื่อว่าจะสามารถพาทีมคว้าแชมป์บอลถ้วยได้อย่างแน่นอน”