บริษัท บีอีซี-เทโร เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะฝ่ายจัดการแข่งขัน ได้ประกาศยุติการจัดการแข่งขันเทนนิส เอทีพี เวิลด์ ทัวร์ รายการ “ไทยแลนด์ โอเพน” ที่ประเทศไทยแล้ว หลังจาก เอทีพี เจ้าของลิขสิทธิ์ได้นำไปจัดการแข่งขันที่เมืองเสินเจิ้น สาธารณรัฐประชาชนจีน ช่วงปลายเดือนกันยายนปีหน้านั้น อย่างไรก็ตามจะมีศึก “เทนนิส ไทยแลนด์ อินวิเตชัน” มาแทนที่ไทยในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งรับรองว่าจะได้เห็นมือดังระดับโลกเช่นเคย
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ นายกลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า สำหรับสาเหตุที่ย้ายไปจัดที่จีน เพราะไทยได้จัดทัวร์นาเมนต์นี้มาแล้ว 11 ปี ปรากฏว่าผู้จัดคือ บีอีซี-เทโรฯ ที่เป็นผู้เริ่มต้นและร่วมงานกับลอนเทนนิสสมาคมฯ กันมา ได้ประสบเรื่องการขาดทุนจากการจัดมาตลอด แต่ต้องการสร้างกีฬาเทนนิสให้เป็นที่นิยม สร้างความสุขทางด้านกีฬาให้กับประชาชน เทนนิสเป็นกีฬาที่ทั่วโลกดู จึงมีการถ่ายทอดไปทั่วโลก ก็จะช่วยประชาสัมพันธ์ประเทศไทย เป็นประโยชน์ต่อด้านการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ จึงเป็นเหตุผลที่ยอมขาดทุน
“ตลอดระยะเวลา 11 ปีที่ผ่านมา เราก็พยายามเจรจากับเจ้าของลิขสิทธิ์ ซึ่งเอามาจัดที่ประเทศไทย ทางบีอีซี-เทโรฯ ก็พยายามเจรจาขอซื้อเลยได้ไหมเพื่อความต่อเนื่อง เพราะทุกวันนี้เราไม่ได้เป็นเจ้าของ แต่ต้องจ่ายเงินให้เขาในแต่ละปี เมื่อไม่มีความต่อเนื่องในการเป็นเจ้าของ ทางบีอีซี-เทโรฯ ไปคุยกับสปอนเซอร์ ก็ไม่สามารถทำอะไรที่ผูกพันเป็นสัญญาระยะยาวได้ จึงทำให้ขาดการสนับสนุน อีกทั้งยังเป็น เอทีพี ในระดับคะแนนสะสม 250 ซึ่งคะแนนน้อย ฉะนั้น โอกาสที่ผู้เล่นระดับสูงๆ ของโลก จะมาก็น้อยมาก เมื่อต้องการผู้เล่นอันดับโลกสูงๆ ก็ต้องใช้ความสัมพันธ์หรือมูลเหตุอื่นไปเจรจา ทำให้ต้นทุนสูงขึ้นไปอีก” นายสุวัจน์ กล่าว
นายกลอนเทนนิสสมาคมฯ กล่าวว่า ลอนเทนนิสสมาคมฯ ได้คุยกับ บีอีซี-เทโรฯ ว่า จะไม่เลิกจัด แต่จะเปลี่ยนรูปแบบการจัดการแข่งขัน กำหนดให้มีทุกปี โดยจะจัดให้ยิ่งใหญ่ จึงได้คิดว่าจะจัดเป็น “เทนนิส ไทยแลนด์ อินวิเตชัน” เหมือนกับทัวร์นาเมนต์พิเศษช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ที่เคยจัดที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่มีการถ่ายทอดและเป็นข่าวไปทั่วโลก ได้รับความสนใจมากๆ
“เราจะเปลี่ยนรูปแบบเป็นเทนนิส ไทยแลนด์ อินวิเตชัน สำหรับนักเทนนิสชาย จะเชิญนักเทนนิสดังๆ ที่อยู่ในอันดับท็อปเทนของโลก สมมติว่า เชิญอันดับ 1 หรือ 2, 3, 4 ที่อยู่ในท็อปเทนของโลก อาจจะเชิญมาสัก 4 คน แข่งขันแบบพบกันหมด หรืออาจจะมาแข่งขันเป็นรอบเซมิไฟนอลสำหรับนักหวดในท็อปเทนของโลกเท่านั้น” นายสุวัจน์ เผย
นายสุวัจน์ กล่าวต่อว่า “ขณะนี้ลอนเทนนิสสมาคมฯ ได้ตกลงกับ บีอีซี-เทโรฯ เรียบร้อยแล้ว โดย นายไบรอัน แอล มาร์การ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท บีอีซี-เทโรฯ ได้เริ่มประสานกับเอเยนซีของนักกีฬาดังๆ ของโลกแล้ว และจะพยายามจัดในช่วงเวลาใกล้เคียงกับที่เคยจัดเทนนิส ไทยแลนด์ โอเพน ตนอยากจะบอกกับแฟนๆ ว่า เทนนิสยังมีอยู่เหมือนเดิม เพียงแต่เปลี่ยนรูปแบบการจัด แต่จะสนุกกว่าเดิม เทนนิสจะยังช่วยเรื่องส่งเสริมภาพลักษณ์ ช่วยเรื่องท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของไทยเหมือนเดิม อย่างไรก็ตาม ถ้าไทยสามารถเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เองได้ ก็อยากจะจัดการแข่งขันในระดับที่สูงกว่า 250 อยากจัดการแข่งขันระดับ 500 หรือ 1000 ไปเลย ซึ่งพยายามเจรจาอยู่”